Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ค้นหาบล็อกนี้

คลังไฮไลท์แมตช์

ไฮไลท์คลิป ขอปล่อยของหน่อย! แฟนป่วนเดาะบอลโชว์ตอนนักเตะชักรูปหมู่ 12bet 05/05/2555

วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2555



แฟนบอลตัวป่วนลงมาวิ่งสร้างความวุ่นวายในสนามฟุตบอลช่วงขณะแข่งขันเราคงได้เห็นกันอยู่เป็นระยะแต่กับเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนักเมื่อทีม เฮราเคิลส์ ทีมฟุตบอลในระดับเอเรดิวิชันของฮอลแลนด์ ทั้งนักเตะและทีมงานรวมตัวกันเพื่อถ่ายรูปหมู่ทีมซึ่งเป็นชุดลุยแข้งประจำฤดูกาล 2011-12 





ในขณะที่กำลังจะชัตเตอร์ภาพหมู่เก็บไว้เป็นที่ระลึกอยู่ดีๆ มีแฟนบอลวิ่งเข้ามาตัดขวางหน้ากล้องเท่านั้นไม่พอยังขอหยุดโชว์ลีลาเดาะบอลให้เหล่านักเตะและทีมงานได้ชมเป็นขวัญตาก่อนที่เขาจะวิ่งหนีออกนอกสนามไปด้วยความงุนงงปนอารมณ์อมยิ้มของทุกคน

ไฮไล์คลิป บอลฟองน้ำไม่มีเจ็บตัวระหว่างเล่น 12bet 05/05/2555



เป็นภาพการแข่งขันฟุตบอลสุดแปลกตาจากรายการทีวีโกลเดน โกล์ ทางช่อง TV2 ของนอร์เวย์ จัดแมตช์พิเศษนำทีมฟุตบอลท้องถิ่น ซาร์บสบอร์ก 08 กับ เฟรดริกสตัด มาดวลฝีเท้ากัน





แต่ในการแข่งขันมีเงื่อนไขพิเศษโดยนักฟุตบอลทั้งสองทีมจะต้องสวมใส่ฟองอากาศกันกระแทกขนาดใหญ่กันทุกคนและสามารถวิ่งชนกระแทกกันได้ตามสมควร เป็นไอเดียการแข่งขันฟุตบอลแบบแปลกๆ ที่มีคลิปภาพบรรยากาศการแข่งขันที่เต็มไปด้วยการล้มกลิ้งล้มหงายของเหล่านักเตะสร้างแต่เสียงฮามาให้แฟนกีฬาได้คลิกชมกัน

ไฮไลท์คลิป ใจถึงเกิ๊น! หนุ่มห้าวเก็บภาพรถซิ่งกลางสนามแข่งขันออพโร้ด 12bet 05/05/2555



มีภาพหวาดเสียวเกิดขึ้นกับผู้ชมรายหนึ่งที่ยืนชมการแข่งขันรถออฟ-โรด เส้นทางสุดหฤโหดที่กำลังซิ่งกลางทะเลทรายพาดผ่านระหว่างเม็กซิโกกับอเมริกาในศึกแรลลี่ออฟโร้ด "บาคา 1000" 





เมื่อมีชายคนหนึ่งที่ใจกล้าบ้าบิ่นเกิดอยากจะได้ภาพถ่ายรถออฟ-โรดในจังหวะช่วงเหินข้ามเนินดินเก็บภาพมุมสวยๆ ตรงช่วงล่างของรถยนต์ เขาถึงกับยอมลงทุนนั่งคุกเข่าอยู่แนวด้านหลังเนินดินตรงเส้นทางที่ใช้ในการแข่งขันเพื่อหวังจะรอเก็บภาพ และก็ได้ภาพถ่ายช่วงล่างของรถอย่างสมใจแม้จะต้องหวาดเสียวในจังหวะที่รถยนต์พุ่งเหินข้ามเนินผ่านศรีษะเขาไปด้วยความเร็วจนน่าเสียวไส้ แต่คันที่สองดูเหมือนจะไม่เล่นด้วยที่จะซิ่งรถโดดเหินข้ามเนินนักขับกลับใช้วิธีชะลอรถค่อยวิ่งข้ามผ่านเนินไปแต่ดูจะสร้างความไม่พอใจให้กับกองเชียร์หนุ่มรายนี้เนื่องจากเขากำลังขยับตัวตั้งท่าจะเก็บภาพอีกครั้งหนึ่งแต่สุดท้ายต้องขยับตัวหลบเพราะรถคันนี้กำลังจะวิ่งมาทับตัวเขานั่นเอง

ไฮไลท์คลิป มาสค็อตเพเซอร์ส ดังก์(แป้น) กระจาย 12bet 05/05/2555



เจ้าบูมเมอร์ มาสคอตสัตว์นำโชคของ อินเดียนา เพเซอร์ส ทีมดังในศึกบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ รับจ็อบมาโชว์ตัวในช่วงพักครึ่งเวลาของการแข่งขันบาสเก็ตบอลระดับนักเรียนในโรงยิมฯของโรงเรียนมัธยมท้องถิ่นแห่งหนึ่ง 





ซึ่งไฮไลท์อยู่ที่เจ้าบูมเมอร์ โชว์ลีลาเพาเวอร์สแลมดังก์วิ่งกระโดดใช้แรงดีดส่งจากผืนผ้าใบพร้อมม้วนตัวกลางอากาศ 1 รอบ ก่อนจะจบท่าอย่างสมบูรณ์แบบด้วยการจับลูกบาสฯดังก์ยัดห่วงอย่างแม่นยำ แต่ดูท่าทางโชว์ครั้งนี้จะลงหนักมือไปหน่อยจากจังหวะดังก์ลูกเป็นผลให้แป้นบาสฯ เกินจะทานรับน้ำหนักการดังก์ครั้งนี้ได้ทำให้แป้นบาสฯ พังละเอียดไม่เป็นชิ้นดี จากเหตุการณ์นี้ดูเหมือนจะถูกใจคนดูแต่เป็นเรื่องสลดเศร้าสำหรับเจ้าของสนามเพราะต้องเสียตังค์ทำแป้นบาสฯ ใหม่อีกแล้ว

ไฮไลท์คลิป เด็กเก็บบอลสาวดังออกทีวี หลังประสานทีมพังประตู 12bet 04/05/2555

วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2555



ลินดา กานดูลา บอลเกิร์ลของสนาม เก็บบอลส่งลูกฟุตบอลให้นักเตะทุ่มริมเส้นอย่างฉับไวสุดท้าย จบลงด้วยการปิดสกอร์คู่แข่งได้ในที่สุด จากแมตช์การแข่งขันฟุตบอลที่บราซิลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โบตาโฟโก เปิดบ้านเอาชนะ วาสโก ดากามา 3-1 โดยประตูที่ 2 ทีมเจ้าบ้านสามารถปิดสกอร์ได้อย่างรวดเร็ว








       
แต่ทันทีที่ชอตการพังประตูนี้ออกไป คนที่ถูกจับตามองมากที่สุด ย่อมต้องเป็นเด็กเก็บบอลสาว เฟอร์นานดา มาเอีย ซึ่งเป็นผู้ส่งบอลให้กับนักเตะจากจังหวะนั้นนั่นเอง ทำเอาสื่อบราซิเลียนต้องเชิญตัวเธอมาออกหน้าจอทีวี เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นทันที เธอยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนช่วยเหลือทำสกอร์นั้นให้กับโบตาโฟโก แต่อย่างใด หากแต่เพียงเป็นการเล่นที่ฉับไว และยิงได้อย่างยอดเยี่ยมของเหล่านักเตะโบตาโฟโก ต่างหาก นอกจากนี้ ตัวเธอยังตั้งความหวังอยากทำหน้าที่เป็นเด็กเก็บบอลในศึกฟุตบอลโลก 2014 ที่มีบราซิล ประเทศบ้านเกิดเมืองนอนของเธอรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน


รูปหวิวๆของของเด็กเก็บบอลสาวที่สวยคมไม่แพ้เหล่านางแบบ




ไฮไลท์คลิป มูอัมบ้าคืนสนามรีบอคท่ามกลางแฟนๆที่มาต้อนรับ 12bet 04/05/2555



ฟาบริซ มูอัมบา กองกลาง โบลตัน วันเดอเรอร์ส ที่เคยตายไปแล้ว 78 นาที จากอาการหัวใจหยุดเต้น ได้กลับลงสนาม รีบอค สเตเดียม อีกครั้งเมื่อคืนวันพุธที่ 2 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนเกมที่ โบลตัน จะเปิดเกมเตะกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทำศึก พรีเมียร์ชิพ





มูอัมบา ได้เข้าไปยืนอยู่กลางสนาม พร้อมแสดงขอบคุณแฟนบอล ทั้งน้ำตาอย่างสุดซึ้ง ที่ช่วยเป็นกำลังตลอดเวลายามที่เขารักษาตัวหายวันหายคืนจนได้หวนคืนเดินกลับมายืนอยู่สถานที่แห่งนี้อีกครั้ง

ไฮไลท์คลิป แม๊กซิมั่มเบรก(147แต้ม)สุดท้ายของเฮนดรีก่อนอำลาวงการ 12bet 04/05/2555



สตีเฟน เฮนดรี ยอดนักสนุกเกอร์ดีกรีแชมป์โลก 7 สมัย ประกาศอำลาวงการสอยคิวอย่างเป็นทางการ หลังพ่าย สตีเฟน แม็คไกวร์ ขาดลอย 2-13 เฟรม ในรอบ 8 คนสุดท้ายศึกสอยคิวชิงแชมป์โลก ที่ครูซิเบิล เธียเตอร์ ประเทศอังกฤษ เฮนดรี เผยว่า ใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องแขวนคิวมาแล้วกว่า 3 เดือน และในที่สุดวันประกาศอำลาอย่างเป็นทางการก็มาถึง เรามาดูการทำแม๊กซิมั่มเบรก (147แต้ม) ครั้งสุดท้ายก่อนวางมือของผู้ชายที่ได้ฉายาว่ามัจจุราชผมทองกัน



       
สำหรับ เฮนดรี เทิร์นโปรเข้าสู่วงการสอยคิวโลกตั้งแต่อายุได้ 16 ปี ในฤดูกาล 1985 และสามารถคว้าแชมป์สมัยแรกมาครองได้สำเร็จในปี 1990 ด้วยการเอาชนะ จิมมี ไวท์ นักสอยคิวอังกฤษในปีดังกล่าว ก่อนจะคว้าแชมป์โลกได้อีกถึง 6 สมัยในเวลาต่อมา ขณะเดียวกัน ยังเป็นเจ้าของสถิติเซนจูรีเบรก (ทำคะแนนเกิน 100 แต้มในเฟรมเดียว) ได้ถึง 775 ครั้ง และทำสถิติแม็กซิมัมเบรก (147 แต้ม) ได้ถึง 11 ครั้ง
       
หากย้อนไปก่อนหน้านี้การแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกรายการ “เบ็ทเฟรด ดอท คอม เวิลด์ สนุกเกอร์ แชมเปียนชิป 2012” รอบแรก สตีเฟน เฮนดรี ในวัย 43 ปี เขาพึ่งจะโชว์คิวอันแม่นยำด้วยการทำแม็กซิมัมเบรก (147 แต้ม) ในเฟรมที่ 7 ในการดวลกับ สจ๊วร์ต บิงแฮม เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา นับเป็น แม็กซิมันเบรกครั้งสุดท้ายจาก “มัจจุราชผมทอง” อดีตยอดสอยคิวอดีตเบอร์ 1 ของโลกที่นำคลิปมาให้แฟนสนุกเกอร์ได้คลิกชมกัน

ไฮไลท์คลิป รอสซี่โดนเด้งหลังฉุนขาดต่อยลายิชตบมือประชดเปลี่ยนตัว 12bet 04/05/2555



เดลิโอ รอสซี่ ผู้จัดการ "ม่วงมหากาฬ" ฟิออเรนติน่า ฉุนขาดปรี่เข้าเอาเรื่อง อาเด็ม ลายิชมิดฟิลด์ชาวเซิร์บ ที่ปรบมือประชดเขาตอนที่โดนเปลี่ยนตัวออกในเกมที่เสมอกับโนวาร่า 2-2







รอสซี่ตัดสินใจเปลี่ยนอาเด็ม ลายิชในนาทีที่ 32 นั้นเพราะฟิออเรนติน่าเป็นฝ่ายตามหลัง 2-0 โดยรอสซี่ได้ส่งรูเบน โอลิเวร่ามาลงสนามแทน แต่แข้งเซอร์เบียกลับแสดงอาการไม่พอใจปละปรบมือประชดใส่ ทำให้รอสซี่ไม่พอใจและตรงเข้าออกหมัดใส่อย่างที่เห็นในคลิป


ทำให้อังเดร เดลล่า วัลเล่ย์ประธานสโมสร ต้อฃตัดสินใจเด้งโค้ชใจร้อนออกจาการเป็นกุนซืออย่างช่วยไม่ได้

"หลังจบเกมผมได้เห็นภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่ลายิชถูกเปลี่ยนตัว" 


"ผมได้ตัดสินใจที่จะปลดโค้ชออกจากตำแหน่ง เพราะการกระทำที่ดูไม่ดีมากๆของเขา" 


"ในวันพรุ่งนี้ พวกเราจะพูดคุยกันอย่างใจเย็น" 


"ผมขอแสดงความเสียใจกับรอสซี่ด้วยเพราะเขาเป็นคนดีและไม่ควรโดนไล่ออก แต่ในค่ำคืนนี้ สิ่งที่เขาทำมันรุนแรงเกินไป"

ซิสเซ่เบิ้ล!สาลิกาโครตดุบุกทุบสิงห์บลูส์2-0 12BET 3/05/55

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2555
เชลซี  0 - 2  นิวคาสเซิ่ล 


ปาปิสส์ ซิสเซ่ หักหอกตัวเก่ง นิวคาสเซิ่ล กดคนเดียว 2ตุง พา สาลิกาดง บุกมาเชือด "สิงห์บลูส์" เชลซี ถึงถิ่น 2-0 จี้ อาร์เซน่อล เหลือแต้มเดียว ทำแต้มเท่า สเปอร์ส แต่ประตูได้เสียเป็นรอง อยู่ที่ 5 ของตาราง ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา


สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

        เกมแย่งโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก เชลซีเปลี่ยนทีมหกรายรอบู๊กับลิเวอร์พูลในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพเสาร์นี้โดย ยังใช้งานเฟร์นานโด ตอร์เรสที่กดแฮททริคนัดถล่มควีนส์พาร์ค 6-1 เป็นตัวจริงต่อ

        ด้านดิดิเยร์ ดร็อกบามีชื่อนั่งอยู่ในซุ้มเช่นเดียวกับแฟร้งค์ แลมพาร์ด , ฆวน มาต้า และแอชลีย์ โคลโดยไรอัน เบอร์ทรานด์ได้ทำหน้าที่แบ็คซ้าย ขณะที่บรานิสลาฟ อิวาโนวิชขยับมาเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟเนื่องจากดาวิด ลุยซ์กับแกรี่ เคฮิลล์ยังเดี้ยง

        ด้านนิวคาสเซิ่ลจัดทัพชุดใหญ่บุกมาเยือน โดยซิลแว็ง มาร์กโวซ์กับกาเบรียล โอแบร์กต็องได้กลับมานั่งเป็นตัวสำรอง และเปลี่ยนโผหนึ่งรายจากนัดบุกไปแพ้วีแกนเละ 4-0 โดยใช้งานเจมส์ เพิร์ชแทนแดนนี่ ซิมพ์สันที่บาดเจ็บ

        เกมเริ่มต้นโดยมีฝนพรำ ลงมาเล็กน้อย และแค่นาทีที่ 4 ชีค ติโอเต้ก็ได้ใบเหลืองในจังหวะรวบตอร์เรสกลิ้งพร้อมเสียลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ ระยะ 27 หลา แต่ราอูล เมยเรเลสปั่นเบาเกินไป แถมเข้าซองทิม ครูลพอดี

        เกม ในช่วงต้นยังเป็นของเชลซี และนาทีที่ 11 ตอร์เรสก็เลื้อยขึ้นทางซ้ายไปไหลบอลเข้าเขตโทษ แต่ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ซัดจาก 14 หลาแป๊กหัวเกือก บอลจึงกลิ้งออกเสาสอง

        นับ จากนั้นเกมก็เป็นของทีมเยือน และนาทีที่ 19 ฮาเต็ม เบน อาร์กฟาก็จู่โจมขึ้นมาทางซ้ายแล้วป้ายเข้ากลางให้ปาปิสส์ ซิสเซ่ซัลโวง่ายๆจาก 18 หลาโดยกองหลังเจ้าบ้านออกลูกประมาทไม่มีใครเข้าประกบ ส่งบอลลอยเข้าปะทะเสาไกลพาเดอะ แม็คพายส์นำ 1-0

        สิงห์บลูส์ พยายามตั้งลำกันใหม่ และน่าจะตีเสมอได้ในนาทีที่ 38 เมื่อตอร์เรสขยับไปเปิดบอลยาวทางฝั่งขวาเข้าเสาแรก แต่ฟลอร็องต์ มาลูด้าโขกจากสิบหลาเต็มหน้าผากสะบัดออกเสาไกลเหลือเชื่อ

        เข้า สู่ช่วงท้าย เกมตกเป็นของทีมอีสานอีกรอบ และนาทีที่ 44 เดมบา บาก็พาบอลลุยขึ้นไปเข่นเองจาก 18 หลาถูกปีเตอร์ เช็กพุ่งปัดออกหลังได้

        และ จากลูกเตะมุมด้านขวาที่มีจังหวะขลุกขลิกที่เสาแรก เบอร์ทรานด์ซึ่งคุมเสาอยู่ก็บล็อคออกหลังได้ทำให้นิวคาสเซิ่ลได้เตะมุมอีกหน และคราวนี้ใช้แผนปาดลูกเรียดเข้ามาให้บาซัดระยะ 15 หลาชนคาน จบครึ่งแรกทีมเยือนจึงนำ 1-0

        ครึ่งหลังเชลซีเปลี่ยนมาต้าลงเล่นแทนสเตอร์ริดจ์  และในนาทีที่ 57 โยอัน กาบายก็ได้ใบเหลืองจากการทำฟาวล์ฝ่ายตรงข้าม

        ถัด มาอีกสี่นาที เชลซีก็เปลี่ยนดร็อกบาลงบู๊แทนมาลูด้าอีกราย แต่เกมต้องชะงักไปนานในจังหวะที่จอห์น โอบี มิเกลโดดแย่งลูกโด่งแถวกลางสนามกับตีโอเต้แล้วศอกใส่กองกลางนิวคาสเซิ่ลเข้า ปลายคางจนร่วงไปนอนนิ่งต้องเรียกแพทย์ไปดูอาการในสนาม

        ในที่สุดนาทีที่ 69  สาลิกาดงก็ต้องเปลี่ยนไรอัน เทย์เลอร์ลงไปแทนติโอเต้ที่ถูกหามออกไปโดยเกมหยุดไปนานแปดนาที

        นาทีที่ 75 นิวคาสเซิ่ลปล่อยโชล่า อเมโอบี้ลงไปแทนบาอีกราย ขณะที่เจ้าถิ่นใช้งานแลมพาร์ดแทนราอูล เมยเลเรสในอีกสามนาทีต่อมา

        ต่อ เวลามาถึงนาทีที่ 94 เกมเหมือนจะไม่มีอะไร ปาปิสส์ ซิสเซ่ ทำชิ่งกับเพื่อนนอกกรอบเขตโทษ ก่อนจะลักไก่ซัดด้วยขวาลูกไซด์ก้อยพุ่งเสียบใต้คานหมดปัญญาที่ ปีเตอร์ เช็ก จะเซฟไหว สาลิกาดง นำห่าง 2-0

        ช่วงที่เหลือ ทีมมหาเศรษฐีบุกหนัก แต่ไม่อาจสอยตาข่ายตีเสมอได้ จบเกมจึงพ่ายคารัง 0-2 เสี่ยงต่อการพลาดอันดับบิ๊กโฟร์สูง ขณะที่สาลิกาดงยังได้ลุ้นต่อ

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เชลซี :
 ปีเตอร์ เช็ก , โชเซ่ โบซิงวา , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี่ , ไรอัน เบอร์ทรานด์ , จอห์น โอบี มิเกล , ราอูล เมยเรเลส , รามิเรส , ฟลอร็องต์ มาลูด้า , ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ , เฟร์นานโด ตอร์เรส
สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์ , แอชลีย์ โคล , ไมเคิ่ล เอสเซียง , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฆวน  มาต้า , ซาโลมง กาลู , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล , เจมส์ เพิร์ช , ไมเคิ่ล วิลเลียมสัน , ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ , ดาวิเด้ ซานตอน , ชีค ติโอเต้ , โฮนาส  กูเตียร์เรซ , โยอัน กาบาย , ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา , เดมบา บา ,ปาปิสส์ ซิสเซ่
สำรอง : เอลเลียต , เชน เฟอร์กูสัน , ไรอัน เทย์เลอร์ , แดน กอสลิ่ง , กาเบรียล โอแบร์กต็อง , ซิลแว็ง มาร์กโวซ์ , โชล่า อเมโอบี้
ผู้ตัดสิน : มาร์ค ฮัลซีย์

สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ- เชลซี แพ้ นิวคาสเซิ่ล 0-2
- โบลตัน แพ้ สเปอร์ส 1-4

ราชันเถลิงแชมป์สมัย32!ถล่มบิลเบา10ตัว3-0 12BET 3/05/55

ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
(นัดที่ 36 ฤดูกาล 2011-12)
วันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2555
แอธ.บิลเบา  0 -  3 เรอัล มาดริด 


"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ซิวแชมป์สมัยที่ 32 และเป็นแชมป์ครั้งแรกของทัพราชันชุดขาว ในรอบ 4 ปี มาครองได้สำเร็จ หลังบุกไปเอาชนะ แอธ.บิลเบา 3-0 โดยมีแต้มเหนือ บาร์เซโลน่า ถึง 7 คะแนนเหลือเกมแค่เพียง 2 นัด ศึกฟุตบอลลา ลีกา สเปน เมื่อวันพุธที่ 2 พฤษภาคม 2555 ที่ผ่านมา

สนาม: เอสตาดิโอ ซาน มาเมส, บิลเบา

        บิลเบา ไม่มี ชาบี กาสตีโย่ กับ อีกอร์ มาร์ตีเนซ กาเซเรส ที่สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ แต่ได้ จอน เอาร์เตเน็ตเช่ พ้นโทษแบนกลับมาลงประจำการแบ็กซ้ายตามปกติ โดยคู่หน้าใช้ เฟร์นานโด ยอเรนเต้ หัวหอกร่างยักษ์ลงล่าตาข่ายร่วมกับ อิไบ โกเมซ 

        ทางด้าน "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ต้องการชัยชนะในเกมนี้เพราะจะทำให้คว้าแชมป์ ลา ลีกา ซีซั่นนี้ทันที

        นัด นี้ไม่มี ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า กับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ที่ไม่ฟิต โดยหัวหอกตัวเป้ากลับมาใช้ กอนซาโล่ อิกวาอีน ดาวยิงทีมชาติอาร์เจนติน่า ลงสังหาร พร้อมได้ เมซุต โอซิล กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เดินเกมรุกสนับสนุน

        ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 2 นาที ทีมเยือนทักทายก่อน ฟาบิโอ โคเอนเตรา ดันขึ้นมากดด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้ากรอบ ทว่า กอร์ก้า อิไรซอซ นายทวารแอธ.บิลเบา พุ่งปัดออกหลังไปได้

        นาทีต่อมา เมซุต โอซิล เปิดลูกเตะมุมให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หวดด้วยขวาบอลถากเสาออกไป 

        ผ่าน มา 12 นาที เรอัล น่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างยิ่ง เมื่อ ฆาบี มาร์ติเนซ กองหลังของบิลเบา ไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับหน้าที่กดด้วยขวา ทว่า กอร์ก้า อิไรซอซ นายทวารแอธ.บิลเบา เดาทางถูกพุ่งปัดทิ้งออกหลังไปได้ ทำให้ ราชันชุดขาว พลาดโอกาสนำอย่างน่าเสียดาย

        อย่างไรก็ตาม 4 นาทีให้หลัง เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล จ่ายให้กับ กอนซาโล่ อิกวาอีน ล็อคหนีกองหลังของบิลเบา แล้วตะบันด้วยขวาจากหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบเสาเข้าไปงามหยด เป็นประตูที่ 22 ของ อิกวาอีน ในลา ลีกา ซีซั่นนี้

        จากนั้นนาทีที่ 20 ทีมเยือนหนีห่าง เมื่อ ชาบี อลอนโซ่ ผ่านจากกลางสนามออกมาทางด้านขวาให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สปีดตามไปเปิดข้ามไปเสาสองให้กับ เมซุต โอซิล แปด้วยซ้ายเล่นทางเข้าเสาสองไปให้ เรอัล มาดริด ทิ้งห่าง 2-0

        ห้า นาทีต่อมา ชุดขาว บดต่อเนื่อง กอนซาโล่ อิกวาอีน เปิดบอลให้กับ โรนัลโด้ สับด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลเข้ากรอบ ทว่า กอร์ก้า อิไรซอซ นายทวารบิลเบา เซฟไว้ได้

        กระเถิบมานาทีที่ 36 บิลเบา น่าได้คืน เมื่อ อินญิโก้ เปเรซ ตะบันฟรีคิกมุมแคบ เล่นเอา อีเกร์ กาซียาส ต้องทุบออกมา บอลเข้าทาง อิไบ โกเมซ ซ้ำอีกครั้งติดบล็อค

        เรอัล น่าจะได้ประตูที่สามในนาทีที่ 38 เมื่อ เมซุต โอซิล ลากขึ้นมาตะบันด้วยขวาจากนอกเขตโทษบอลพุ่งชนคานอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด บุกมานำ 2-0

        กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง บิลเบา ส่ง อันโดนี่ อิราโอล่า ลงมาเล่นแทน มิเกล ซาน โฆเซ่

        อย่าง ไรก็ตาม เป็น ราชันชุดขาว มาได้ประตูที่สามหนีห่างออกไปอีกในนาที 50 เมื่อ กอนซาโล่ อิกวาอีน พาบอลฝ่ากองหลังไปยิงติดขาของ ฆาบี มาร์ติเนซ บอลลอยมาทาง อิกวาอีน ตีลังกายิงติดบล็อคผู้เล่นบิลเบาออกหลังไป จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ชาบี อลอนโซ่ เปิดให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งมาโหม่งเช็ดเข้าประตูไปให้ เรอัล มาดริด นำขาด 3-0 และเป็นประตูที่ 44 ของ โรนัลโด้ ใน ลา ลีกา ซีซั่นนี้

        เกมของเรอัล เหนือกว่าเยอะ เปเป้ ไหลให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สับด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ แต่ กอร์ก้า อิไรซอซ นายด่านเจ้าบ้านหยุดไว้ได้ในนาทีที่ 55

        หนึ่งชั่วโมงของ เกม เรอัล ยังบดต่อเนื่อง ชาบี อลอนโซ่ แทงบอลให้กับ โหเซ่ กาเยฆอน กระทุ้งด้วยขวา เล่นเอา กอร์ก้า อิไรซอซ นายทวารบิลเบา ต้องพุ่งปัดออกหลังไป 

        สถานการณ์ของบิลเบา ยังย่ำแย่ต่อเนื่อง เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ในนาทีที่ 72 เมื่อ เซร์คิโอ รามอส เปิดบอลไปโดนมือของ ฆาบี มาร์ติเนซ ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองที่สองให้กับ มาร์ติเนซ กลายเป็นเหลือง-แดง ถูกไล่ออกไป จากลูกฟรีคิก โรนัลโด้ ซัดไปโดนหน้าของผู้เล่นบิลเบา กระดอนออกมา

        เวลาที่เหลือทำ อะไรกันเพิ่มอีกไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ แอธ.บิลเบา ได้ขาดลอย 3-0 เก็บเพิ่มอีกสามคะแนน มี 94 คะแนน จาก 36 นัด ทิ้ง บาร์ซ่า 7 แต้ม ขณะเหลืออีก 2 นัด ผงาดคว้าแชมป์ ลา ลีกา ซีซั่นนี้ได้สำเร็จ และเป็นแชมป์ครั้งแรกของทัพราชันชุดขาว ในรอบ 4 ปี

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม แอธ.บิลเบา: กอร์ก้า อิไรซอซ - บอร์ฆา เอกิซ่า, ฆาบี มาร์ตีเนซ, มิเกล ซาน โฆเซ่ (อันโดนี่ อิราโอล่า น.46), จอน เอาร์เตเน็ตเช่ - ออสการ์ เด มาร์กอส, อินญิโก้ เปเรซ - มาร์เกล ซูซาเอต้า, อีเกร์ มูเนียอิน - เฟร์นานโด ยอเรนเต้, อิไบ โกเมซ
สำรอง: ราอูล เฟร์นานเดซ (ผู้รักษาประตู) - โจนาส รามัลโย่, รุยซ์ เด กาลาร์เรต้า, ดาบิด โลเปซ โมเรโน่, อีกอร์ กาบิลอนโด้, กาอิซก้า โตเกโร่
เหลือง-แดง: ฆาบี มาร์ติเนซ น.72 
เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, ฟาบิโอ โคเอนเตรา - ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - โฆเซ่ กาเยฆอน, เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอีน
สำรอง: อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู) - ราอูล อัลบิโอล, ราฟาแอล วาราน, มาร์เซโล่ วิเอยร่า, กาก้า, เอสเตบัน กราเนโร่, คาริม เบนเซม่า 
ผู้ตัดสิน: โฆเซ่ อันโตนิโอ เตยเชยร่า บีเตียเนส 

ไฮไลท์แมตช์ นาโปลี VS ปาแลร์โม่ Series A - หมาป่าฝืด! ยกพลเจ๊าม้าศึก 0-0,นาโปลี2-0 12bet 02/05/2555

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555



โรม่ายังฟอร์มฝืดไม่เลิก เมื่อทำได้เพียงบุกเสมอกับทีม "ม้าศึก" คิเอโว่ เวโรน่า ในเกมกัลโช่ เซเรีย อา เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 พฤษภาคม ผ่านมา ซึ่งทำให้การลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปของทีมหมาป่ากรุงโรมเหมือนจะริบหรี่ลงทุกทีแล้ว ขณะที่นาโปลียึดอันดับสามของตารางต่อไป หลังจากเปิดบ้านเอาชนะปาแลร์โม่นิ่มๆ 2-0




วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2555


ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี่
นาโปลี 0-0 ปาแลร์โม่






แค่ 5 นาทีแรกเท่านั้น นาโปลี เล่นทีเผลอเกือบจะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว ปานเดฟ หลุดมาทางซ้ายก่อนเปิดเข้าไปในกรอบเตโทษ อินแลร์ สอดขึ้นมายิงเน้นๆชนเสา

หลังรอดพ้นเสียประตู ปาแลร์โม่ หันมาเปิดเกมบุกบ้างอีกสองนาทีถัดมาเกือบได้ประตูสองครั้งติดๆกันบอลทะลุมาถึง อิลิซิ ยิงเผาขนไม่ถึงสิบหลา เด ซังค์ติส นายทวารปัดออกมาไม่พ้นอันตราย เอร์นานเดซ พุ่งโขกแต่ เด ซังค์ติส ซูเปอร์เซฟบนเส้น

กระทั่งจุดเปลี่ยนเกมมาถึงนาที 16 เมื่อผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษให้ นาโปลี ในจังหวะ มิลาโนวิช กางแขนในจังหวะเปิดของ ปานเดฟ และเป็น คาวานี่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด

หลังปลดล็อคได้ประตูขึ้นนำเกมตกเป็นของ นาโปลี เดินหน้าส่องประตูเพิ่มนาที 25 ได้ลุ้นเพิ่มอีกจากจังหวะประสานงานคู่กองหน้า ปานเดฟ ชิพจากเส้นหลังไปยังเสาสองให้ คาวานี่ ชาร์จจ่อๆแต่ ปิซาร์โน่ มาช่วยสกัดได้อย่างหวุดหวิด

ผ่านครึ่งชั่วโมงทีมเยือนแม้นานๆจะบุกทีได้เสียวเหมือนกันจากจังหวะเตะมุม เด ซังค์ติส นายทวารออกมาตัดวืดไม่โดนแต่ไม่มีกองหน้าของปาแลร์โม่คนไหนรอชาร์จจ่อๆหน้าปากประตูเลย

กระทั่งนาที 35 นาโปลี ทิ้งห่างเป็น 2-0 จากการประสานงานคู่หอก ปานเดฟ ไหลให้ ฮัมซิค กดเรียดผ่านมือ วิเวียโน่ นายด่านปาแลร์โม่ตุงตาข่าย

ได้สองประตูอุ่นใจ นาโปลี พยายามเล่นประคองเกมเลยเปิดโอกาส ปาแลร์โม่ ได้ลุ้นตีไข่แตกในช่วงท้ายครึ่งแรก อิลิซิช กระชากหนี อาโรนิก้า มาแล้วหน้าปากประตูเปิดกว้างจะได้ยิงล่อเป้าแต่ คันนาวาโร่ มาช่วยสกัดจังหวะสุดท้าย จบครึ่งแรก นาโปลี รักษาความได้เปรียบตุนอยู่ถึงสองประตู

กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ ปาแลร์โม่ พยายามเปิดเกมบุกเลยเข้าทาง นาโปลี สวนกลับนาที 56 ปานเดฟ จ่ายทะลุมาถึง คาวานี่ ยิงหักข้อติดปลายมือ วิเวียโน่ บอลผ่านหน้าปากประตู

ผ่านหนึ่งชั่วโมง ปาแลร์โม่ ได้ลุ้นบ้าง บาร์เรโต้ ทำชิ่งหนึ่งสองก่อนวิ่งไปรับบอลพื้นที่ว่างแล้วไหลต่อ ซาฮาวี วางเท้ายิงไม่ดีงัดเหินข้ามคาน

ปาแลร์โม่ บุกไม่ท้อจนกระทั่งนาที 72 ต้องเฮเก้อุตส่าห์ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้แล้ว เฮร์นานเดซ อาศัยความผิดพลาดของ มัจโจ้ ฉกบอลไปได้หลุดเข้าไปยิงผ่านมือ เด ซังค์ตุส ตุงตาข่าย แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า

เวลาที่เหลือ 15 นาทีสุดท้าย นาโปลี เน้นตั้งรับอย่างเต็มที่ทำให้ ปาแลร์โม่ ไม่สามารถพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษต้องอาศัยลูกสับไกยิงของ ซาฮาวี แต่ เด ซังค์ติส นายทวารปัดทิ้ง

หลังตั้งรับอยู่นานจนกระทั่งสิบนาทีสุดท้าย นาโปลี หันมาบุกบ้าง คาวานี่ ลงมาล้วงบอลไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ลาเวซซี่ หลุดโล่งๆจะได้ส่องอยู่แล้ว วิเวียโน่ นายทวารออกมาบล็อคไว้ได้ทัน จากนั้นเวลาที่เหลือ นาโปลี คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดชนะ 2-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
นาโปลี: เด ซังค์ติส,เฟร์นานเดซ,คันนาวาโร่,อาโรนิก้า,มัจโจ้,การ์กาโน่,อินแลร์,ฮัมซิค,ซูนิก้า,ปานเดฟ,คาวานี่

ปาแลร์โม่:วิเวียโน่,มูญอส,มิลาโนวิช,ลาบริน,ปิซาโน่,มิญัชโช่,ดานติ,บาร์เรโต้,แบร์โตโล่,อิลิซิช,เอร์นานเดซ



วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2555


ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี่
คิเอโว่ เวโรน่า 0-0 โรม่า


อีกคู่หนึ่งของวันอังคาร เจ้าถิ่น คิเอโว่อุ่นใจขึ้นมาได้เล็กน้อยเมื่อได้ บอสต์ยาน เซซาร์ พ้นโทษแบนกลับมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้ 


ขณะที่ทีมเยือน โรม่าขาด มาร์เตน สเตเคเลนเบิร์ก ประตูมือหนึ่งชาวดัตช์ ที่บาดเจ็บ ทำให้ จานลูก้า คูร์ซี่ ได้เฝ้าเสา ส่วนแดนหน้านำโดย ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ, ฟาบิโอ บอรินี่ และ โบยาน เกร์กิช


ริ่มต้นเกม นักเตะทั้งสองทีมต้องเล่นท่ามกลางพื้นสนามที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำ เนื่องจากฝนตก นาทีที่ 9 โรม่าได้บอล ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ โยนบอลมาเข้าทาง เฟร์นานโด กาโก้ ยิงเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษไปติด สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ เซฟไว้ได้ นาที 22 มาร์ควินโญ่ มิดฟิลด์โรม่า สบโอกาสยิงไกลเท้าขวาไปติด ซอร์เรนติโน่ เซฟอยู่หมัด


จวบจนนาทีที่ 40  ต๊อตติ เปิดลูกเตะมุมให้ โบยาน เกร์กิช ซัลโวในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย และไม่ถึงนาที เป็นโอกาสของเจ้าถิ่น รินัลโด้ ครูซาโด้ ทำทางให้ เปอร์ปาริม เฮเตมาย ยิงเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปตรงตัว จานลูก้า คูร์ซี่


จังหวะต่อมา คิเอโว่ได้เปิดเกมรุกลุ้นสุดท้าย ในครั่งแรก อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่ โหม่งตั้งให้ แซร์โจ้ เปลลิสซิเย่ร์ ซัดเท้าซ้ายระยะเผาขนติด คูร์ซี่ จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0


ในครึ่งหลัง มีฝนตกลงมาค่อนข้างหนัก ทำให้การคอนโทรลบอลของมั้งสองทีมเป็นไปอย่างทุลักทุเล จนนาที่ที่ 57 ไมเคิ่ล แบร็ดลี่ย์ ผ่านบอลให้ แซร์โจ้ เปลลิสซิเย่ร์ ยิงเผาขนตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสิน ไม่ให้ได้ประตู โดยเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้า


จากนั้นนาทีต่อมา ทีมเยือนเกือบได้ประตูเมื่อ โรดริโก้ ตัดเด โยนบอลให้ จูเนียร์ ตัลโญ่ ตัวสำรอง ยิงที่เสาแรก บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย


เจ้าถิ่นมีจังหวะยิงมากขึ้น แบร็ดลี่ย์ ได้บอลเปิดมาถึง เจนนาโร่ ซาร์โด้ ยิงระยะไกล เข้าข้างประตูนาที 70 จบเกม คิเอโว เวโรน่า เสมอ โรม่า 0-0


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
คิเอโว่ เวโรน่า : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ - เจนนาโร่ ซาร์โด้, บอสต์ยาน เซซาร์, ฟรานเชสโก้ อแชร์บี้, โบยาน โยคิช - ลูก้า ริโกนี่, ไมเคิ่ล แบร็ดลี่ย์, รินัลโด้ ครูซาโด้, เปอร์ปาริม เฮเตมาย - แซร์โจ้ เปลลิสซิเย่ร์, อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่


โรม่า : จานลูก้า คูร์ซี่ - ซิมอน เคียร์, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, กาเบรียล ไอน์เซ่, โรดริโก้ ตัดเด - ดานิเอเล่ เด รอสซี่, เฟร์นานโด กาโก้, มาร์ควินโญ่ - ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ - ฟาบิโอ บอรินี่, โบยาน เกร์กิช

ไฮไลท์แมตช์ ลิเวอร์พูล VS ฟูแล่ม premier League - เจ้าสัวบุกเชิอดหงส์ชุดบี 1-0,หม้อเจ๊าทอฟฟี่ 1-1 12bet 02/05/2555



ลิเวอร์พูล กลับมาอยู่ในฟอร์มบู่อีกครั้ง โดยคราวนี้ส่งผู้เล่นชุดสำรองค่อนทีมพ่ายต่อ เจ้าสัวน้อย ฟูแล่ม คาแอนฟิลด์ 1-0 ในเกมพรีเมียร์ชิพ เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะที่อีกคู่ สโต๊ค ซิตี้ เฝ้ารังเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1




วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2555 


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 0-1 ฟูแล่ม 


                       ลิเวอร์พูล 0-1 ฟูแล่ม 


                  สโต๊ค ซิตี้ 1-1 เอฟเวอร์ตัน


ลิเวอร์พูลไม่มีลุ้นอะไรแล้วเลยเลือกพักตัวหลักหลายตัวเพื่อไปใช้ในนัดชิงเอฟเอ คัพแทนโดยมีโดนี่ลงเป็นตัวจริง โคอาสเตสกับออเรลิโอ้ได้ลงสนามมากับเค้าบ้าง ด้านสถิติ 7 เกมหลังในลีกที่แอนฟิลด์พวกเขาชนะเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้น

เริ่มเกมมา 5 นาทีโอกาสครั้งแรกของทีมเยือนก็เปลี่ยนเป็นประตูได้แล้วจากจังหวะที่เด็มป์ซี่ย์พาบอลหลบโคอาเตสตรงกลางมาได้ก่อนจะจ่ายออกซ้ายให้กับรีเซ่เติมขึ้นมากึ่งยิงกึ่งปาดเข้ากลางบอลมาถึงคาชาลิกินิชพยายามแปเน้นๆแล้วแป๊กแต่กลายเป็นดีมาแฉลบสเคอร์เทลเปลี่ยนทาง โดนี่ถอยกลับมาปัดไม่ทัน ฟูแล่มนำแล้ว 1-0

"หงส์แดง"พยายามบุกเอาประตูคืนแต่ไม่ได้น้ำไม่ได้เนื้อเลยกลับกันทางฟูแล่มได้ลึ้นเสียวๆมากกว่าจากการขึ้นเกมมาโดยเด็มป์ซี่ย์อีกแล้วก่อนจะชิพน้อยๆทะลุแผงหลังให้กับโปเกรบเนี๊ยคได้ชาร์จแต่โดนี่ยังปัดออกไปได้

ลิเวอร์พูลได้ครองบอลมากกว่าแล้วเหลือแค่จังหวะจบยังไม่ได้คมพอพวกเขามีโอกาสได้ลองส่องจากเคาท์ไหลบอลออกมาทางซ้ายให้กับมักซี่ก่อนจะแตะเข้ากลางหาเหลี่ยมแล้วส่องแต่บอลก็ยังไม่เข้าเป้า

นาที 24 เจ้าบ้านบุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกชัดแล้วเป็นคาร์โรลล์ที่กะจะไหลให้กับมักซี่เข้าเขตโทษแต่ย้อนหลังมีเชลวี่ย์ช่วยจิ้มคืนมาที่เฮนเดอร์สันก่อนจ่ายจัหวะเดียวให้กับคาร์โรลล์ได้ยิงหน้าเขตโทษติดบล็อก บอลมาเข้าทางเคาท์วิ่งมายิงแต่บอลก็ยังหลุดเสาอยู่

"หงส์แดง"น่าได้ตีเสมอแบบสุดๆแล้วจังหวะนี้เริ่มต้นจากบอลครอสเข้าไปตรงกลาง ชวาร์เซอร์ออกมาตัดบอลถึงหัวก่อนคาร์โรลล์แต่พลาดก่อนจะพยายามปัดให้หนีคาร์โรลล์ไป บอลย้อนไปหน้าประตูมีตัวเคลียร์ติดพวกเดียวกันเข้าทางมักซี่จ่ายให้เชลวี่ย์โล่งๆในเขตโทษได้ยิง ชวาร์เซอร์พลาดอีกเซฟแล้วปลิ้นแต่ยังมีตัวคุมเส้นยืนดักไว้อดได้กันไป

ช่วงท้ายครึ่งแรก"หงส์แดง"เกือบได้ประตูอีกครั้งนึงเป็นจังหวะที่สเปียริ่งพาบอลลุยเข้าเขตโทษเจอทางตันเลยคืนออกมาทางริมเส้นให้กับออเรลิโอ้ตั้งป้อมเปิดเข้าไปตรงกลางและเป็นคาร์โรลล์ที่โถมมาโขกจนได้แต่บอลยังตรงตัวชวาร์เซอร์รับหลุดนิดหน่อยแต่ไม่มีปัญหา ก่อนจบครึ่งแรกไปที่พวกเขายังตามหลังฟูแล่ม 1-0


กลับมาเริ่มครึ่งหลังเจ้าบ้านยังได้โอกาสลุ้นอยู่เรื่อยๆคราวนี้เป็นจังหวะที่สเปียริ่งไปตัดบอลมาได้กลางสนามก่อนพาขึ้นมาเองแล้วกดจากนอกเขตโทษเลย บอลพุ่งเรียดจะเสียบเสาแต่ก็ไม่ใช่งานยากชวาร์เซอร์ล้มตัวรับไว้ได้

ฝั่ง"เจ้าสัว"เองก็มีลุ้นบ้างเช่นกันในนาที 53 เป็นจังหวะเตะตมุมทางขวาเปิดเข้ามาโดยดัฟฟ์ เปิดมาเสาแรกมีเด็มป์ซี่ย์โขกมาโฉบแต่บอลก็ยังหลุดเสาแรกออกหลังไป

ลิเวอร์พูลบุกเพลินๆเกือบหงายเหมือนกันหลังฟูแล่มหวิดได้ลูกสองเพิ่มซะแล้วเป็นจังหวะที่เด็มป์ซี่ย์พาบอลขึ้นมาเองก่อนจะออกมาให้ทางซ้ายกับฟรายล็อกเข้าขวาแล้วลากตัดเข้ากลางก่อนจะสับไกส่งบอลพุ่งชนเสาแรกอย่างจัง

ทั้งสองฝ่ายผลัดกันครองบอลไปเรื่อยแล้วลิเวอร์พูลมีโอกาสลุ้นอีกแล้วเป็นจังหวะที่ฮิวจ์เคีลยร์ไม่ดีมาเข้าทางคาร์โรลล์ตะลุยไปเองก่อนจะล็อกหลบฮังเกลันด์มาสวยแล้วแต่จังหวะยิงดันลื่นพร้อมมีตัวเข้ามาสกัดทำให้ลูกยิงปลิ้นหลุดไปไกล

นาที 78 ลิเวอร์พูลหวิดโดนลูกสองอีกแล้วเป็นจังหวะที่เมอร์ฟี่ย์โดนพัวพันแต่ยังจิ้มออกมาให้กับฟรายได้ก่อนจะจ่ายให้กับเด็มป์ซี่ย์ที่อยู่ว่างๆหลุดเข้าเขตโทษไปดวลเดี่ยวเลือกยิงไปเสาขวามือแต่โดนี่ยังยอดเยี่ยมเซฟเอาไว้ได้

เข้าช่วงท้ายเกมลิเวอร์พูลมีโอกาสเกือบได้จบอีกซักทีเป็นจังหวะที่สเตอร์ลิ่งเด็กดาวรุ่งได้ลงมาเปิดจากซ้ายเข้าไปตรงกลางให้คาร์โรลล์ได้โขกแต่บาง บอลยังหลุดมาถึงเสาไกลที่ดาวนิ่งที่ก็ตามไปตวัดกลับเข้ากลางไม่ทันแล้ว

ช่วงท้ายลิเวอร์พูลได้กดดันอีกชุดเล็กแต่ก็ไม่มีอะไร จบเกมก็แพ้ให้กับฟูแล่มไป 1-0 กลายเป็นความพ่ายแพ้ในบ้านนัดที่ 3 ฤดูกาลนี้และเป็นนัดที่ 8 จาก 13 เกมหลังสุดในลึกแต่ยังคงอยู่อันดับ 8 ต่อไป ส่วนฟูแล่มก็ขยับแต้มมาทาบแล้วที่ 49 แต้มเป็นรองที่ลูกได้เสีย

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 
ลิเวอร์พูล : โดนี่ 6.0, เซบาสเตียน โคอาเตส 5.0, มาร์ติน สเคอร์เทล 6.0, ฟาบิโอ ออเรลิโอ้ 6.0 (เอนริเก้ น.66 6.0), มาร์ติน เคลลี่ 5.5, เจย์ สเปียริ่ง 4.5, จอนโจ้ เชลวี่ย์ 6.5, มักซี่ โรดริเกซ 6.0, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 5.5 (ดาวนิ่ง น.45 5.0), แอนดี้ คาร์โรลล์ 6.0, เดิร์ก เคาท์ 5.5 (สเตอร์ลิ่ง น.75 6.0)


ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์ 6.0, เบรเด้ ฮังเกลันด์ 6.5, อารอน ฮิวจ์ 6.0, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ 6.0, สตีเฟ่น เคลลี่ 6.0, แดนนี่ เมอร์ฟี่ย์ 6.5*, มุสซ่า เด็มเบเล่ 6.5 (แบรด น.86 -), อเล็ซานเดอร์ คาชานิกิลิช 6.0 (ฟราย น.58 6.0), เดเมียน ดัฟฟ์ 5.5, พาเวล โปเกรบเนี๊ยค 6.0 (เอตูฮู น.80 -), คลินท์ เด็มป์ซี่ย์ 6.5

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคืนวันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2555
ลิเวอร์พูล แพ้ ฟูแล่ม 0-1
สโต๊ค ซิตี้ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1

ไฮไลท์แมตช์ สปอร์ติ้ง กิฆอน VS บียาร์เรอัล La Liga - เรือดำน้ำรอดตกชั้น! บุกสอยกิฆอน 2-0 12bet 02/05/2555



แฟนๆ สาวก เยลโล่ ซับมารีน บียาร์เรอัล ได้เฮสนั่นซอยหลังทีมรัก ได้การันตีการอยู่รอดในลีกสูงสุดต่อไปอีกปี หลังบุกอัดสปอร์ติ้ง กิฆอน 2-0 ในเกมลา ลีกา เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา




วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม 2555


ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
สปอร์ติ้ง กิฆอน 2-3 บียาร์เรอัล


เจ้าบ้าน สปอร์ติ้งกิฆอน ทีมอันดับสามจากท้ายตาราง ต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนัก จัด กาสตัน ซานกอย ลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ อาเดรียน โกลุนก้า


ขณะที่ บียาร์เรอัล วาง มาร์โก รูเบน หัวหอกชาวอาร์เจนไตน์ลงมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า โดยเกมนี้พวกเขาก็ต้องการสามแต้มเพื่อการันตีการอยู่รอดในลีกสูงสุดไปอีกปี นับตั้งแต่สถาปานาตัวเองมาเป็นทีมลุ้นหนีตกชั้นในสองสามฤดูกาลหลังมานี้


ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่ 6 นาที สปอร์ติ้ง กิฆอน ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ อัลเบร์โต้ โบเตีย ผ่านบอลทะลุช่องให้กับ กาสตัน ซานกอย สับมุมแคบ แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารบียาร์เรอัล


ในนาทีที่ 13 บียาร์เรอัล ได้ลุ้นบ้าง เมื่อ บอร์ฆา บาเลโร่ ผ่านบอลให้กับ บรูโน่ โซเรียโน่ สับด้วยซ้าย ทว่า ฆวน ปาโบล โกลีนาส นายทวารคิฆอน


ทีมเยือนเร่งเกมหนักจนขึ้นนำสำเร็จในนาทีที่ 19 เมื่อ บรูโน่ โซเรียโน่ ผ่านบอลจากซ้ายให้กับ มาริโอ กาสปาร์ ชาร์จจ่อๆ ที่เสาแรกเข้าไปให้ บียาร์เรอัล นำก่อน 1-0


เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 22 กิฆอน ได้โอกาสจากจังหวะที่ กาสตัน ซานกอย กระทุ้งด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่ ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารบียาร์เรอัล ยังหนึบเซฟไว้ได้


เจ้าถิ่นตามตีเสมอสำเร็จในนาทีที่ 39 เมื่อ มิเกล เด ลาส กวยบาส ยิงติดบล็อคมาเข้าทางของ อัลเบร์โต้ รามอส กระทุ้งด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลเสียบมุมเข้าไปงามสุดๆให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1 แล้ว


ก่อนหมดครึ่งแรกแค่สองนาที ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ เกรกอรี่ อาร์กโนแล็ง กองหลังชาวฝรั่งเศสของคิฆอน ไปทำฟาวล์ มาร์โก รูเบน ล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ มาร์กอส เซนน่า จะสังหารด้วยขวาเสียบมุมเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้ บียาร์เรอัล นำ 2-1 เมื่อหมดครึ่งแรก


เข้าสู่ครึ่งหลัง ทีมเยือนเร่งเครื่องลุยต่อมาได้ประตูที่สามหนีห่างออกไปในนาทีที่ 56 เมื่อ บอร์ฆา บาเลโร่ ผ่านให้กับ เอร์นาน เปเรซ ยิงด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษส่งบอลชนเสาในเข้าไปให้ บียาร์ฯ นำห่าง 3-1 เข้าไปแล้ว


มาถึงนาทีที่ 62 บียาร์เรอัล จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา มาร์กอส เซนน่า ที่มีอาการบาดเจ็บออกแล้วส่ง อังเคล โลเปซ ลงมาเล่นแทน เจ้าบ้านไม่ยอมง่ายๆไล่มา 2-3 เมื่อ อเลฆานโดร กัลเบซ สับไกด้วยขวาเน้นๆ เสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาดในนาที 85 


ช่วงทดเจ็บเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเล็กน้อยบริเวณซุ้มม้านั่งสำรองข้างสนาม ก่อนที่ เซซ่าร์ ซานเชซ นายทวารสำรองของบียาร์เรอัล จะโดนใบแดงไล่ออกไป จากการไปทำท่าทางเย้ยแฟนเจ้าบ้าน


หมดเวลาการแข่งขัน บียาร์เรอัล ทำสำเร็จบุกมาพิชิต สปอร์ติ้ง กิฆอน ถึงรัง 3-2 เก็บสามแต้มเต็มได้อย่างที่ต้องการ น่าจะปลอดภัยแล้ว ส่วน คิฆอน อาการหนัก ตามหลัง ราโย่ บาเยกาโน่ ทีมอันดับ 4 จากท้ายตารางถึง 6 แต้ม ขณะที่เหลือเกมในมือแค่สองนัดเท่านั้นเอง




รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สปอร์ติ้ง กิฆอน: ฆวน ปาโบล โกลีนาส - ดามิยาน ซูอาเรซ, อัลเบร์โต้ โบเตีย (อันเดร กาสโตร น.79), เกรกอรี่ อาร์กโนแล็ง, อเล็กซ์ เมเนนเดซ - อัลเบร์โต้ รามอส, อเลฆานโดร กัลเบซ - มิเกล เด ลาส กวยบาส (ฟอร์กโมเซ่ เมนดี้ น.57), ออสการ์ เตรโฮ - กาสตัน ซานกอย, อาเดรียน โกลุนก้า (มาเต้ บิลิช น.61)


บียาร์เรอัล: ดีเอโก้ โลเปซ - มาริโอ กาสการ์, มาเตโอ มูซัคคิโอ, คริสเตียน ซาปาต้า, ฆวาเม่ - มาร์กอส เซนน่า (กัปตันทีม) (อังเคล โลเปซ น.62), การ์ลอส มาร์เชน่า (วากาโซ่ มูบารัค น.72), บรูโน่ โซเรียโน่ - บอร์ฆา บาเลโร่, เอร์นาน เปเรซ (กอนซาโล่ โรดริเกซ น.88) - มาร์โก รูเบน


ผลฟุตบอล ลา ลีกา สเปน คืนวันอังคารที่ 1 พฤษภาคม
เกตาเฟ่ เสมอ ราซิ่ง ซานตานเดร์  1-1
กรานาด้า ชนะ เอสปันญ่อล   2-1
สปอร์ติ้ง กิฆอน แพ้ บียาร์เรอัล  2-3 

ไฮไลท์คลิป กัลลาเกอร์ดีใจจัดรอเชคแฮนด์กอมปานีที่โขกฝังผี 12bet 02/05/2555



เลียม กัลลาเกอร์ อดีตสมาชิกวงดนตรีชื่อดังจากเกาะอังกฤษ “โอเอซิส” ตามที่รู้กันดีว่าเขาเป็นสาวกตัวยงของทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี และหลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา เจ้าตัวคงจะดีใจเหลือขนาดเมื่อทีมรักเฉือนชนะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเด็ต 1-0 พร้อมกับการคืนสู่บัลลังก์จ่าฝูง พรีเมียร์ ลีก อีกครั้ง และยังได้ลุ้นแชมป์เต็มตัวอีกครั้งใน 2 นัดสุดท้ายที่เหลือด้วย



       
นอกจาก เลียม กัลลาเกอร์ นั่งลุ้นเกมตลอด 90 นาทีแล้ว หลังเกมเขายังอารมณ์ดีไปนั่งหยอกล้อสื่อถึงห้องแถลงข่าวอีกต่างหาก จนกระทั่งได้เห็น แวนซองต์ กองปานี ฮีโร่ผู้โขกประตูชัยในเกมนี้ เดินเข้ามาในห้องแถลงข่าว เลียม จึงลุกขึ้นขอจับมือพร้อมสวมกอด พูดคุยแสดงความขอบคุณด้วยบรรยากาศอันชื่นมื่นสมใจอยากสาวกคนดังรายนี้

ไฮไลท์คลิป นักปั่นแหกโค้งเทกระจาดต่อกันเป็นชุด 12bet 02/05/2555



กีฬาที่เกี่ยวข้องกับความเร็วมักมีภาพอุบัติเหตุมาให้เราชมเสมอ คราวนี้เป็นการแข่งขันจักรยานทางไกล รายการ ร็อค ลิติตซ์ ทัวร์ ระยะ 40 ไมล์ กับสเตจแข่งขันปั่นทำความเร็วระยะ 9.5 ไมล์ บนถนนแฮมเมอร์ ครีค ที่พาดผ่านใจกลางเมืองแลนคาสเตอร์ คันทรี บรรดานักปั่นต่างเร่งสปีดความเร็วกันอย่างเต็มที่ ก่อนที่อุบัติเหตุหมู่จะเกิดขึ้นตรงช่วงเข้าโค้ง 





หลังจากนักปั่นผู้นำเสียหลักหลุดโค้งชนเข้ากับรั้วกันขอบทาง เป็นเหตุให้กลุ่มนักปั่นที่ตามมาเบรกไม่อยู่ ชนกันล้มระเนระนาด นอนกองอยู่บนพื้นถนนไปประมาณ 8 ราย แต่จากคลิปที่ได้ชมจะมีอยู่ 2 ราย ที่คงบาดเจ็บฟกช้ำพอสมควรที่ยังนอนกองอยู่ริมถนนยังไม่สามารถลุกขึ้นจับจักรยานปั่นเข้าร่วมแข่งขันต่อได้ทันที

ไฮไลท์คลิป 1 ใน ล้าน! นกดวงกุดบินรับลูกเบสบอลขนกระจุย 12bet 02/05/2555



เป็นภาพการแข่งขันเบสบอลระดับไฮสคูล ที่สนาม แลนเฟียร์ พาร์ค รัฐอิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อ รีน เอ็ลเวอร์ส พิตเชอร์ทีม เซเครด ฮาร์ท-กริฟฟิน ไฮ สคูล กำลังจะขว้างลูกตามปกติในแมตช์การแข่งขัน 





แต่ว่าขณะที่เขากำลังขว้างลูกเบสบอลออกไป กลับเป็นจังหวะเดียวกันที่มีนกบินหลงเข้ามาในสนามพอดีพอดีกับแนววิถีที่ลูกพุ่ง เจ้านกผู้โชคร้ายตัวนี้จึงโดนลูกเบสบอลอัดเข้าตัวไปแบบเต็มๆ ขนหลุดปลิวกระจาย แต่นับว่ายังโชคดี เมื่อนกผู้โชคร้ายตัวนี้ชะตายังไม่ถึงฆาต เมื่อมันยังสามารถบินออกไปจากสนามต่อได้

ไฮไลท์คลิป โคตรคล่อง! ตีลังกาหนีก่อนโดนจับล็อค 12bet 01/05/2555

วันอังคารที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2555



เกร็ก แซนเดอร์ส นักกีฬามวยปล้ำจากมหาวิทยาลัยคอนคอร์เดีย รัฐวิสคอนซิน โชว์ทักษะการต่อสู้สุดเจ๋งพลิกสถานการณ์จากเป็นฝ่ายเสียเปรียบเอาตัวรอดด้วยการดีดตัวลังกาหลังข้ามหัวคู่ต่อสู้ก่อนจะจับล็อคตัวจากทางด้านหลังด้วยจังหวะเหมาะเจาะลงตัวพอดี และด้วยฝีมือไหวพริบแพรวพราวเช่นนี้ช่วยให้เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้ในที่สุด


ไฮไลท์แมตช์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด Premier League - กอมปานีเขกชัย! เรือย้ำแค้นเปิดรังเชือดผี 1-0 พร้อมนำฝูง 12bet 01/04/2555



แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมากุมความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หลังได้แวงซอง กอมปานี โขกประตูโทนช่วยให้ทีมเฉือนชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในดาร์บี้แมตช์อันเข้มข้นของเมืองแมนชสเตอร์ 1-0 เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา


วันจันทร์ที่ 30 เมษายน 2555


ฟุตบอลพรึเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด







ดาร์บี้แมตช์ เมืองแมนเชสเตอร์เริ่มขึ้นในเกมที่ 36 ของฤดูกาล ก่อนเกมปีศาจแดงมีแต้มนำเรือใบสีฟ่้าอยู่ 3 คะแนน ทว่าลูกได้เสียยังเป็นรองอยู่ถึง 7 ประตู 


เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทัพแปลกสุดๆ โดยดร็อปทั้งแอชลีย์ ยัง และอันโตนิโอ วาเลนเซีย สองผู้เล่นริมเส้นที่ฟอร์มการเล่นใช้ได้ และเลือกส่งนานี่ กับพาร์ค จี ซอง ที่ร้างสนามในระยะหลังลงมาแทน


ด้านซิตี้ ไม่ได้ใช่้บริการความเกรียนของมาริโอ บาโลเตลลี่ แต่ใช้กองหน้ามะขามป้อมสองหน่ออย่างกุน เอวเกวโร่ และคาร์ลอส เตเวซ ดูโอ อาร์เจนไตน์นำทัพลงมา


เปิดเกมมาไม่มีกั๊กเลยสำหรับทั้งสองทีม เมื่อพยายามที่จะเอาบอลมาครองแล้วบุกใส่ฝ่ายตรงข้ามทันที เริ่มจากแมนฯยูไนเต็ดทีได้กดดันก่อนที่เจ้าบ้านจะได้ไปยาวๆถึงหน้าประตู แต่โอกาสจะๆยังไม่มี

นาทีที่ 16 หวิดจะเสียประตูตั้งแต่แรกไปก่อนแล้วสำหรับจ่าฝูงแมนฯยูไนเต็ด เมื่อโซนรับของพวกเขาเปิดช่อง โดนนาสรี่วิ่งเลี้ยงตี้ลากบอลผ่านทะลุเข้าไปดื้อๆ ก่อนที่จะแทงทะลุช่องให้เตเบซหลุดไปเปิดควัดผ่านเด เกอาหมายให้อเกวโร่ยิงจ่อๆ แต่เป็นโจนส์ที่ไปยืนดักสกัดทิ้งออกมาได้ทัน

อีกสี่นาทีต่อมากอมปานี พยายามจะเข้าไปตัดจังหวะการเล่นสวนกลับของแมนฯยูไนเต็ด แต่ไปเข้าบอลเช้ากว่ารูนี่ย์ที่ปล่อยบอลออกไปได้แล้ว แม้ว่าเกมจะเล่นกันต่อ แต่สุดท้ายมาร์ริเนอร์ก็มาให้ใบเหลืองย้อนหลังกับกัปตันทีม "เรือใบ"

นาทีที่ 25 พลาดเต็มๆเลยสำหรับเกมรับของแมนฯยูไนเต็ด เมื่อรูนี่ย์พยายามจะสกัดบอลแบบหวดเต็มแรงดักจังหวะโยนเข้าในเขตโทษของซิลบา แต่ดันหวดไม่ไปไหน เลยโดนหนุนสวนกลับเข้าไปอีกที บอลเข้าทางอเกวโร่ที่ไม่ต้องพูดมาก ยิงมันจังหวะแรกเลย ติดที่โดนไม่เต็มใบ เลยพุ่งข้ามคานออกหลังไปไกลลิบ

ผ่านครึ่งชั่วโมงเกมนี้ตรงกลางสัปดาห์มันแน่นสุดๆไปเลย มีหลายครั้งที่นักเตะแมนฯยูไนเต็ดต้องพยายามเลี่ยงโยนบอลยาวไปข้างหน้า ทำให้ไม่แม่นและเสียบอลกลับไปง่าย ส่วนแมนฯซิตี้ใช้ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะผสานกับการต่อบอลที่รวดเร็ว ทำให้กดดันแนวรับของแมนฯยูไนเต็ดได้อยู่หลายช่วง

นาทีที่ 36 แนวรับทางซ้ายแมนฯยูไนเต็ดมีปัญหาน่าดู เพราะโดนเจาะครั้งแล้วครั้งเล่า คราวนี้โดนแมนฯซิตี้เล่นชิ่งกันจนนาสรี่หลุดเข้าไปเปิดให้อเกวโร่กระดกบอลขึ้นก่ะวอลเล่ย์เต็มๆ แต่มีเฟอร์ดินานด์เข้าไปแหย่เท้าสกัด เลยต้องอัดเบี่ยง บอลหลุดกรอบออกไป

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย เกมมีการเปิดแลกกันขึ้นมาหน่อย หลังจากแมนฯยูฯโดนกดอยู่นาน ก็มีสวนมีโต้ขึ้นไปบ้าง แต่พวกเขาก็เกือบโดนจากจังหวะที่เตเบซพาบอลควบหนีสองผู้เล่นทีมเยือน ก่อนที่จะจ่ายต่อจนบอลไปถึงอเกวโร่ทางซ้าย ติดตรงตัวบล็อกเพียบ เลยยิงแฉลบออกหลังไป


ช่วงเวลานาทีแรก แมนฯซิตี้มาได้ประตูสุดสำคัญขึ้นนำไปแบบเฮกันลั่นสนาม หลังจากเล่นคอนเนอร์อยู่หลายต่อหลายครั้งก็มาสำเร็จ เมื่อซิลบาบรรจงโยนบอลโค้งเข้าไปในเขตโทษ สมอลลิ่งพลาดหลุดจากการประกบตัวของกอมปานี เลยทำให้กัปตันทีม "เรือใบ" สบช่องโถมตัวขึ้นโขกตรงจุดนัดพบพอดิบพอดี แสกหน้าเด เกอาเข้าไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ขึนนำก่อน 1-0 ก่อนที่จะจบ 45 นาทีแรก ลุ้นกันต่อไปในครึ่งหลัง แต่ดูจากรูปเกมในครึ่งแรกแล้ว บอกได้เลยว่าแมนฯซิตี้สมควรเป็นผู้นำไปก่อนโดยแท้


นาทีที่ 53 เก็บอารมณ์ไม่อยู่ไปหน่อยสำหรับยาย่า ในจังหวะที่เขาพยายามจะชิงเบียดกิ๊กส์ที่พยายามแตะบอลหนี แล้วเหมือนเจตนากันโดยตรง ทำให้มาร์ริเนอร์เป่าฟาวล์ เจ้าตัวไม่พอใจเลยทุ่มบอลลงซะเต็มแรง ทำให้โดนใบเหลืองไปตามระเบียบ

อีก 5 นาทีต่อมา จำเป็นแล้วสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อเห็นว่าแผนกองกลางแน่น มันไม่แน่นอย่างที่คิด ซ้ำปาร์คยังเล่นไม่ออก ทำให้ตัดสินใจส่งเวลเบ็คลงไปเล่นแทนมิดฟิลด์เลือดโสม แน่นอนว่าเกมจะต้องเปิดขึ้น

หลังจากทำท่าจะดีขึ้นในต้นๆครึ่งหลัง แล้วก็โดนแมนฯซิตี้กดดันอีก แต่พอเพิ่มกองหน้าลงไปอีกตัว ตอนนี้แมนฯยูไนเต็ดก็พยายามเดินเครื่องเข้าใส่แบบเต็มที่ ถึงอย่างนั้นก็ดูกองหลัง "เรือใบ" ไม่ค่อยระแคะระคายผิวเท่าไหร่


นาทีที่ 68 เขี้ยวน่าดูสำหรับแมนฯซิตี้ เมื่อพวกเขาจัดการส่งเดอ ยองที่ช่ำชองในการเล่นเกมรับลงไปเสริมมิดฟิลด์ แล้วถอดเตเบซที่ดูแล้วเหมือนจะหายๆหมดๆไปเหมือนกันออกไป

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทั้งจังหวะการจ่ายบอลและการเล่นประสานกัน ดูแล้วทางแมนฯซิตี้ยังคงทำได้ดีกว่าแมนฯยูไนเต็ดอย่างต่อเนื่อง ดีไม่ดีจะยิงเพิ่มได้อีก เพราะแต่ละตัวจัดจ้านเหลือเกิน

นาทีที่ 77 เกือบมีเรื่องมีราวกันที่ข้างสนามแล้ว เมื่อเซอร์ อเล็กซ์ไม่พอใจที่เวลเบ็คโดนเดอ ยองทำฟาวล์เลยไปโวยผู้ตัดสิน ทำให้มันชินี่ปรี่เข้าไปบอกให้เงียบปากได้แล้ว ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตะโกนด่ากันไปมาจนต้องมีคนออกมาแยก

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย บีบหัวใจกันอย่างแรงทั้งสองทีม เพราะเวลางวดเข้ามาทุกทีและอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแม้ว่าแมนฯซิตี้จะนำอยู่ก็ตาม

นาทีที่ 83 มีการปรับเปลี่ยนกันทั้งสองทีม เมื่อแมนฯซิตี้เปลี่ยนเอาริชาร์ดส์ลงไปเสริมความแกร่งในแนวรับ ส่วนแมนฯยูไนเต็ดทำตรงกันข้ามกันไป เมื่อส่งยังลงเล่นแทนนานี่ที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ออกเลย

ท้ายเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้กลับมาบดอีกครั้ง กลิชี่วิ่งเข้าไปบวกบอลที่แฉลบออกมา แต่ติดเซฟของเด เกอาที่พุ่งปัดเอาไว้ได้ดี บวกทั้งจังหวะของนาสรี่ที่ได้โอกาสยิงในเขตโทษแล้ว แต่พี่แกยึกหลายจังหวะเกินเลยอด ถึงอย่างนั้นสุดท้ายแล้วจบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทำสำเร็จ เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปด้วยสกอร์ 1-0 เพียงพอให้พวกเขาพลิกแซงขึ้นไปนำจ่าฝูงพรีเมียร์ ลีกด้วยประตูได้เสียที่มากกว่า ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีกแค่ 2 เกมเท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, โจเลี่ยน เลสค็อตต์, แวนซองต์ กอมปานี , กาแอล กลิชี่, ปาโบล ซาบาเลต้า, แกเร็ธ แบร์รี่, ยาย่า ตูเร่ , ซาเมียร์ นาสรี่(มิลเนอร์ น.90), ดาวิด ซิลบา(ริชาร์ดส์ น.82), แซร์คิโอ้ อเกวโร่, คาร์ลอส เตเบซ(เดอ ยอง น.68)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาวิด เด เกอา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, คริส สมอลลิ่ง, ปาทริซ เอฟร่า, ฟีล โจนส์ , ไมเคิ่ล คาร์ริค , พอล สโคลส์(วาเลนเซีย น.78), ปาร์ค จี ซุง(เวลเบ็ค น.58), ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนี่ย์, นานี่(ยัง น.83)

ไฮไลท์คลิป นกหวีดหลอกทำอูดิดับซ่าลาซิโอ 2-0 12bet 01/05/2555



ศึกฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี คู่ระหว่าง อูดิเนเซ ที่เปิดบ้านดับซ่า ลาซิโอ 2-0 มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้นช่วงทดเวลาบาดเจ็บท้ายเกม ขณะที่ผู้เล่นทีมเยือนยกแผงบุกขึ้นไปหมายจะพังประตูลุ้นตีเสมอ แต่กลับไม่เป็นผล แถมโดนทีมเจ้าถิ่นเปิดเกมสวนกลับ โดย โรแบร์โต เปเรย์รา ลากบอลมาทางริมเส้นก่อนจะยิงประตูจากมุมขวานอกกรอบเขตโทษส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปอย่างง่ายดาย



       
นักเตะลาซิโอ โดนทีเด็ดจากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่อยู่บนอัฒจันทร์เป่านกหวีดทำลายสมาธิหลอกว่าหมดเวลาการแข่งขัน ส่วนหนึ่งก็หวังกดดันกรรมการแต่ทว่านักเตะลาซิโอ บางคนกลับเชื่อว่าเป็นเสียงนกหวีดเป่าจากผู้ตัดสินจริงๆ จึงทำให้ เปเรย์รา ลากบอลไปยิงประตูย้ำชัยได้อย่างสบายเท้า แม้หลังจากนั้น ทางฝ่ายทีมเยือนจะประท้วงอย่างวุ่นวาย แต่สุดท้ายผู้ตัดสินก็ชี้ให้เป็นประตู ส่งผลให้เจ้าบ้านเก็บ 3 แต้มสำคัญ พร้อมยังคงได้ลุ้นต่อสำหรับ 1 ใน 4 ทีม ที่แย่งอันดับ 3 เพื่อได้สิทธิ์ลุย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าต่อไป

ไฮไลท์คลิป ควักกะปิชู้ตครึ่งสนามลงเฉยเลย 12bet 01/05/2555



ภาพการชู้ตของนักบาสเกตบอลรายหนึ่ง ที่คงต้องบอกว่าถ้าตั้งใจชู้ตคงจะไม่ได้ผลงานดีเยี่ยมเช่นนี้ เมื่อผู้เล่นในชุดสีขาวหมายเลข 22 พยายามวิ่งไล่คว้าลูกบาสเกตบอลไม่ให้ออกจากสนามตรงบริเวณกึ่งกลางคอร์ตบาส ด้วยมือเดียว แต่ปรากฏว่า เขาทำดีเกินคาด นอกจากลูกยังไม่ออกจากคอร์ตแล้ว ยังหันหลังควักลูกบาสลอยละลิ่วลงห่วงฝั่งทีมคู่แข่งได้ 3 แต้มอย่างเหลือเชื่ออีกต่างหาก


ไฮไลท์แมตช์ ราโญ่ บาเญกาโน่ VS บาร์เซโลน่า La Liga - ยังไม่ยอมง่ายๆ! เมสซี่ควงเปโดรเบิ้ลพาบาร์ซ่าอัดราโญ่ฯ 7-0 12bet 30/04/2555

วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2555



ขอยื้อเวลาถ่ายโอนแชมป์ให้นานที่สุดว่ายังงั้นเถอะ บาร์เซโลน่าฟอร์มกลับมามหาโหดอีกครั้ง บุกไล่กระทืบราโญ่ บาเญกาโน่ แบบไม่ไว้หน้า 7-0 ในเกมลา ลีกาเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา



วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 


ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
ราโญ บาเญกาโน่ 0-7 บาร์เซโลน่า 





บาร์เซโลน่า บุกเยือนราโญ่ บาเญกาโน่ หลังจากเพิ่งตกรอบบอลยุโรป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาหมาดๆ โดยเกมนี้ปรับหมากส่ง ปินโต้และมอนโตย่า สองแข้งสำรองเป็นตัวจริง ฝั่งราโย่เจ้าถิ่นปรับแผนมาเล่นหน้าคู่ส่ง ราอูล ตามูโด้ ประสานงานกับ ดีเอโก้ คอสต้า 

ออกสตาร์ทเกมมาได้เพียง 4 นาทีโฆเซ่ ปินโต้หวิดทำเสียเรื่องเมื่อเตะเปิดเกมออกมาเข้าทางดีเอโก้ กอสต้าแต่ยังดีที่เซร์คิโอ บุสเก็ตส์พุ่งมาสไลด์บอลทิ้งได้ทันคาบเกี่ยวกับการเสียจุดโทษไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่บาร์เซโลน่าก็มาได้ประตูออกนำ 1-0 ในนาที 16 เมื่ออเล็กซิสครองบอลดึงตัวประกบไปอออยู่ที่หน้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนแทงบอลข้ามมาให้เปโดรที่ยืนโล่งทางขวาซึ่งตบกลับไปเสาไกลให้เมสซี่ชาร์จเข้าสบาย

ทว่าบาเญกาโน่ก็ไม่ยอมอยู่เฉยอีกสองนาทีถัดมาก็สร้างโอกาสเข้าทำจนเกือบตีเสมอได้เช่นกันเมื่อพวกเขาเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษเข้าหัวคอสต้าได้โหม่งสะบัดไปเกือบเสียบเสายังดีที่ปินโต้บินปัดทิ้งได้ทัน

อย่างไรก็ตามนาที 26 ความขยันของเมสซี่ก็นำมาซึ่งประตู 2-0 เมื่อเขาไปบีบแย่งบอลจากผู้เล่นราโญ่จนบอลไปเข้าทางเกอิต้าเบิ้ลขึ้นหน้าให้อเล็กซิสควบไปแตะหลบนายทวารจนถูกบีบให้ยิงมุมแคบโดยมีคอร์เรียพยายามสไลด์สกัดออกมาแต่กลายเป็นเข้าประตูแถมตัวเองยังเสียหลักไปชนเสาจนเจ็บแล้วต้องถูกเปลี่ยนตัว

บาเญกาโน่น่าได้ประตูตีไข่แตกในนาที 33 หลังได้ฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษแล้วเป็นเด็กเก่าอย่างตราชอร์ราสที่ปั่นบอลโค้งด้วยอีขวาข้ามกำแพงเกือบเสียบเสาแรกแต่ปินโต้ยังดีดตัวปัดออกหลังได้อีก

พอเจ้าบ้านทำไม่ได้ก็เสร็จ"อาซูลกราน่า"อีกรอบเมื่อนาที 39 เมสซี่โชว์เครื่องหมายการค้าอย่างการกระชากบอลจากทางด้านขวาหลบมาได้สองด่านก่อนแทงทะลุช่องให้เกอิต้าหลุดไปยิงสวนนายทวารให้ทีมทิ้ง 3-0

เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 60 วินาทีสาวกกูเล่ก็ได้เฮอีกรอบเมื่ออเล็กซิสสบช่องเปิดบอลจากฝั่งซ้ายมาที่เสาแรกให้เมสซี่โฉบเข้าชาร์จไปชนคานกระดอนไปเข้าทางเปโดรแปสบายที่เสาสองให้ทีมทิ้งห่างสุดกู่ 4-0

ขณะที่นาที 54 ราโญโดนเจาะทางด้านขวาอีกแล้วโดยหนนี้เป็นทีของอาเดรียโน่ที่กระชากบอลมาเปิดเลียดเข้าไปในเขตโทษถูกกองหลังแหย่สกัดนิดนึงจนมาเข้าทางธิอาโก้ได้แปบอลเน้นทิศทางแต่หลุดเสาขวา

บาร์เซโลน่ายังรุกไล่เพื่อประตูที่ห้าเหมือนกับต้องการระบายความผิดหวังที่จ่อเสียแชมป์ลาลีกาให้เรอัล มาดริดโดยนาที 66 อัลเวสกระชากบอลมาจนสุดเส้นหลังด้านขวาแล้วเปิดเข้ามาแต่เมสซี่เข้าชาร์จไม่ทัน

แต่บาเญกาโน่ยังคงฮึดสู้เมื่ออีกสี่นาทีถัดมาลาสส์กระชากบอลขึ้นมาทางด้านซ้ายก่อนโยกหนีตัวปรรกบตัดเข้าในมาส่องไกลด้วยเท้าขวาบอลพุ่งแหวกอากาศไปโดนปินโต้ปัดข้ามคานเลยยังไม่ได้ประตูตีไข่แตก

ความเฉียบขาดในการจบสกอร์มันต่างกันจริงๆเมื่อนาที 77 อัลเวสประสานงานกับเปโดรทางด้านขวาก่อนเปิดบอลโค้งเข้ามาให้เขตโทษให้ธิอาโก้โหม่งกดลงพื้นผ่านโคเฮโญ่เข้าไปซุกก้นตาข่ายให้บาร์เซโลน่านำ 5-0

เท่านั้นบังไม่หน่ำใจพวกต่างดาวเมื่อนาที 86 เมสซี่งัดบอลข้ามแนวรับบาเญกาโน่ให้เปโดรวิ่งสอดเข้าไปกระทุ้งสวนตัวโคเบโย่เข้าไปตุงตาข่ายอย่างเฉียบขาดให้บอดทีมแคว้นคาตาลันทิ้งห่างไปไกลถึง 6-0

แถมก่อนหมดเวลานาทีเดียวอเฟลลายวางบอลยาวเข้าไปในเขตโทษให้เตโญ่จับบอลลงพื้นก่อนที่เปโดรไปรับช่วงต่อแล้วส่งไปให้เมสซี่กดเข้าประตูไป นับเป็นลูกที่ 43 ในลีกซีซั่นนี้เทียบเท่าโรนัลโด้แห่งค่ายมาดริด

ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรเพิ่มไม่ได้จบเกมบาร์เซโลน่าถล่มราโญ่ บาเญกาโน่ 7-0 ทำให้เรอัล มาดริดยังไม่อาจฉลองแชมป์ลาลีกาในสัปดาห์นี้ได้เมื่อ"บาร์ซ่า"บีบช่องว่างเหลือ 7 คะแนนแต่ยังมีเกมให้เล่นอีก 3 นัด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
ราโญ บาเญกาโน่ : ดาบิด โคเบโญ่, ติโต้ โรมัน, อเลฆานโดร อาร์ริบาส , ฆอร์เก้ ปูลิโด้, โรเบร์ คอร์เรีย (ไอตอร์ นูเนซ น.29), โฆเซ่ โมบิญ่า (ดิยามันก้า น.47), โรเบร์โต้ ตราชอร์ราส, ลาสส์, มิชู, ราอูล ตามูโด้, ดีเอโก้ กอสต้า (ดิเอโก้ เบนิโต้ น.65)



บาร์เซโลน่า : โฆเซ่ ปินโต้, มาร์ติน มอนโตญ่า, การ์เลส ปูโญล, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อาเดรียโน่ กอร์เรอา (ดาเนี่ยล อัลเวส น.60 ), ธิอาโก้ อัลกานตาร่า , เซร์กิโอ บุสเก็ตส์ (อิบราฮิม อเฟลลาย น.73), เซย์ดู เกอิต้า , เปโดร โรดริเกวซ , ลิโอเนล เมสซี่ , อเล็กซิส ซานเชซ (คริสเตียน เตโญ่ น.80)


ผลฟุตบอล ลา ลีกา สเปน คืนวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555
เรอัล มาดริด ชนะ เซบีญ่า  3-0
เรอัล ซาราโกซ่า ชนะ แอธเลติก บิลเบา  2-0
มาลาก้า ชนะ บาเลนเซีย  1-0
เรอัล เบติส เสมอ แอตเลติโก มาดริด  2-2
ราโญ่ บาเญกาโน่ แพ้ บาร์เซโลน่า  0-7

ไฮไลท์แมตช์ เชลซี VS ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส Premier League - ตอร์แฮตทริค! สิงห์กระซวกทหารเสือยับ 6-1 12bet 30/04/2555



เฟร์นานโด ตอร์เรส สลัดวิญญาณสากกะเบือออกจากตัวโดยสมบูรณ์แบบแล้ว โดยทำแฮตทริคแรกในเสื้อของเชลซีได้สำเร็จ ช่วยสิงห์บลูส์เปิดแสตมฟอร์ด บริดจ์ ถล่มควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ขาดลอย 6-1 ในเกมพรีเมียร์ชิพคืนวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา


วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 6-1 ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส 






เจ้าถิ่น เชลซีเปิดรังสแตมฟอร์ด บริดจ์ต้อนรับการมาเยือนของควีนส์ ปาร์ค โดยสิงห์บลูส์ให้ตอร์เรสยืนเป็นหัวหอก หลังจากทำประตูในเกมกับบาร์เซโลน่ามาได้ พร้อมกับคู่หูรู้ใจกันอย่างมาต้า

แค่ 46 วินาทีเท่านั้น เชลซีก็ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วสุดๆ เมื่อสเตอร์ริดจ์พาบอลตัดผ่านเฟอร์ดินานด์ไป ก่อนที่จะล็อกเป้าแล้วจัดการปั่นโค้งส่งบอลพุ่งจากนอกกรอบเขตโทษเข้าไปเสียบเสาอย่างงาม เชลซีนำแล้วในตอนนี้

ยังไม่ถึงสิบห้านาทีดี  เชลซีก็มาได้ประตูนำห่างออกไปถึง 2 ลูก จากจังหวะแรกที่แลมพาร์ดชิบอย่างสวย โดนเคนนี่ปัดทิ้งออกหลังไปได้ ก่อนที่จะเตะมุมแล้วเป็นเทอร์รี่ที่สอดขึ้นไปโขกแบบเน้นๆ ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม สกอร์เขยิบเป็น 2-0 นาทีที่ 14

นาทีที่ 19 ดูแล้วความมั่นใจกลับมาจริงๆสำหรับตอร์เรส เมื่อกาลูจ่ายบอลทะลุไปให้กับตอร์เรสที่วิ่งเข้าหาบอล ก่อนที่จะแตะหนีเคนนี่ด้วยน้ำหนักที่คุ้นเคย ก่อนที่ะแปบอลผ่านเข้าประตูไป เห็นแล้วชื่นใจแทนแฟนๆ เชลซีทิ้ง 3-0

นาทีที่ 25 กองหลังควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์สมอบของขวัญสุดแจ่มให้กับตอร์เรสไปแบบเต็มๆ เมื่อโอนูโอฮาพยายามที่จะวิ่งเอาตัวกันแล้วโหม่งบอลคืนให้กับเคนนี่ แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เลยกลายเป็นบอลไม่เข้าจังหวะ หลุดไปโดนตอร์เรสฉก ก่อนที่จะแปด้วยซ้ายเข้าไปตุงตาข่าย ตอร์เรสเบิ้ล เชลซีทิ้ง 4-0

เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ตอนนี้เชลซีเล่นกันด้วยความมั่นใจสุดๆ ต่อบอลกันได้เป็นอย่างดี แม้ว่าสนามจะลื่นจากฝนตกก็ตาม ดูแล้วชื้นใจแทนโรมัน อับราโมวิชที่่นั่งชมดูบอลแสตนด์พร้อมรอยยิ้มที่บานไม่หุบ

นาทีที่ 41 เจ็บฟรีเลยสำหรับมาต้า ที่ไปเจอขาใหญ่อย่างบาร์ตันเข้าสกัดบอล แต่ไม่ใช่แค่ธรรมดา เพราะมีของแถมด้วยการย่ำสตั๊ดลงไปที่หลังเท้าเต็มๆจนลุกแทบไม่ขึ้น แต่หลังจากปฐมพยาบาลไปก็ลุกขึ้นมายืนได้อีกครั้ง

ช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่ได้มีจังหวะทำประตูอะไรเพิ่มเติม มีแต่ช๊อตยิงของตอร์เรสที่หลุดกรอบออกไป เชลซีถล่มไปก่อนเลย 4-0 อีก 45 นาทีที่เหลือค่อยว่ากัน

นาทีที่ 51 ต้องทำได้ดีกว่านี้มากๆเลยสำหรับมาต้า ในจังหวะที่โคลสายตาเฉียบมองเห็นช่องก่อนจะจ่ายทะลุยาวให้มาต้าหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวในกรอบเขตโทษ แต่เขากลับเลือกตวัดยิงด้วยซ้ายตั้งแต่จังหวะแรก เลยทำให้บอลไหลเบาหวิวเข้ามือของเคนนี่ไป


อีก 3 นาทีต่อมา เป็นโอกาสลุ้นครั้งแรกที่น่ากลัวเลยทีเดียวสำหรับควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส เมื่อแม็คกีย์เลี้ยงพาบอลป้วนเปี้ยนหน้ากรอบเขตโทษของเชลซี ก่อนจะตัดสินใจตะบันเต็มตีนเตี่ย บอลแฉลบเท้าของเทอร์รี่ที่เข้ามาบล็อกนิดหนึง แต่พุ่งอย่างกับมีแรงดูดเข้าเสียบเสา แต่เป็นเช็กที่บินมาสุดตัวปัดทิ้งเอาไว้ได้ทัน

นาทีที่ 59 ก่ะว่าจะลุ้นแฮทริกสักหน่อย แต่ขาดความมุมไปนิด เมื่อตอร์เรสแตะหาโอกาสจังหวะยิง ประจวบเหมาะกับกองหลังควีนส์ ปาร์คไปลื่นพอดี ทำให้ตอร์เรสได้โอกาสรีบจัดการยิงเน้นๆ แต่บอลไม่หนีมือเท่าไหร่ ทำให้เคนนี่ทุบทิ้งออกมาไว้ได้

นาทีที่ 64 เป็นวันของเขาจริงๆสำหรับตอร์เรสในวันนี้ เมื่อชิงจังหวะฉีกหนีกองหลังหลุดกับดักล้ำหน้าไปได้ ก่อนที่จะเข้าไปเดี่ยวกับเคนนี่ เอี้ยวตัวยิงสุดเฉียบผ่านมือของเคนนี่ที่ทำได้แค่ปัดโดนนิดเดียว ก่อนจะเสียบเสาสอง ตอร์เรสระเบิดแฮทริกได้สำเร็จ เชลซีถล่ม 5-0

อีก 4 นาทีต่อมา เริ่มพักนักเตะตัวหลักกันแล้วสำหรับเชลซี เมื่อพวกเขาจัดการถอดมาต้าที่เป็นผู้จ่ายให้ตอร์เรสซัดแฮทริกได้ออกไปพัก แล้วส่งมาลูด้าลงไปเล่นแทน

นาทีที่ 74 ทยอยพักกันต่อเนื่องมาเลยสำหรับเชลซี เมื่อถอดเอากาลูออก แล้วส่งรามิเรสที่ปกติจะเป็นตัวจริงลงไปเรียกกำลัง เพราะยังไงเกมนี้ก็ 3 คะแนนชัวร์อยู่แล้ว

นาทีที่ 80 พอดิบพอดี เมื่อเชลซีมาทำครบครึ่งโหลในจังหวะที่ขึ้นเกมทางด้านข้าง กองหลังของควีนส์ ปาร์คพยายามสกัดทิ้ง แต่ดันไปเข้าเท้าของมาลูด้าที่ยืนจังก้าอยู่ เลยจัดการซัดเข้าไปไม่มีเหลือ เชลซีถล่มแหลก 6-0

อีก 5 นาทีต่อมา ถือว่าสมาธิเสียไปเหมือนกันสำหรับกองหลังของเชลซี เมื่อไปสกัดไม่ขาดในจังหวะที่โดนเจาะทางข้าง จนทำให้ซิสเซ่ได้บอลในเขตโทษ ก่อนที่จะยิงยัดเต็มๆ ผ่านมือของเช็กที่เจอแบบนี้ยากนักจะรับได้ สกอร์เป็น 6-1 ปลอบใจแฟนบอลทีมเยือนไปเบาๆ

จบ 90 นาที เชลซีโชว์ฟอร์มสุดหรูถล่มเอาชนะควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์สไปขาดลอย 6-1 ทำให้พวกเขามีเพิ่มเป็น 61 คะแนนจี้หลังนิวคาสเซิ่ลในอันดับที่ 4 อยู่เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, โจเซ่ โบซิงวา(ฮัทชินสัน น.82), แอชลี่ย์ โคล, เปาโล แฟร์เรร่า, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง, ซาโลมอง กาลู(รามิเรส น.74), ดาเนียล สเตอร์ริดจ์, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฆวน มาต้า(มาลูด้า น.68)

ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส : แพทริก เคนนี่, คลินท์ ฮิลล์, อันทอน เฟอร์ดินานด์, ทาเย ไทอิโว่, เนดุม โอนูโอฮา, เอกอส บูซ์ซากี้(ตราโอเร่ น.65), ฌอน เดอร์รี่, เจมี่ แม็คกีย์, โจอี้ บาร์ตัน, บ๊อบบี้ ซาโมร่า(ไรท์ ฟิลลิปส์ น.78), ฌิบริล ซิสเซ่

ไฮไลท์แมตช์ เรอัล มาดริด VS เซบีญ่า La Liga - ราชันรอฉลอง! เฝ้าบ้านต้อนเซบีย่านิ่มๆ 3-0 12bet 30/04/2555



แชมป์ลา ลีกา ปีนี้น่าจะมาอยู่ที่ซานติอาโก้ เบร์นาบิวแล้ว หลังเรอัล มาดริด ได้โรนัลโด้ และคาริม เบนเซม่า ทำประตูให้ราชันชุดขาวถล่มเซบีญ่า 3-0 ในเกมคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา




วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 


ฟุตบอลลา ลีกา สเปน 
เรอัล มาดริด 3-0 เซบีญ่า







มาดริด เจ้าถิ่นเพิ่งอกหักโดนบาเยิร์น มิวนิค ทีมแกร่งจากบุนเดสลีกา เขี่ยตกรอบรองแชมป์เปี้ยนส์ ลีกอย่างเจ็บปวดเกมนี้เลยจัดผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมเมื่อกลางสัปดาห์ถอดซามี่ เคห์ดิร่าออกแล้วส่งเอสเตบัน กราเนโร่ลงมาแทนส่วนคนอื่นๆยังอยู่กันครบโดยที่กาก้าและกอนซาโล่ อิกวาอินนั่งรอโอกาสที่ม้านั่งสำรอง

ขณะที่เซบีย่าทีมเยือนยังลุ้นโควต้าบอลยุโรปอยู่ลิบๆเกมนี้เลยส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามกะเปิดเเลกกับมาดริดเต็มที่เช่นกันนำโดยหัวหอกตัวความหวังอย่างอัลบาโร เนเกรโด้


วันนี้มาดริดต้องลงเล่นเร็วกว่าปกติแถมยังล้ามาจากเกมกลางสัปดาห์ด้วยทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นดูไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ยังไม่ได้บุกใส่เซบีญ่าตามแบบปกติที่เล่นในบ้านเลย

ช่วงนาทีสิบ โรนัลโด้อาศัยความขยันวิ่งตามไปบล็อกลูกที่ส่งคืนหลังกลับไปให้กับบาราสแต่โชคดีบอลเด้งไม่ตรงกรอบ รอดโดนด่าไปสำหรับบาราสลูกนี้

นาทีที่ 14 เนเกรโด้ก็ล้มลงไปกองกับพื้นหลังโดนศอกของนาบาสเพื่อนร่วมทีมเข้าที่หน้าอก ก่อนหน้านี้ก็ไถลตัวไปชนป้ายโฆษณาจุกไปแล้วทีนึง เจ็บตัวตลอดจริงๆ 5 นาทีต่อมาทีมเยือนก็ได้ลุ้นเล็กๆเมื่อเรเยสเปิดฟรีคิกไปให้กับเฟซิโอได้โหม่งแต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไป

จังหวะต่อมาเจ้าถิ่นก็มาได้ประตูขึ้นนำจากหน้าเก่าอย่างคริสติอาโน่ โรนัลโด้เมื่อรับบอลมาจากเบนเซม่าในเขตโทษแล้วจัดการซัดด้วยขวาบอลเสียบมุมเข้าไป มาดริดขึ้นนำ 1-0 เป็นลูกที่ 43 ของปีกโปรตุกีสในลาลีกาฤดูกาลนี้แล้ว

นาทีที่ 25 เซบีญ่าก็เกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อเรเยสลากตัดเข้ามาทางด้านขวาก่อนจะซัดด้วยซ้ายข้างถนัดแต่กาซิญาสก็อ่านทางออกรับไว้ได้สบาย 2 นาทีต่อมาเรเยสคนเดิมก็จ่ายบอลทพลุช่องไปให้กับนาบาสแต่ดาวเตะตีนไวก็ยิงข้ามคานไปแบบน่าเสียดาย นาทีที่ 29 เนเกรโด้ก็ได้หลุดไปดวลเดี่ยวกับกาซิญาสแต่ก็ชิพบอลข้ามคานไปเสียอีก ใช้โอกาสเปลืองจริงๆสำหรับเซบีญ่า

โอกาสของมาดริดบ้างหลังเป็นฝ่ายทำเกมบุกใส่มาตลอด 10 นาทีที่ผ่านมานาทีที่ 36 เจ้าถิ่นก็ได้ลูกฟริคิก 2 จังหวะในเขตโทษจากจังหวะยกเท้าสูงของผู้เล่นทีมเยือนและก็เป็นอลอนโซ่ไหลมาให้โรนัลโด้กดเต็มข้อบอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย นาทีต่อมาโรนัลโด้คนเดิมก็โชว์สเต็ปเลี้ยงบอลตัดจากซ้ายเข้ามาด้านในก่อนจะซัดทันทีแต่บาราสก็ปัดออกไปได้

หลังจากนั้นมาดริดก็มีโอกาสอีกหลายครั้งแต่ก็ยิงนกตกปลาออกไปกันหมด จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นนำอยู่ 1-0

เริ่มครึ่งหลังมาไม่กี่นาทีเซบีญ่าก็มีโอกาสได้ประตูตีเสมอเมื่อเนเกรโด้ได้จังหวะรับบอลริมกรอบเขตโทษก่อนจะหาจังหวะยิงจนได้แต่กาซิญาสก็ยังเหนียวเซฟไว้ได้อีก ได้ยิงหลายทีแล้ววันนี้สำหรับเซบีญ่าแต่ก็ยังทำไม่ได้ซักที

ไม่คมกัเองก็โดนกันไปสำหรับเซบีญ่าเมื่อนาทีต่อมาเบนเซม่าก็มายิงลูกที่ 2 ให้กับมาดริดจากจังหวะที่โอซิลเปิดมาแล้วกองหลังทีมเยือนสกัดไม่ดีบอลมาเข้าทางหัวหอกเฟร้นช์แมนยิงเข้าไปง่ายๆ มาดริดนำ 2-0

นาทีที่ 52 จ่าฝูงลาลีกาก็ได้ประตูที่ 3 เมื่อโอซิลจ่ายบอลทะลุช่องไปให้กับรามอสที่เติมขึ้นมาได้เปิดบอลไปที่เสาสองและก็เป็นเบนเซม่าที่ยืนรออยู่โล่งโขกเข้าไปไม่เหลือ ราชันนำห่าง 3-0 เล่นเอาแฟนบอลเจ้าถิ่นตะโกนร้องเพลงแชมป์กันใหญ่

ตอนนี้มีสถิติใหม่ด้วยคือมาดริดมีนักเตะถึง 3 คนได้แก่โรนัลโด้(43 ลูก), อิกวาอิน(21 ลูก)และเบนเซม่า(20 ลูก) ที่ยิงเกิน 20 ประตูในฤดูกาลเดียว

นาทีที่ 67 โรนัลโด้ก็โดนกาล่าที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้วสกัดล้มลงในเขตโทษแต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไรทำเอาผู้เล่นเจ้าถิ่นประท้วงกันใหญ่เลยทีเดียว เมื่อดูจากภาพช้าแล้วมาดริดก็น่าได้จุดโทษลูกนี้เหมือนกัน

สงสัยเพราะเหนื่อยมาจากเกมกลางสัปดาห์ทำให้ช่วงท้ายเกม ราชันดูจะไม่เร่งเครื่องมากนักและพอใจกับสกอร์นี้แล้วส่วนทีเยือนก็ดูจะถอดใจกันไปเรียบร้อย จบเกมเรอัล มาดริดซิวเซบีญ่าไป 3-0 เก็บ 3 แต้มได้ตามคาดทิ้งห่างบาร์เซโลน่าที่จะลงเตะในช่วงดึกไปเป็น 10 แต้มแล้วและหากบาร์ซ่าแพ้วันนี้พวกเขาก็จะได้แชมป์ลาลีกาอย่างเป็นทางการทันที

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
เรอัล มาดริด : อิเคร์ กาซิญาส, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, มาร์เซโล่, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เอสเตบัน กราเนโร่(เคห์ดิร่า น.61), ชาบี อลอนโซ่(อัลบิโอล น.76), คาริม เบนเซม่า, เมซุต โอซิล, คริสติอาโน่ โรนัลโด้, อัลเคล ดิ มาเรีย(กาเญฆ่อน น.61)


เซบีญ่า : ฆาบี บาราส, เดวิด(กัมปาญ่า น.72), กาล่า, เฟร์นานโด้ นาบาร์โร่, โคเก้ อันดูฆาร์, ปิโอเตร ทรอชอฟสกี้, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ้, อัลบาโร่ เนเกรโด้(เดียวาร่า น.64), อิวาน ราคิติช, โฆเซ่ อันโตนิโอ เรเยส(โรเมโร่ น.64), เฆซุส นาบาส

ไฮไลท์แมตช์ โนวาร่า VS ยูเวนตุส Series A - บี้แชมป์กันมันส์! ม้าลาย 4-0, มิลาน 4-1 12bet 30/40/2555



สถานการณ์ลุ้นสคูเด็ตโต้ยังคงเข้มข้นต่อไป เมื่อ"ม้าลาย"ยูเวนตุส ได้เมียร์โก้ วูซินิชยิงสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะโนวาร่าทีมรองบ๊วยไป 4-0 โดยยังนำเอซี มิลาน ที่บุกยำเซียน่า 4-1 ได้ในวันนี้เช่นกัน อยู่้ 3 คะแนนเช่นเดิม




วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555 


ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี่
โนวาร่า 0-4 ยูเวนตุส 


                       โนวาร่า 0-4 ยูเวนตุส


                      เซียน่า 1-4 เอซี มิลาน




ยูเวนตุสชนะมาแล้ว 7 เกมติดในลีกแถมยังได้ถึง 19 ประตูเสียด้วย แต่เจ้าบ้าน โนวาร่า 6 เกมหลังที่บ้านเขาเองก็ยังไม่แพ้ใครเช่นกัน แต่มางานหนักหน่อยที่ต้องมาเจอกับเจ้าม้าลายที่ต้องการทำแต้มหนีเอซี มิลานเพื่อคว้าสคูเด็ตโต้ในปีนี้ให้จงได้


เปิดฉากมายูเวนตุสก็เปิดเกมบุกเข้าใส่เลยแล้วได้โอกาสลุ้นตั้งแต่ 2 นาทีแรกเป็นจังหวะบอลแทงทะลุช่องของมาร์คิซิโอ้ให้กับบอร์ริเอลโล่วิ่งฉีกแนวรับออกมาก่อนจะได้กดด้วยซ้ายส่งบอลหลุดเสาไกลไปเพียงนิดเดียว

หลังจากนั้น"ม้าลาย"ก็บุกได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งนาทีที่ 16 พวกเขาก็ได้ประตูออกนำไปแล้วเป็นจังหวะได้ลูกฟรีคิกทางริมเส้นซ้ายรีบหน้าที่เปิดเข้าไปโดยปิร์โล่ แม้บอลจะต่ำไปหน่อยแต่วูชินิชยังถอยกลับมาแปแบบไม่ต้องจับ ส่งบอลลอยโค้งโด่งผ่านมือฟอนตาน่าไปก่อนจะเช็คคานเข้าประตูอย่างสวยงาม ยูเวนตุสออกนำไปแล้ว 1-0

โอกาสของทีมเยือนมาอีกแล้วเป็นบอลที่คืนไปให้ปิร์โล่ที่กลางสนามก่อนจะเล็งในเขตโทษแล้วเปิดเข้าไปทางซ้ายมีจักเครินี่คนเดิมวิ่งแซงกองหลังโนวาร่าได้ยิงมุมแคบแบบไม่จับแต่น่าเสียดายบอลหลุดเสาไกลออกหลัง


นาที 28 ยูเวนตุสยังคงมีโอกาสได้ลุ้นแบบต่อเนื่องคราวนี้เป็นคิวของปิร์โล่บ้างที่ได้บอลกลางสนามและไร้ตัวประกบก่อนจะเล็งแล้วซัดไกล 30 กว่าหลาทันที บอลติดไซร้ก้อยฮุคลงด้วยแต่ฟอนตาน่ายังพุ่งปัดออกหลังเอาไว้ได้

แล้วช่วงท้ายครึ่งแรก"เบียงโคเนรี่"ครองบอลเหนือกว่าโนวาร่าอย่างชัดเจนแล้วก็ได้ประตูทิ้งห่างเพิ่มออกไปอีกเป็นบอลเปิดยาวข้ามฝากมาทางซ้าย มาร์คิซิโอ้เล่นไม่ได้เลยโหม่งคืนมาให้กับจักเครินี่ก่อนจะเปิดเข้าไปตรงกลาง คราวนี้มีบอร์ริเอลโล่รออยู่ว่างๆไร้ตัวประกบได้โขกไม่มีเหลือ ยูเวนตุสทิ้งห่างเป็น 2-0 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

กลับมาเริ่มครึ่งหลังไปไม่นานทีมเยือนก็เกือบบวกลูกสามเพิ่มจนได้จากจังหวะที่วูซินิชไหลบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายให้กับวิดัลตบกลับมากลางประตูอย่างรวดเร็วให้บอร์ริเอลโล่ได้ชาร์จจ่อๆแต่ดันยิงไม่ดีบอลปลิ้นออกหลังซะงั้น

แต่ถักจากนั้นมาเพียงแค่ 2 นาที"ม้าลาย"ก็บวกประตูที่สามเพิ่มจนได้จากลิชท์เท่นสไตเนอร์ที่แทงบอลเข้าเขตโทษให้กับวูซินิชได้ยิงมุมแคบ ฟอนตาน่ายังออกมาเซฟเอาไว้ได้แต่บอลก็ยังมาเข้าทางของวิดัลวิ่งมาตามมายิงซ้ำเข้าไปง่ายๆ ยูเวนตุสบวกเพิ่มอีกเป็น 3-0

โอกาสของทางโนวาร่าก็พอมีบ้างเหมือนกันจากจังหวะได้ลูกฟรีคิกทางซ้ายก่อนจะเขี่ยนเปลี่ยนจุดแล้วเป็นมาสซารานี่วิ่งเข้ามากดเต็มเท้าแต่บุฟฟ่อนก็ยังเซฟได้อยู่

นาที 64 ยังไม่หยุดเพียงแค่นี้สำหรับ"ม้าลาย"มาได้ประตูเพิ่มอีกแล้วจากบอลวางออกมาทางซ้ายให้กับจักเครินี่หลุดเข้าเขตโทษก่อนจะล็อกหนีตัวที่ตามเข้ามาสกัด ก่อนจะยิงมุมแคบติดเซฟฟอนตาน่า แต่บอลยังมาเข้าทางวูซินิชวิ่งเข้ามาซ้ำไม่มีเหลือ ยูเวนตุสได้เพิ่มเป็น 4-0

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายยูเวนตุสยังมีลุ้นต่อเนื่องไปเรื่อยและคราวนี้ก็ได้ส่องอีกแล้วเป็นปิร์โล่ที่เปิดไซร้ก้อยขึ้นหน้ามาให้กับเอเลียใช้สปีดเบียดไปกับแนวรับโนวาร่าก่อนจะได้ยิงแต่ฟอนตาน่าออกมาปิดมุมทันเลยแฉลบออกหลัง
  
ช่วงทดเจ็บเกือบมีลูกที่ห้าของฝั่งทีมเยือนเกิดขึ้นแล้วจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะประมาณ 27 หลาและคนยิงก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นปิร์โล่วิ่งเข้ามาซัดบอลพุ่งผ่านกำแพงทำฟอนตาน่าชะงักไปแล้วแต่น่าเสียดายที่ชนเสาเต็มๆ

จบเกมยูเวนตุสก็บุกมาเอาชนะโนวาร่าได้อย่างไม่ยากเย็น 4-0 ยังไร้พ่ายต่อไปและพวกเขายังรักษาช่องว่างกับมิลานไว้ที่ 3 แต้มต่อไปโดยเหลือการแข่งอีก 3 เกมเท่านั้น

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 
โนวาร่า : อัลแบร์โต้ ฟอนทาน่า, อันเดรีย ลิซุซโซ่, มัสซิโม่ ปาชี่, ซานติอาโก้ การ์เซีย, เปาโล เดลลาฟิออเร่ (กาเบรียล น.45), ซิโมเน่ เปสเช่, มาร์โก้ ริโกนี่, จูเซปเป้ เจมิตี้, ฟิลิปโป้ ปอร์ชารี่, อันเดรีย คาราชโชโล่ (โมริโมโตะ น.51), อันเดรีย มาสซารานี่ (ราโนวาโนวิช น.67)

ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน, เลอันโดร โบนุชชี่, อันเดรีย บาร์ซาญี่, จอร์จิโอ้ คิเอลลินี่, สเตฟาน ลิคท์เท่นสไตเนอร์, อันเดรีย ปิร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ้ (เด เชเญ่ น.60), อาร์ตูโร่ วิดัล (ปาโดอิน น.56), เมียร์โก วูชินิช (เอเลีย น.65), มาร์โก้ บอร์ริเอลโล่, เอมมานูเอเล่ จักเครินี่

ผลฟุตบอลกัลโชา เซเรีย อา คืนวันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน 2555
โบโลญญ่า ชนะ เจนัว 3-2
อตาลันต้า ชนะ ฟิออเรนติน่า 2-0
อินเตอร์ มิลาน ชนะ เชเซน่า 2-1
เลชเช่ แพ้ ปาร์ม่า 1-2
โนวาร่า แพ้ ยูเวนตุส 0-4
เซียน่า แพ้ เอซี มิลาน 1-4 

ไฮไลท์แมตช์ บียาร์เรอัล VS โอซาซูน่า La Liga - เรือดำน้ำเปิดรังเจ๊าโอซา 1-1, ราซิ่งพ่าย 3-0เจ๊งไม่รอดตกชั้น 12bet 29/04/2555

วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555



"เรือดำน้ำสีเหลือง" บียาร์เรอัล ทำได้เพียงเปิดเอล มาดรีกัล เสมอกับ โอซาซูน่า 1-1 ในเกม ลาลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา ขณะที่ ราซิ่ง ซานตานเดร์ บุกพ่ายต่อ เรอัล โซเซียดัด 3-0 ต้องตกชั้นไปเล่นในลีกเซกุนด้า ในฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว




วันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555


ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
บียาร์เรอัล 1-1 โอซาซูน่า





บียาร์เรอัลเจ้าถิ่น ยังหายใจไม่ทั่วท้อง หลังสปอร์ติ้ง กิฆอนเก็บ 3 แต้มไปแล้วในคู่ก่อนหน้า เหลือแต้มห่างแค่ 3 คะแนน ทำให้เกมนี้ต้องเน้นเต็มสูบ แบ็กซ้ายมีปัญหาต้องใช้ ฆวาเม่ กอสต้า กองหลังดาวรุ่ง โดยเกมนี้ใช้ระบบหอกเดี่ยววาง มาร์โก รูเบน เป็นตัวเข้าทำ ขณะที่ทีมเยือนได้ ราอูล การ์เซีย พ้นโทษแบนกลับมาบัญชาการ หน้าเป้าเป็น นีโน่


เกมดำเนินไปไม่ถึงห้านาที มาร์ก เบรตราน ทุ่มไกลจากฝั่งขวา บอลข้ามกองหลังกระดอนเข้าเขตโทษ นีโน่ตามมาตวัดยิงตามน้ำ มาริโอ กาสปาร์ ยังไวบล็อกไว้ได้ทัน นาที 12 เจ้าถิ่นมีลุ้น เซนน่าเปิดลูกเตะมุมฝั่งขวามาหน้าประตู มูชัคซิโอสะบัดโขกที่เสาแรกเต็มหัว บอลเฉียดคานออกหลังนิดเดียว


เหยียบเข้านาทีที่ 24 บาเลโร่แทงให้รูเบน ซัดดด้วยซ้ายยัดเสาสอง ไม่ผ่านมืออันเดรส อีก 5 นาที เบร์ตรานโยนให้บาลเด้โหม่งกลางประตู บอลโด่งเชิดคานอย่างน่าเสียดาย


เจ้าถิ่นน่าได้สุดๆ นาที 32 จากการเบิลบอลที่สวยงาม กอสต้าปาดจากซ้ายมากลางประตู รูเบนโฉบเข้าจิ้มด้วยขวา บอลชนเสาแรกอย่างจังกระดอนออกมา จากนั้นอีกนาที ทีมเยือนเกือบได้เช่นกัน ลามาห์ไหลจากขวาเข้ากลางให้เนกูนาม วิ่งมาปั่นด้วยขวา 25 หลา บอลพุ่งชนเสาสองอย่างจัง


ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว บียาร์เรอัลขึ้นนำจนได้ บาเลโรได้บอลป้วนเปี้ยนในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนไหลคืนหลังให้เซนน่าวิ่งมากดเต็มๆ อันเดรสพุ่งปัดได้ บอลกระฉอกออกมาหน้าประตู บรูโน่ โซเรียโน่ ปรี่เข้าซ้ำด้วยซ้ายเน้นๆ ตุงตาข่าย 1-0 ในนาที 44 ก่อนผู้ตัดสินจะเป่าจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้


ครึ่งหลัง เกมเป็นของเจ้าถิ่นชัดเจน นาที 47 บรูโน่จ่ายให้ เอร์นาน เปเรซ กดด้วยขวาหน้าเขตโทษ อันเดรสยังป้องกันได้ อีก 3 นาที บาเลโร่เบียดมากับปูนญาล แล้วพลิกเข้าเขตโทษ ดวลเดี่ยวกับอันเดรส แต่ยิงเรียดติดตัวนายทวารทีมเยือน


ยิ่งเล่นบียาร์เรอัลยิ่งแรง นาที 55 บาเลโร่หลุดมากราบซ้าย ก่อนหักเข้าใน แล้วปั่นด้วยขวา อันเดรสบินปัดออกหลังจวนเจียน อีกนาที บาเลโร่จ่ายให้รูเบนกดด้วยขวาติดโลโล่ออกหลัง


โอซาซูน่ามีหือ นาที 62 ลามาห์โยนให้ราอูล การ์เซีย กระหน่ำด้วยขวา บอลเฉี่ยวเสานิดเดียว อีก 3 นาที เอร์นาน เปเรซ คืนหลังให้เซนน่าซิ่งมาซัดด้วยขวา บอลเลี้ยวหลุดเสาสองหวุดหวิด


กระทั่งนาที 72 โอซาซูน่าตามตีเสมอ 1-1 อย่างไม่น่าเชื่อ เลคิชเคาะจากซ้ายเข้าในให้ ราอูล การ์เซีย กระดกบอลขึ้นมา ก่อนซัดเสียบเสาไกลอย่างสุดงาม จบเกม บียาร์เรอัล ได้แค่เสมอ โอซาซูน่า 1-1 ยังต้องหนีตกชั้นอย่างหนัก


ขณะที่ ราซิง ซานตาเดร์ ตกชั้นลงไปเล่นลีกระดับเซกุนดา เบ เป็นที่เรียบร้อย หลังบุกแพ้ต่อ รีล โซเซียดัด 0-3 ในศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน เมื่อคืนเสาร์ที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา รั้งอันดับสุดท้ายของตาราง
       
โดย อองตวน กรีซมันน์ ปีกชาวฝรั่งเศส ยิงคนเดียว 2 ประตูบวกกับอีกลูกจาก อิมาโนล อกีร์เรทเซ ทำให้ โซเซียดัด เก็บชัยชนะ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 13 ของตาราง ส่วน ราซิง จมบ๊วยมีแต้มห่างจาก บีญาร์รีล ทีมอันดับ 17 อยู่ 12 คะแนน โดยเหลือเกมอีกเพียง 3 นัด ทำให้ตกชั้นแน่นอน






รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บียาร์เรอัล : ดีเอโก้ โลเปซ - มาริโอ กาสปาร์, คริสเตียน ซาปาต้า, มาเตโอ มูชัคซิโอ, ฆวาเม่ กอสต้า - มาร์กอส เซนน่า, บรูโน่ โซเรียโน่ - เอร์นาน เปเรซ, บอร์ฆ่า บาเลโร่, รูเบน กานี่ - มาร์โก รูเบน


โอซาซูน่า : อันเดรส เฟร์นานเดซ - มาร์ก เบร์ตราน, โรแวร์ซิโอ, โลโล่, ดาเมีย - ฟรานซิสโก้ ปูนยาล, จาวัด เนกูนาม - อิบราฮิม บาลเด้, ราอูล การ์เซีย, โรลันด์ ลามาห์ - นีโน่


ผลฟุตบอล ลา ลีกา สเปนคืนวันเสาร์ที่ 28 เมษายน 2555
เกตาเฟ่ แพ้ เรอัล มายอร์ก้า  1 - 3
เลบานเต้ ชนะ กรานาด้า  3 - 1
เอสปันญ่อล แพ้ สปอร์ติ้ง กิฆอน  0 - 3
เรอัล โซเซียดาด ชนะ ราซิ่ง ซานตานเดร์   3 - 0
บียาร์เรอัล เสมอ โอซาซูน่า  1 - 1

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สุดยอดแมตช์ตลอดกาล