Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ค้นหาบล็อกนี้

คลังไฮไลท์แมตช์

กินกันไม่ลง!สิงห์บุกไล่ยิงเจ๊าไก่มันส์หยด1-1 #12bet

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554




สมราคา ลอนดอนดาร์บี้แมตซ์ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยกพลออกเยือนและเป็นฝ่ายไล่ยิงตีเสมอ "ไก่เดือยทอง" ทอตแน่ม ฮอทสเปอร์ เจ้าถิ่นจบที่ผลสกอร์ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้มทำให้สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ไก่เดือยทอง ยังอยู่ที่ 3 และ สิงห์บลูส์ อยู่ที่ 4 เหมือนเดิม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา




ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2554
สเปอร์ส 1     -     1 เชลซี




สนาม : ไวท์ ฮาร์ท เลน




        เกมลอนดอนดาร์บี้แม็ตซ์ ระหว่าง สเปอร์ ที่ได้ เลดลี่ย์ คิง หายเจ็บกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง แต่ขาด อารอน เลนน่อน และ เจอร์เมน เดโฟ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ยังมี แกเร็ธ เบล, ลูก้า โมดริช, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ ราฟาเอง ฟาน เดอร์ ฟาร์ท นำทีม




        ฟากทีมเยือนมีการปรับทีมเล็กน้อยเมื่อกองหลังใช้ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช คู่ จอห์น เทอร์รี่ พร้อมส่ง จอห์น โอบี มิเกล ลงเล่นในแดนกลางพร้อมยังดร็อบแฟร้งค์ แลมพาร์ด ไม่ข้างสนาม ส่วนสามประสานแดนหน้ายังยึด ฆวน มาต้า, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ ดิดิเย่ร์ ดร็อบบา ลงล่าตาข่ายเช่นเดิม 




        เริ่มต้นขึ้นมาก็เป็นเจ้าบ้านที่ครองบอลได้มากกว่าและก็มาได้ประตูก่อนในนาทีที่ 8 เมื่อโดนสเปอร์ส สวนกลับเร็ว หลัง สเตอร์ริดจ์ เสียบอลให้ซานโดร แล้วจ่ายให้ แกเร็ธ เบล พาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเข้ามาหน้าประตูให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ชาร์จเข้าไป สเปอร์ส ขึ้นนำ 1-0




        หลังจากโดนนำ 3 นาทีถัดมาเชลซี เกือบตีเสมอทันควัน เมื่อ ฆวน มาต้า ได้ยิงไกลจากหน้าเขตโทษ แบรด ฟรีเดล ปัดออกมาเข้าทาง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ปาดเข้าซ้ำทว่าบอลโด่งข้ามคานไปนิดเดียว




        หลังจากนั้นเกมค่อนข้างสูสีส่วนใหญ่สู้กันกลางสนามก่อนที่เชลซี จะตีเสมอสำเร็จเป็น 1-1 ในนาที่ 23 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ชิ่งเร็วให้ แอชลี่ย์ โคล หลุดขึ้นไปทางซ้ายแล้วปาดเข้ามาหน้าประตูให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ แปด้วยซ้ายง่ายๆเข้าไป สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้ง




        นาทีที่ 29 เชลซี น่าได้ประตูแซงนำจากลูกโยนจาฝั่งขวาของ โบซิงวา บอลเลยไปที่เสาสองให้ดร็อกบา พักอกเอาบอลลงแล้วกดด้วยซ้ายแต่บอลพุ่งชนเสาอย่างน่าเสียดาย




        หลังจากนั้นเกมค่อนข้างสูสีผลัดกันเปิดเกมบุกใส่กันอย่างต่อเนื่องแต่หาโอกาสยิงเน้นๆไม่ได้กระทั่งช่วงทดเจ็บ สเปอร์ ได้ลุ้นอีกครั้ง เอก็อตโต้ จ่ายเข้ากลางให้ อเดบายอร์ พลิกยิงด้วยซ้ายแต่บอลไม่แรงเท่าไร ปีเตอร์ เชฟ ล้มตัวเซฟได้ไม่ยาก ก่อนที่ครึ่งจะจบไปด้วยสกอร์เดิม 1-1




     ครึ่งหลัง สเปอร์ส เปลี่ยนตัวคนแรกบ้างส่ง โรมัน พาฟลิวเชนโก้ ลงแทน ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ที่เล่นไม่ออกในครึ่งแรก 






     นาทีที่ 54 เป็นโอกาสทองของ เชลซี ที่จะพลิกขึ้นนำบ้าง เมื่อ รามิเรส รับบอลทะลุหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ ฟรีเดล แล้ว แต่ยิงไปติดบล็อคนายทวารอเมริกัน และจากเตะมุม มาต้า เปิดเข้าหัว เทอร์รี่ แต่โหม่งเบาไปตรง ฟรีเดล 






     4 นาทีต่อมา โอกาสพลิกเป็น ไก่เดือยทอง ที่น่าได้จากฟรีคิกระยะไกล โมดริช ตัดเข้ากลางให้ วิลเลียม กัลลาส โหม่งเช็ดต่อถึง อเดบายอร์ ใช้ไหล่กระแทกบอลเข้าไป แต่มีธงล้ำหน้าขึ้นมา ทั้งที่ยืนตำแหน่งไม่ล้ำหน้า 






     ทีมเยือนมาได้ฟรีคิกฝั่งซ้ายในยนาทีที่ 66 ราอูล เมยเรเลส เปิดไปให้ เทอร์รี่ โหม่งเสยไปที่เสาสอง แต่ไม่มีเพื่อนเข้าถึง 






     นาทีที่ 68 สเปอร์ส หวุดหวิดยิงขึ้นนำอีกหน เริ่มจาก โมดริช ยิงฉีดยาเร็วในเขตโทษแฉลบ เทอร์รี่ ออกหลัง และจากเตะมุม โมดริช เปิดไปให้ ซานโดร โฉบเข้ามาโหม่งเต็มๆ แล้ว แต่บอลหลุดเสาสองออกไป 






     เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นไพ่ใบสุดท้ายของ เชลซี ลงมาแทน ดร็อกบา ในนาทีที่ 77 






     เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมยังเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างหนักและเป็นเชลซีมีลุ้นอีกครั้งนาทีที่ 82 สเตอร์ริดจ์ ได้ซัดไกลบอลพุ่งเข้ากรอบแต่ แบรด ฟรีเดล นายด่านเจ้าถิ่นรับเข้าซองอย่างสบาย 






     นาทีที่ 84 สาวกไก่เกือบได้เฮลั่นสนามเมื่อ เบล เติมเกมมาซัดด้วยเท้าซ้ายข้างถนัดหน้ากรอบเขตโทษทีมเยือนแบบเดี่ยวๆ แต่บอลลอยโด่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย 






     นาทีที่ 85 สเปร์ส เกือบได้ประตูขึ้นนำถึงสองจังหวะด้วยกันเริ่มจาก  ซานโดร ได้ซัดไปแฉลบแผงหลังทีมเยือนบอลกลายเป็นดีกำลังย้อยเข้าแต่เป็น เช็ก ที่พุ่งปัดได้อย่างเหลือเชื่อ และจังหวะที่สองในนาทีเดียวกันจากลูกแตะมุม กัลลาส ได้โอกาสล้มตัวซัดแต่บอลหลุดออกกรอบไปอีกครั้ง 






     นาทีที่ 87 โอกาสทองของทัพสิงห์มาถึงเมื่อ รามิเรส ฉีกตัวประกบของแผงหลังเจ้าถิ่นและได้โหม่งโล่งๆ บอลลอยหลุดเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย 






     นาทีที่ 89 เชลซียังโหมบุกอย่างหนักและเกือบมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ ตอร์เรส ได้บอลริมเส้นก่อนส่งให้ รามิเรส ไหลบอลอีกจังหวะให้ โรเมอู ที่วิ่งเข้ามาซัดด้วยเท้าขวาเต็มข้อบอลพุ่งผ่านมือ ฟรีเดล หลุดออกเสาไกลไปอีกครั้ง 






     นาทีที่ 91 ไก่เดือยทองโหมบุกขึ้นมาบ้างและน่าจะได้ประตูจากจังหวะที่ เบล กระชากหลบแผงหลังเชลซีก่อนไหลบอลให้ อเดบายอร์ หลุดเข้ามาแปโล่งๆ ในกรอบทีมเยือนบอลผ่านมือ เช็ก และทำท่าว่าจะเข้าแต่เป็น เทอร์รี่ ที่ล้มตัวขวางบอลจากเส้นประตูไปได้จบเกม สเปอร์ส เสมอ เชลซี 1-1 ทำให้สถานการณ์ยังไม่เปลี่ยนแปลง ไก่เดือยทอง ยังอยู่ที่ 3 และ สิงห์บลูส์ อยู่ที่ 4 เหมือนเดิม 






รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม




     สเปอร์ส : แบรด ฟรีเดล, ไคล์ วอลเกอร์, วิลเลี่ยม กัลลาส, เลดลี่ย์ คิง, เบนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, ลูก้า โมดริช, สกอตต์ พาร์คเกอร์, ซานโดร, แกเร็ธ เบล, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์


     สำรอง : เอลเรลโญ่ โกเมส, ยูเนส กาบูล, โรมัน พาฟลิวเชนโก้, เซบาสเตียน บาสซง, นิโก้ ครานจชาร์, แดนนี่ โรส, เจค ลิเวอร์มอร์ 






     เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โช่เซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ราอูล เมยเรยเลส, แดเนี่บล สเตอร์ริดจ์, ฆวน มาต้า, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา


     สำรอง : รอสส์ เทิร์นบูลล์, โอเรโอล โรเมอู, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, เปาโล เฟรเรยร่า, ซาโลมง กาลู 






     ผู้ตัดสิน : โฮเวิร์ด เว็บบ์




เบนายูนโขกชัย!ปืนบุกเฉือนสิงห์ผงาดหืดจับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554

 ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 
วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2554 
แอสตัน วิลล่า 1 - 2 อาร์เซน่อล 
         ยอสซี่ เบนายูน รับบทซูเปอร์ซับหลังถูกเปลี่ยนลงสนามและทำประตูช่วยให้ อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายบุกไปคว้าชัยเหนือ แอสตัน วิลล่า 2-1 เก็บเพิ่ม 3 แต้ม ยังรั้งอันดับห้าเหมือนเดิม ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษเมื่อวันพุธที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
 สนาม : วิลล่า พาร์ค

         สิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านเจอศึกหนัก เมื่อต้องมาพบกับ ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ที่เพิ่งแพ้มาในแมทต์ที่แล้ว โดยส่ง กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ลงเล่นในแดนหน้า และมี สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ ยืนเป็นยืนข้างหลังคอยเดินเกม ทางฝั่งทีมเยือน จัดชุดที่พร้อมที่สุดลงสนาม ข้างหน้ายังเป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ พร้อมกับ แชร์วินโญ่ และ ธีโอ วัลค็อตต์ ลงป่วนทางริมเส้น

         เปิดฉากมาเป็นเจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ได้โขกลูกครอสจากริมเส้นเต็มหัวในกรอบเขตโทษ ทว่า เชสนี่ ทุบทิ้งออกไปได้

         น.17เป็นทางฝั่ง ปืนโต ที่ขึ้นนำก่อน เมื่อมาได้ลูกที่จุดโทษ จากจังหวะที่ เคียแรน คล้าก ไปทำฟาวล์ ธีโอ วัลค็อตต์ ในเขตโทษ เป็น โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รับอาสาซัดด้วยซ้ายเต็มข้อไม่พลาด  ทีมเยือน ออกนำ 1-0

         น.32 เกมยังเป็นของทีมเยือน และมาได้ลุ้นประตูอีกครั้ง ฟาน เพอร์ซี่ จิ้มบอลทะลุช่องให้ แรมซี่ย์ หลุดเดี่ยวไปยิง ทว่าดาวเตะทีมชาติเวลส์ซัดข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

         น.45 แอสตัน วิลล่า มาได้ลูกฟรีคิกระยะหวังผล แบรี่ แบนแนน ตัวสำรอง รับหน้าที่ปั่นโค้งด้วยซ้ายข้ามกำแพง ทว่าบอลกลับลอยเช็ดตาข่ายด้านบนออกไป ทำให้ จบครึ่งแรก เป็นทางด้านทีมเยือนที่นำอยู่ 1-0

         น.54 เริ่มครึ่งหลังมา เจ้าบ้านมาได้ประตูตีเสมอ มาร์ค อัลไบรท์ตัน เก็บตกจากจังหวะที่ กองหลัง อาร์เซน่อล เล่นกันพลาด หลุดเข้าแปไปสวน เชสนี่ ตุงตาข่าย ทำให้ ทั้งคู่เสมอกัน 1-1

         น.82 ทีมเยือนเปิดเกมบุกอย่างหนัก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ มีจังหวะกดด้วยซ้ายนอกกรอบ แต่ทว่าบอลเหินข้ามไปไกล

         น.86 ไอ้ปืนใหญ่ มาได้ประตูที่ต้องการ เมื่อ ฟาน เพอร์ซี่ เปิดลูกเตะมุมเข้าไปตรงกลาง ยอสซี่ เบนายูน ตัวสำรอง วิ่งเข้ามาโหม่งเป็นประตูให้ทีมขึ้นนำอีกครั้ง 2-1

         นาทีที่ 90 อลัน ฮัตตัน ไปทำฟาวล์ โทมัส แฟร์มาเล่น และมีปากเสียงกัน ผู้ตัดสิน จอน มอสส์ ชูใบเหลืองให้เจ้าตัวเป็นการเตือน

         เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ อลัน ฮัตตัน ไปเสียบหนักใส่ โทมัส แฟร์มาเล่น ล้มลงอีกครั้ง ผู้ตัดสินไม่รอช้าชูใบเหลืองที่สองไล่ ฮัตตัน ออกจากสนาม

         จบเกม อาร์เซน่อล บุกเฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า ถึงบ้าน 2-1 เก็บสามแต้มไปได้แบบหืดจับ

         รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
         แอสตัน วิลล่า: แบ รด กูซาน, อลัน ฮัตตัน, ริชาร์ด ดัน, การ์ลอส กูเอย่า, สตีเฟ่น วอร์น็อค, เคียแรน คล้าก, สติลิยัน เปตรอฟ, มาร์ค อัลไบรท์ตัน, ชาร์ล เอ็นซ็อกเบีย, สตีเฟ่นไอร์แลนด์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 

         สำรอง: แอนดี้ มาร์แชลล์, อันเดรส ไวมันน์, แบรี่ แบนแนน, ฟาเบียน เดลฟ์, นาธาน เดลฟอนโซ่, เจมส์ คอลลินส์, เดอร์ริค วิลเลี่ยมส์ 

         อาร์เซน่อล:วอ จเซียด เชสนี่, ฟร็องซิส โกกูแล็ง, โทมัส แฟร์มาเล่น, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โลล็องต์ กอสซิเเอลนี่, มิเกล อาร์เตต้า, เอ็มมานูเอล ฟริมปง, แชร์วินโญ่, ธีโอ วัลค็อตต์, อารอน แรมซี่ย์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่  

         สำรอง: มานูเอล อัลมูเนีย, มารูยาน ชามัค, ยอสซี่ เบนายูน, อังเดร อาชาวิน, อเล็กซ์ อ็อกเล็ด แชมเบอร์เลน, เซบาสเตียน สกิลลาชี่, โทมัส โรซิคกี้


สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

อดัมพลาดโทษ!วีแกนเปิดบ้านเจ๊าหงส์0-0

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2554
วีแกน 0 - ลิเวอร์พูล 0
         "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ต้องเสียฟอร์มเมื่อทำได้แค่บุกเสมอ วีแกน ทีมท้ายตาราง 0-0 เกมนี้ อาลี อัล ฮับซี่ นายทวารเจ้าถิ่นโชว์ฟอร์มสุดเหนียวเซฟจุดโทษจากการยิงของ ชาร์ลี อดัม ไว้ได้ ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษเมื่อวันพุธที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา 
สนาม : ดีดับเบิ้ลยู สเตเดี้ยม

         วีแกน ที่กำลังดิ้นรนหนีโซนท้ายตารางใช้ โคเนอร์ แซมม่อน ลงล่าตาข่าย ด้าน ลิเวอร์พูล ส่ง เดิร์ค เค้าท์ ยืนหน้าต่ำอยู่หลัง หลุยส์ ซัวเรซ ที่เป็นหอกตัวเป้า

         น.8 เริ่มเกมมา หงส์แดงเป็นฝ่ายเดินเครื่องรุกได้วูบวาบกว่า และมาได้ลุ้นเมื่อ ดาวนิ่ง แปะจากทางขวาย้อนมาให้ เฮนเดอร์สัน ซัดด้วยขวาทันทีจากระยะ 18 หลา แต่ อัล ฮับซี่ ยังปัดทิ้งได้

         น.21 จากนั้น รูปเกมของเจ้าถิ่นก็ดีขึ้น แต่ก็เกือบโดนก่อนจากลูกสวนกลับ อดัม หลุดไปทางซ้ายก่อนปาดเข้ากลางให้ เค้าท์ ตวัดยิงโล่งๆ แต่ไปตรงตัว อัล ฮับซี่ ปัดไว้ได้

         น.26 เป็นโอกาสทองอีกครั้งของ ลิเวอร์พูล เมื่อ มักซี่ ชิ่งจังหวะเดียวให้ จอห์นสัน หลุดเดี่ยวไปซัดด้วยขวาในเขตโทษ แต่ก็ยังติด อัล ฮับซี่ อีกครั้ง

         น.37 เดอะ ลาติกส์ ดีขึ้นมาและเกือบนำด้วยจากจังหวะสวนกลับ วิคเตอร์ โมเซส ลากมาคนเดียวก่อนตะบันด้วยขวาระยะ 18 หลา แต่ เรน่า ก็ยังทุบทิ้งได้เยี่ยม หมดครึ่งแรกยังเจ๊ากันไร้สกอร์

         น.50 เข้าสู่ครึ่งหลัง หงส์แดงน่านำอย่างที่สุดเมื่อ หลุยส์ ซัวเรซ ได้ตีลังกายิงในเขตโทษ บอลไปโดนแขน แกรี่ คัลด์เวลล์ ผู้ตัดสินขี้เป็นจุดโทษทันที ทว่า ชาร์ลี อดัม ดันยิงไปติดเซฟของ อาลี อัล ฮับซี่ นายทวารเจ้าถิ่นอีก

         น.64 ลิเวอร์พูล พยายามตั้งเกมขึ้นมาอีกครั้ง ลูกนี้ โฆเซ่ เอ็นริเก้ ไปเก็บบอลทางซ้ายก่อนโยนเข้ากลางให้ สเคอร์เทล โหม่งข้ามคานไปไกล

         น.72 รูปเกมของทีมเยือนแย่ลงไปเลย แต่ก็ได้ลุ้นเล็กๆ จากจังหวะที่ ดาวนิ่ง เลื้อยอยู่ทางซ้ายก่อนไหลย้อนมาให้ จอห์นสัน ปาดต่อเข้ากลางและเป็น เฮนเดอร์สัน วิ่งเข้ามาตะบันหน้าเขตโทษหลุดเสาไกลออกไป

         น.90 ช่วงเวลาที่เหลือ หงส์แดงพยายามเร่งเกมหนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก จบเกมเสมอกันไป 0-0


สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

ผีโชว์ฟอร์มดุ!บุกถล่มเจ้าสัวไม่เลี้ยง5-0

ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ นัดที่ 17
วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2554
ฟูแล่ม 0 - 5 แมนฯ ยูไนเต็ด 

        "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้โชว์ฟอร์มโหดหลังบุกไปถล่ม "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม แบบไม่ไว้หน้า 5-0 เก็บสามแต้มกลับบ้านได้สำเร็จ รั้งรองจ่าฝูงต่อไป ในศึกพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ 21 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา

สนาม : คราเวน ค็อทเทจ

        ฟูแล่มไม่มีการปรับทัพจากนัดก่อนที่ดวลกับโบลตันโดยบ๊อบบี้ ซาโมร่าศูนย์หน้าซึ่งหายเจ็บเข่ามีชื่อเป็นตัวสำรอง

        ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ดถอดริโอ เฟอร์ดินานด์ที่ไม่สมบูรณ์ออกไปพักให้ฟิล โจนส์ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟโดยมีไรอัน กิ๊กส์ลงคุมเกมในแดนกลาง ขณะที่อันเดอร์ส ลินเดการ์ดได้เฝ้าเสาก่อนหน้าดาบิด เด เคอาเป็นการปรับทีมสองจุดจากเกมบุกไปคว่ำควีนส์พาร์ค 2-0

        เริ่ม เขี่ยบอลได้แค่สองนาที เกมก็ต้องชะงักไปพักใหญ่เมื่อคลินท์ เดมป์ซีย์กระโดดดวลลูกโด่งกับโจนส์แล้วยกศอกไปกระแทกโดนแก้มขวาจนคู่ปรับล้ม ฟุบอยู่นาน แต่สุดท้ายดาวเตะผีแดงก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้หลังแพทย์วิ่งลงไปเยียวยา

        กระนั้น ถึงนาทีที่ 5 นานี่ก็ควบบอลขึ้นกราบซ้ายแล้วจ่ายจากเส้นหลังมาเสาแรกให้แดนนี่ เวลเบ็คสับไกง่ายๆจากหกหลาตุงตาข่ายโดยไม่มีใครคุม จึงเป็นอันว่าแมนฯ ยูไนเต็ดออกนำ 1-0

        หลังเสียท่า เจ้าสัวก็เก็บครองบอลทำเกมรุกได้ดีขึ้น แต่ยังไม่มีความเด็ดขาด จวบจนนาทีที่ 20 โจนส์ที่เริ่มมีอาการโหนกแก้มปูดบวมก็เล่นต่อไม่ไหว ต้องเดินออกไปให้แอชลีย์ ยังลงบู๊โดยอันโตนิโอ วาเลนเซียถอยไปเล่นเป็นแบ็คขวา ขณะที่คริส สมอลลิ่งขยับไปเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ

        จากนั้นในนาทีที่ 28 ผีแดงก็ได้ลูกเตะมุมด้านขวาแล้วกิ๊กส์เล่นสั้นก่อนรับบอลคืนจากวาเลนเซียโยน เข้าเขตโทษเสาแรกให้นานี่โขกสะบัดจากแปดหลาตุงตาข่ายพาอสูรร้ายนำเป็น 2-0

        ยิ่ง เล่นฟูแล่มก็ยิ่งแสดงความอ่อนปวกเปียกออกมาให้เห็น และถึงนาทีที่ 43 ก็เละเป็นโจ๊กเมื่อแนวรับปล่อยให้นานี่ลากบอลเข้าเขตโทษด้านขวาไปจ่ายเข้า กลางโดยมีกิ๊กส์ง้างยิงจาก 14 หลากระทบเซ็นเดรอสทำให้บอลปลิ้นโด่งข้ามจังหวะกระโดดปัดของเดวิด สต็อคเดลเข้าประตู จบครึ่งแรกทีมเยือนจึงบุกมานำแบบหายห่วง 3-0

        ครึ่งหลังดำเนินมาถึงนาทีที่ 54 เกมก็ชะงักอีกหนเมื่อยังโดนดิ๊กสัน เอตูฮูรวบจนล้มเจ็บ แต่สุดท้ายก็ลุกขึ้นมาเล่นต่อได้

        ถัดมาอีกสามนาที เจ้าบ้านได้ลูกเตะมุมด้านขวาแล้วเดมป์ซีย์ได้โขกที่เสาไกล แต่ลินเดการ์ดล้มตัวตะปบบได้ก่อนบอลข้ามเส้นประตู

        อย่างไรก็ดี นาทีที่ 58 ยังก็ทนเจ็บไม่ไหวต้องเดินออกจากสนามโดยมีพาร์ค ชี ซองได้เสียบแทนเป็นตัวสำรองคนที่สองของผีแดง

        ผ่าน มาถึงนาทีที่ 63 คริส แบร์ดก็โดนจดชื่อข้อหาสะกิดใส่เอ็นร้อยหวายเวลเบ็คจากด้านหลัง กระทั่งนาทีที่ 75 เจ้าสัวก็ส่งสตีเฟ่น เคลลี่ลงไปแทนแบร์ด ขณะที่ทีมเยือนใช้งานดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟแทนเวลเบ็คในนาทีที่ 77
        นาทีที่ 88 เป็นแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูหนีห่างเป็น 4-0 จาก เวย์น รูนีย์ ได้ซัดระยะไกล ลูกไซด์เข้าประตูไปอย่างสวยงาม
 แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูปิดท้าย จากจังหวะที่นานี่ แทงบอลเข้าในกรอบเขตโทษมาถึง วาเลนเซีย จิ้มบอลต่อมาให้ เบอร์บาตอฟ ไขว่ยิงเข้าไป นำห่าง 5-0

        ช่วงที่เหลือ เจ้าบ้านพยายามเดินหน้า แต่แมนฯ ยูไนเต็ดอาศัยความเก๋าคุมสถานการณ์ได้อย่างไม่ลำบาก หมดเวลา แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาถล่ม ฟูแล่ม ถึงถิ่น 5-0 ยังรั้งรองจ่าฝูงต่อไป


สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สุดยอดแมตช์ตลอดกาล