Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ค้นหาบล็อกนี้

คลังไฮไลท์แมตช์

ไฮไลท์คลิป นักวิ่งอับโชคหัวทิ่มบ่อแถมโดนเหยียบซ้ำ 12bet 31/03/2555

วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555



มีใครที่จะซวยซ้ำซ้อนโชคร้ายได้ขนาดนี้อีกขณะที่กำลังเล่นกีฬาอยู่ เป็นภาพการแข่งขันกรีฑาประเภทวิ่งระยะไกลในสถาบันเทคโนโลยี โรส-ฮัลแมน สหรัฐอเมริกา 






โดยนักกรีฑาชายเสื้อขาวกำลังจะข้ามรั้วแต่เสียหลักล้มลงไปในบ่อน้ำและด้วยความเหนื่อยล้าจากการวิ่งระยะไกลทำให้เขาต้องลุกช้าเป็นเหตุให้นักวิ่งคู่แข่งชายชุดดำวิ่งกระโดดมาทับร่างเขาซ้ำอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นวิ่งจากไปโดยไม่หันมาขอโทษขอโพยแต่อย่างใด ส่วนชายชุดขาวก็ล้มกลิ้งสิ้นสภาพแสดงถึงความเหนื่อยล้าอยู่กลางบ่อน้ำต่อไป

ไฮไลท์คลิป อิเกร์ซกมกแคะขี้มูกป้ายแก้มเด็ก 12bet 31/03/2555



อิเกร์ กาซิยาส กัปตันทีมและนายประตูของ รีล มาดริด ถูกตากล้องจับภาพได้ขณะที่เขากำลังยืนรอตรงอุโมงค์ก่อนลงสนามคิกออฟเกมยูฟา แชมเปียน ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ที่สนามเหย้า อาโปเอล นิโคเซีย 






ไฮไลท์อยู่ตรงที่นายด่านกับตันทีมราชันชุดขาวดูเหมือนจะมีปัญหารำคาญตรงบริเวณรูจมูกจึงใช้มือขวาข้างถนัดทำการแคะแกะบริเวณรูจมูกอยู่พักหนึ่งก่อนที่เขาจะละมือลงมาและเอามือที่แคะจมูกนี้ไปลูบแก้มมาสคอตนิโคเซียตัวน้อยแทน แต่ดูเหมือนมาสคอตนิโคเซียคงไม่ปลื้มเท่าไหร่สำหรับชอตที่โดนกระทำแบบนี้

ไฮไลท์คลิป ไนกี้เปิดตัวสตี๊ดใหม่ จับโด้ท้าดวลนาดาลบนคอร์ตเทนนิส 12bet 31/03/2555



คริสเตียโน่ โรนัลโด ดาวยิง"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริด โชว์ทักษะขั้นเทพโปรโมทสตั้ดใหม่ของไนกี้ ด้วยการดวลเทนนิสกับ ราฟาเอล นาดาล หวดชายมือสองของโลก






สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ไม่มีใครยอมใคร คริสเตียนโน โรนัลโด ดาวยิง"ราชันชุดขาว"เรอัล มาดริด โชว์ทักษะขั้นเทพใส่สตั้ดลงคอร์ทเทนนิสดวลกับ ราฟาเอล นาดาล แร็กเก็ตชื่อดังมือวางอันดับ 2 ของโลก


"ไนกี้" เจ้าของผลิตภัณฑ์กีฬาชั้นนำระดับโลกปล่อยโฆษณารองเท้ารุ่นใหม่"เมอร์คิวเรียล เวเปอร์ 8" โดยจับเอา โรนัลโด ดาวยิงรูปหล่ออดีตเด็กผีมาดวลเทนนิสกับแร็กเก็ตหนุ่มสเปน โดยนักเทนนิสอดีตมือ 1 ของโลกจะใช้แร็กเก็ตหวดลูกสักลาดดวลกับโรนัลโด ที่จะใช้สตั้ดรุ่นใหม่แสดงทักษะสุดมหัศจรรย์ จนนักหวดหนุ่มต้องหยิบเอามาใส่บ้าง




หลังการถ่ายทำ โรนัลโด ได้กล่าวว่า"การถ่ายโฆษณากับ นาดาล เป็นอะไรที่ต่างออกไป ผมมากับฟุตบอล เขามากับเทนนิส มันเป็นเรื่องที่น่าสนุกและผมก็ชอบมาก"

ไฮไลท์แมตช์ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ VS สตุ๊ตการ์ท Bundesliga - ม้าขาวแสบยิงทดเจ็บ 4-4 แชร์แต้มเสือเหลืองระอุ 12bet 31/03/2555



"เสือเหลือง"โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ วืดคว้าชัยในรังไปอย่างเหลือเชื่อ หลังนำก่อนถึง 2 หนแต่ก็ต้องลงท้ายด้วยผลเสมอแบบสุดติ่ง 4-4 ในเกมบุนเดสลีกาเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลบุนเดสลีกา 
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 4-4 สตุ๊ตการ์ท 







ดอร์ทมุนด์กำลังคั่วแชมป์อยู่กับบาเยิร์นนัดนี้พวกเขามีโอกาสฉีกทิ้งไปเป็น 8 แต้มก่อนโดยฟอร์ในบ้านช่วงหลัง 5 พวกเขาชนะมารวดเลย ส่วนสตุ๊ทการ์ท 5 นัดหลงกับการเป็นทีมเยือนพวกเขาแพ้ไป 2 ชนะมา 2

เปิดฉากมาเดี๋ยวเดียวโอกาสแรกของเจ้าบ้านก็มาแล้วจากลูกเตะมุมทางขวาเปิดเข้าไปเจอสกัดมาเข้าทางพิสซ์เช็คเปิดซ้ำเข้าไปก็ยังเจอสกัด แต่คราวนี้มาเข้าทางคากาวะหน้าเขตโทษยิงสวนไปเลยบอลหลุดเสาขวามือนิดเดียว

5 นาทีแรก"เสือเหลือง"บุกได้อย่างต่อเนื่องแล้วมาได้โอกาสจบอีกแล้วจากกุนโดกานที่ครองบอลอยู่หน้าเขตโทษก่อนจะเปิดเข้าไปข้างในหวังให้เลวานดอฟสกี้แต่โบก้าสกัดได้ ไม่พ้นมาเข้าทางคากาวะพักอกเอาบอลลงในเขตโทษก่อนจะได้ยิงแต่ก็ยังติดเซฟอุลไรช์

เจ้าบ้านเป็นฝ่ายได้ครองบอลมากกว่าแต่ทาง"ม้าขาว"เองก็เกือบได้ประตูขึ้นนำเหมือนกันจากจังหวะที่ฮายนาลได้บอลทางซ้ายก่อนจะลากไปเกือบสุดเส้นหลังแล้วเปิดเข้ามา บอลลอยโด่งยาวมาถึงเสาไกลให้กับชีเบอร์เข้ามายิงแบบไม่ต้องจับแต่ดันโด่งเกินไป

นาที 21เป็นอีกครั้งที่ดอร์ทมุนด์น่าจะได้ประตูขึ้นนำจากลูกแทงทะลุช่องโดยกุนโดกานที่จ่ายตั้งแต่แดนตัวเองให้กับเลวานดอฟสกี้วิ่งแข่งไปกับแนวรับ"ม้าขาว"ก่อนจะแตะหลบอุลไรช์ที่พุ่งออกมาตัดบอลแล้วยิงแต่ยังมีตัวไปยืนคุมหน้าประตูแล้วโหม่งทิ้งทัน

โอกาสยังมาไม่หยุดหย่อนสำหรับดอร์ทมุนด์เป็นอีกครั้งที่สมควรได้ประตูอย่างยิ่งจากกุนโดกานที่พาบอลขึ้นมาเองแตะหลบไปได้คนก่อนจะเลือกเปิดเข้าไปตรงกลางบอลข้ามเลวานดอฟสกี้หลุดไปหาโกรสครอยซ์ตั้งเท้าแปเต็มๆแต่ก็ดันชนคานจังๆซะงั้น

แล้วนาที 33 หลัง"เสือเหลือง"บุกบดมานานในที่สุดก็ได้ประตูเสียทีจากกุนโดกานที่ทำชิ่งกันตรงกลางก่อนจะออกบอลไวมาทางซ้ายให้กับชเมลเซอร์ดันสูงขึ้นมาแล้วเปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้กับเคห์ลสอดขึ้นไปโหม่งตั้งให้คากาวะวิ่งมาหวดเต็มข้อเข้าตาข่ายไป ดอร์ทมุนด์นำไปแล้ว 1-0 หลังจากนั้นจังหวะไม่มีอะไรกันมากทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้


ครึ่งหลังกลับมาเริ่มเพยีงแค่ 4 นาที"เสือเหลือง"ก็ได้ประตูออกนำห่างเพิ่มขึ้นไปอีกจากฮุมเมิลส์ที่ไปแย่งบอลมาได้ก่อนจะเล็งแล้วเปิดยาวเข้าไปในเขตโทษให้กับ"คูบ้า"ที่อยู่ทางขวาไม่มีคนประกบเอาบอลลงก่อนจะยิงผ่านมืออุลไรช์เข้าไปไม่มีเหลือ ดอร์ทมุนด์นำห่างออกไปเป็น 2-0

รูปเกมแทบไม่เปลี่ยนไปเลยแล้วเจ้าบ้านมีโอกาสได้ส่องอีกครั้งแล้วจากบอลวางยาวขึ้นหน้าไปให้กับเลวานดอฟสกี้สปีดไปเอาบอลก่อนจะตัดสินใจยิงกึ่งวอลเลย์จากหน้าเขตโทษบอลพุ่งโค้งข้านคานออกหลังไปแค่นิดเดียว

นาที 63 ทาง"ม้าขาว"เองก็น่าได้ประตูไล่ตีตื่นขึ้นมาเช่นเดียวกันจากควิสท์ที่พาบอลขึ้นมาเองก่อนจะทำท่ายิงแล้วหลอกหลบฮุมเมิลส์มาก่อนจะสับไกของจริงบอลผ่านไวเดนเฟลเลอร์ไปแล้วแต่ชนเสาอย่างจังอดได้ไปอย่างน่าเสียดาย

แต่อีก 7 นาทีให้หลัง"ม้าขาว"ก็ได้ไล่ตามมาจนได้จากจังหวะที่...ครองบอลอยู่หน้าเขตโทษแล้วเลือกเปิดต่ำเข้าไปในเขตโทษก่อนจะเป็นนีเดอร์ไมเออร์แตะบอลเบาๆตั้งให้กับอิบิเซวิชวิ่งเข้ามากดแบบไม่ต้องจับเสียบเสาไกล สตุ๊ตการ์ทไล่มาแล้วเป็น 2-1

เจ้าบ้านงานเข้าซะแล้วหลังเกมเริ่มตันจนสุดท้ายก็มาโดนจนได้จากจังหวะที่บอลวางยาวขึ้นหน้ามาแล้วเป็นอิบิเซวิชเป็นคนโฉบโหม่งตั้งไปข้างหน้าให้ชีเบอร์ไปแตะหลบชเมลเซอร์มาได้ก่อนจะได้หลุดเข้าไปแตะหลบไวเดนเฟลเลอร์แล้วยิงเข้าไป สตุ๊ตการ์ทตามตีเสมอเป็น 2-2 สำเร็จ

แล้วอีกแค่ 2 นาทีถัีดมาเกิดเรื่องช็อคจนได้หลังเคห์ลไปเสียบอลกลางสนามเจอคุซมาโนวิชตัดไปได้ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษทางซ้ายให้กับชีเบอร์คนเดิมหลุดไปยิงผ่านไวเดนเฟลเลอร์เข้าไปอีกครั้งนึง สตุ๊ตการ์ทแซงกลับมานำเฉย 3-2

อย่างไรก็ตามเกมยังไม่จบเพราะถัดมาแค่เดี๋ยวเดียวเจ้าบ้านก็ได้เฮลั่นหลังเอาคืนได้อย่างรวดเร็วจากฮุมเมิลส์ที่ได้บอลหน้าเขตโทษทางซ้ายก่อนจะเลี้ยงย่องๆเข้ากลางมองหาช่องแล้วสับไกเลย บอลพุ่งเสียบเสาแรกแบบหมดจดจริงๆ ดอร์ทมุนด์ไล่มาเป็น 3-3 อย่างไว

ก่อนหมดเวลา 3 นาทีเจ้าบ้านก็ทำได้อีกครั้งนึงจากลูกเตะมุมทางขวาโดยชเมลเซอร์ที่เปิดเข้ามาตรงกลางเข้าเท้าของเปริซิชพอดีวิ่งเข้ามากดไม่ต้องจับส่งบอลพุ่งเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม ดอร์ทมุนด์ทำได้พลิกกลับมานำอีก 4-3


มันยังไม่หมดเพียงเท่านี้ทดเจ็บทำเอาเจ้าบ้านเงียบกริบหลังต้องเจอ"ม้าขาว"ยิงอีกแล้วเป็นลูกโยนยาวเข้าไปในเขตโทษชเมลเซอร์มาแย่งโหม่งกับฮุมเมิลส์กลายเป็นไม่ดีมาเข้าทางเกนท์เนอร์เอาบอลลงก่อนจะแตะเข้าซ้ายหนีตัวประกบแล้วยิงเข้าไปไม่เหลือ สตุ๊ตการ์ทไล่ตีเสมอสำเร็จ 4-4

สุดท้ายก็จบเกมไปแบบสุดมันส์โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์เสมอกับสตุ๊ตการ์ทไป 4-4 พวกเขาแข่งมากกว่าบาเยิร์น 1 นัดทิ้งห่าง 6 แต้ม ส่วนสตุ๊ตการ์ทขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 5

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 


โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, แมตส์ ฮุมเมิลส์, เนเว่น ซูโบติค, มาร์เซล ชเมลเซอร์, ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ค, เซบาสเตียน เคห์ล, อิลคาย กุนโดกาน (เบนเดอร์ น.66), เควิน โกรสครอยซ์ (เปริซิช น.79), ยาคุบ บลาซีคอฟสกี้, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ชินจิ คากาวะ (บาร์ริออส น.81)



สตุ๊ตการ์ท : สเวน อุลไรช์, จอร์จ นีเดอร์ไมเออร์, อาร์เธอร์ โบก้า (โมลินาโร่ น.61), โกโตกุ ซากาอิ, ซดราฟโก้ คุซมาโนวิช, วิลเลี่ยม ควิสท์, จูเลี่ยน ชีเบอร์, มาร์ติน ฮาร์นิค, เวดาด อิบิเซวิช, ทามาส ฮายนาล (เกนท์เนอร์ น.70)

ไฮไลท์คลิป แฟนพันธ์แท้ฟุตบอล! แผ่นดินไหวยังเตะกันต่อเฉ๊ยย 12bet 30/03/2555

วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555



คลิปวิดิโอเผยภาพนักเตะของทีมโคโลโคโล และ ปาเลสติโน ในศึกลูกหนังชิลี ยังเล่นบอลกันหน้าตาเฉย แม้เกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 7.1 ที่ประเทศตัวเอง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด






สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานวันที่ 29 มี.ค. ว่า เหล่านักเตะยังตั้งหน้าตั้งตาเล่นฟุตบอลกันอย่างหน้าตาเฉย แม้ว่าจะเกิดเหตุแผ่นดินไหว ความรุนแรงขนาด 7.1 ระหว่างศึกลูกหนังอาชีพดิวิชั่น 1 ของประเทศชิลี ระหว่าง ทีมโคโลโคโล กับ ปาเลสติโน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ตาม


แทนที่จะหยุดเล่นและปักหลักอยู่เฉยๆ เหมือนกับแฟนบอลและสื่อมวลชนเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่บรรดาพ่อค้าแข้งทั้งหลาย ยังคงวิ่งไปวิ่งมาทั่วทั้งสนาม ขณะที่แผ่นดินกำลังสั่นไหวต่อเนื่องกันหลายนาที ซึ่งกล้องโทรทัศน์สามารถบันทึกเหตุการณ์ช่วงวินาทีดังกล่าวไว้ได้


แม้เหตุแผ่นดินไหวล่าสุด อาจไม่รุนแรงเท่ากับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เคยเกิดขึ้นที่ชิลี เมื่อปี 2010 ซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 8.8 และคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 500 ราย แต่มันก็ถูกจัดให้อยู่ในระดับรุนแรงมาก อย่างไรก็ดี มันอาจไม่รุนแรงพอที่จะหยุดความกระหายในเกมฟุตบอลของผู้เล่นไปได้


สำหรับผลการแข่งขันในคู่นี้ ปรากฏว่า โคโลโคโล เป็นฝ่ายแพ้คาบ้านต่อทีมเยือน ปาเลสติโน 0-1 และทำให้โคโลโคโล ทำสถิติปราชัย 3 นัดรวด และเป็นการแพ้ติดต่อกันยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย

ไฮไลท์คลิป นาทีระเบิดแอมเวย์ อารีน่า ตูมเดียวหาย! 12bet 30/03/2555



คลิประเบิดสนาม "แอมเวย์ อารีนา" อดีตรังเหย้าหลังเก่าของทีมบาสเกตบอล ออร์แลนโด เมจิก ชนิดกระจุยหายไปในพริบตา






สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 มี.ค. แอมเวย์ อารีนา อดีตรังเหย้าของทีมบาสเกตบอล ออร์แลนโด เมจิก ในศึกยัดห่วงเอ็นบีเอ สหรัฐฯ กลายเป็นอดีตถาวร หลังมีการระเบิดทำลายสนามไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากที่ปัจจุบันทีม เมจิก ได้ย้ายไปใช้สนามใหม่ แอมเวอร์ เซนเตอร์ มูลค่า 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแทนแล้ว


ภาพยามพลบค่ำของแอมเวย์อารีน่า ไม่มีอีกต่อไป...




การระเบิดสนามครั้งนี้ใช้ไดนาไมท์มากกว่า 600 ปอนด์ รวมถึงระเบิดชนิดอื่นๆ อีก โดยมีบริษัทมืออาชีพที่มีประสบการณ์การระเบิดทุบทิ้งอาคารต่างๆ มาแล้วกว่า 23 ปี เป็นผู้ดูแล ใช้งบราว 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


อย่างไรก็ตาม มีรายงานด้วยว่า มีชายที่อยู่ห่างจากสนามถัดไปอีกสองบล็อกได้รับบาดเจ็บ โดนเศษเหล็กเส้นจากแรงระเบิดจนเป็นแผลถลอกที่ขาเล็กน้อยด้วย

ไฮไลท์แมตช์ แอตเลติโก มาดริด VS ฮันโนเวอร์ Europa League - ฟัลเกายิงไก่โห่! หมีเปิดรังเชือดฮันโนเวอร์ 2-1 12bet 30/03/2555



แอตเลติโก้ มาดริด เอาตัวรอดได้ในถิ่นตัวเองก่อน หลังเปิดรังเชือดฮันโนเวอร์ ผู้มาเยือนจากบุนเดสลีกา ได้หวุดหวิด 2-1 ในศึกยุโรป้า ลีก คืนวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคามที่ผ่านมา 


วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม2555 


ฟุตบอลยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเกมแรก
แอตเลติโก้ มาดริด 2-1 ฮันโนเวอร์







เริ่มเกมมาได้เพียง 9 นาทีแอตเลติโก มาดริดได้ประตูขึ้นนำแล้วเมื่อกาบีเปิดลูกฟรีคิกเข้ามาให้ฟันเกาสลัดหนีตัวประกบเข้าทิ้งตัวโหม่งส่งบอลผ่านซีเลอร์เข้าไปซุกก้นตาข่ายให้ทีมนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว

เกมผ่านมาถึงนาที 23 ฮันโนเวอร์ร้องหาจุดโทษเมื่อมิรานด้าปราการหลังเจ้าบ้านไปทะเล่อทะล่าสกัดเราช์คว่ำในกรอบเขตโทษแต่ผู้ตัดสินกลับไปเป่าให้กับผู้มาเยือน

อีกสามนาทีถัดมาตูรานกระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายจนสุดเส้นหลังแล้วเปิดไปยังจุดนัดพบที่เสาไกลให้หัวหอกตัวความหวังอย่างฟัลเกาเทคตัวขึ้นโขกข้ามคาน

อย่างไรก็ตามฮันโนเวอร์ก็มาตามตีเสมอในนาที 38 เมื่อสิตเดิ้ลพาบอลลุยขึ้นมาทางด้านขวาแล้วเปิดเข้ามาในกรอบเขตโทษซึ่งดิยุฟก็อยู่ถูกที่ถูกเวลาชาร์จเข้าไปตุงตาข่ายให้สกอร์กลับมาเสมอกัน 1-1 เมื่อจบครึ่งแรก

กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังได้แค่ 2 นาที ตราหมี เกือบกลับขึ้นนำอีกครั้ง ราดาเมล ฟัลเกา หลุดเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนยิงด้วยขวาถากเสาสองออกไปทีมเยือนจากเยอรมันเริ่มมองเห็นโอกาสทำประตูที่สองจึงส่ง ดีดิเย่ร์ โกน็อง ยา ลงไปแทน มานูเอล ชมีเดบัค


จากฟรีคิกของ แอต.มาดริด ในนาทีที่ 62 กาบี เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษ โกเก้ โหม่งเช็ดไปที่เสาไกล ตูราน ล้มตัวกวาดบอลผ่านหน้าประตูไม่มีเพื่อนเข้าชาร์จ


นาทีที่ 63 กลับเป็นโอกาสงามๆ ของ ฮันโนเวอร์ ที่น่าได้ประตูพลิกสถานการณ์ จากจังหวะที่ ลาร์ส สตินเดิล เปิดเรียดจากกราบขวาให้ มาเม่ ดิยุฟ ตวัดยิงด้วยขวาเต็มๆ บอลไปตรงตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ เซฟออกหลังอย่างยอดเยี่ยมท้ายเกม เจ้าบ้านพยายามบุกหนัก นาทีที่ 80 ฟัลเกา ตีลังกายิงก็ไม่ตรงกรอบ


เกมทำท่าว่าจะจบลงที่ผลเสมอแต่แล้วนาทีที่ 89 ตราหมีมาได้ประตูชัยจาก เอดูอาร์โด้ ซัลวิโอ ตัวสำรอง ทำให้จบเกม แอตเลติโก มาดริด เบียดเอาชนะ ฮันโนเวอร์ ไป 2-1 แต่ยังต้องไปตัดสินกันนัดสองสัปดาห์หน้า 

แอตเลติโก มาดริด : ธิเบาต์ คูร์กตัวส์, เฟลิเป้, ดิเอโก้ โกดิน , มิรานด้า, กาบี , ฟรานซิสโก้ ฆวนฟราน , มาริโอ ซัวเรซ, อาร์ด้า ตูราน , โกเก้ (ดิเอโก้ น.61 ), อาเดรียน (เอดูอาร์โด ซัลวิโอ น.70 ), ฟัลเกา 


ฮันโนเวอร์ 96 : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์, เอ็มมานูเอล โปกาเตตซ์, สตีฟ เชรุนโดโล่, คริสเตียน พานเดอร์ (คริสเตียน ชูลซ์ น.70), มาริโอ อิ๊กกิมันน์, มานูเอล ชไมเดบัค (ดีดิเย่ร์ ยา โกน็อง น.56), เซร์คิโอ ปินโต้ , คอนสแตนติน เราช์, ลาร์ส สตินเดิ้ล , แยน ชเลาดราฟฟ์ , มาเม่ บีรัม ดียุฟ (โมฮัมเหม็ด อับเดลลาอู น.82)

ไฮไลท์แมตช์ ชาลเก้ 04 VS แอธเลติก บิลเบา Europa League - บิลเบากระทุ้งชาลเก้ 4-2 12bet 30/03/2555



เฟร์นานโด ยอเรนเต้ กองหน้าร่างยักษ์ของแอธเลติก บิลเบา สวทบทฮีโร่พังสองประตูช่วยต้นสังกัดบุกเช็คบิลชาลเก้พังคาบ้าน 4-2 ในศึกยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเกมแรกเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม2555 


ฟุตบอลยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเกมแรก
ชาลเก้ 04  2-4 แอตเลติก บิลเบา 






ในช่วงต้นชาลเก้เปิดฉากรุกเข้าใส่บิลเบาตามสไตล์ของทีมเจ้าบ้านแต่ในนาที 12 กลับเป็นฝ่ายยอดทีมจากสเปนที่ได้โอกาสจบสกอร์ก่อนเมื่อบอลจากกราบขวาถูกเปิดมาให้ญอเรนเต้วิ่งเข้าซัดที่ระยะ 15 หลาข้ามคาน

"ราชันสีน้ำเงิน"ไม่อยู่เฉยตอบโต้กลับมาในอีก 2 นาทีให้หลังเมื่อแดร๊กซ์เลอร์กระชากบอลจี้หากองหลังทีมเยือนก่อนแทงทะลุช่องให้ฮุนเตลาร์หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่หัวหอกเลือดดัตช์ตวัดยิงด้วยซ้ายผ่านหน้าประตู

นาที 20 บิลเบาฉวยโอกาสพังประตูขึ้นนำก่อนเมื่ออิราโอล่าวางบอลขนานเส้นฝั่งขวาให้เด มาร์กอสควบตามไปเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ซูซาเอต้าซัดติดเซฟฮิลเดบรันด์แต่บอลกระฉอกมาเข้าทางญอเรนต้เข้าซ้ำไม่เหลือซาก

แต่ชาลเก้ก็เอาคืนทันควันใน 2 นาทีถัดมาเมื่อฟาร์ฟานเก็บบอลในกรอบเขตโทษด้านก่อนเห็นอูชิดะโอเวอร์แล็ปขึ้นมาเลยจ่ายให้แบ็กซามูไรครอสเลียดจากเส้นหลังมาเสาแรกให้ราอูลโฉบเข้าชาร์จตุงตาข่ายให้สกอร์เป็น 1-1

เท่านั้นไม่พอนาที 33 ชาลเก้มีโอกาสพลิกแซงได้ด้วยจากจังหวะที่แดร๊กซ์เลอร์กระชากหนีอิราโอล่าทางด้านซ้ายก่อนเปิดเลียดไปให้ราอูลเข้าชาร์จที่เสาแรกตามสูตรแต่ไม่โดนบอลเลยผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าเสียดาย

อีกสี่นาทีต่อมาชาลเก้เล่นลูกเตะมุมเข้ามาแล้วบอลถูกเคลียร์ไปเข้าทางปืนฟาร์ฟานได้กดจากแถวหัวกระโหลกไปติดบล็อกแต่บอลยังไปหล่นหน้าฮุนเตลาร์จนได้ง้างไกยิงแต่ก็ยังโดนบล็อกไว้ได้อีก จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1

กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ถึงนาที 48 แนวรับชาลเก้เปิดช่องให้ญอเรนเต้พาบอลกระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายซึ่งกองหน้าทีมชาติสเปนกำลังง้างไกยิงอยู่แล้วแต่ปาปาโดปูลอสที่วิ่งตามมาล้มตัวสไลด์บอลออกหลัง

แต่ชาลเก้ก็ตั้งหลักนำบอลมาบุกจนมีโอกาสจากลูกฟรีคิกในนาที 56 ซึ่งฆูราโด้เปิดบอลไปให้ปาปาโดปูรอสโหม่งเสยกลับหลังหลุดกรอบ ขณะที่อีกไม่กี่อึดใจฟาร์ฟานได้วอลเล่ย์หน้าเขตโทษโดนอิไรซอสทุบทิ้งออกมา

อย่างไรก็ตามความพยายามของเจ้าบ้านก็มาประสบผลในนาที 60 เมื่อแนวรับบิลเบาสกัดบอลที่เปิดมาจากฝั่งซ้ายไม่ดีเลยเปิดโอกาสให้ราอูลได้ง้างเท้าวอลเล่ย์หน้ากรอบเขตโทษผ่านมืออิไรซอสเข้าไปให้ทีมนำ 2-1

เท่านั้นไม่พอเมื่ออีกสี่นาทีถัดมาฟุคส์เติมมาส่องไกลระยะกว่า 25 หลาบอลโดนอิไรซอสปัดได้ที่โคนเสาขวาแต่ชาลเก้ยังนำมาบอลมาเล่นต่อจนราอูลเห็นช่องชิพจากหน้าเขตโทษฝั่งซ้ายหลุดเสาขวาไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ในนาที 72 ยอดทีมจากแคว้นบาสก์ก็มาตามตีเสมอได้บ้างเมื่อโกเมซเปิดลูกคอนเนอร์ฝั่งซ้ายเข้ามาที่เสาแรกแล้วเป็นกองหน้าตัวความหวังอย่างญอเรนเต้ที่ใช้ความสูงใหญ่เทคตัวโขกสะบัดเข้าประตูให้สกอร์เป็น 2-2
  
บิลเบาได้ใจจนเปิดเกมบุกขึ้นมาได้ประตูแซงนำ 3-2 จากจังหวะที่ซูซาเอต้าได้วอลเล่ย์ในกรอบเขตโทษด้านขวาไปติดโชเบอร์ที่เซฟออกมาเข้าทางปืนเด มาร์กอสเข้าซ้ำจ่อๆไม่เหลือซาก

ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านลุยแหลกเต็มหลักสูตรแล้วก็เกือบได้ผลเมื่อนาที 87 ฮุนเตลาร์ได้จังหวะวอลเล่ย์หน้าเขตโทษไปกระแทกกับเสาซ้ายขณะที่สองนาทีให้หลังราอูลเอาบอลลงด้วยอกแล้วกดด้วยขวาติดขาอิไรซอส

ช่วงนาทีสุดท้ายอิราโอล่าเติมขึ้นมาตัดบอลได้จากแนวรับชาลเก้ก็กระชากเข้าไปทางด้านขวาของกรอบเขตโทษแล้วตบกลับเข้ากลางให้มูเนียร์อินยิงสวนตัวโชเบอร์อย่างง่ายดายให้ทีมบดชนะชาลเก้ไป 4-2 ทำให้แอธเลติก บิลเบามีโอกาสเข้ารอบตัดเชือกยูโรป้า ลีกสูงเลยทีเดียว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 


ชาลเก้ 04 : ติโม่ ฮิลเดบรันด์ (มาธิอัส โชเบอร์ น.46), คริสเตียน ฟุคส์, เคียเรียกอส ปาปาโดปูรอส, โจเอล มาทิป, อัตซุโตะ อูจิดะ , เจอร์เมน โจนส์, มาร์โก โฮเกอร์ (เลวิส โฮลต์บี้ น.55), ชูเลี่ยน แดร๊กซ์เลอร์ (โฆเซ่ ฆูราโด้ น.55), ราอูล กอนซาเลซ , คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ , เจฟเฟอร์สัน ฟาร์ฟาน




แอตเลติก บิลเบา : กอร์ก้า อิไรซอส, โจน ออร์เตเน็ตเซ่ (อิญิโก้ เปเรซ น72), ฆาบี มาร์ติเนซ, เฟร์นานโด อมอเรเบียต้า , อันโดนี่ อิราโอล่า , อันแดร์ อิตูร์ราสเป้ , มาร์เกล ซูซาเอต้า, อันแดร์ เอร์เรร่า (อิไบ โกเมซ น.46 ), ออสการ์ เด มาร์กอส (บอร์ฆ่า อิอิซ่า น.85), อิเคร์ มูเนียอิน , เฟร์นานโด ยอเรนเต้

ไฮไลท์แมตช์ สเปอร์ส VS โบลตัน Fa Cup -ไก่จิกโบลตัน 3-1, ทอฟฟี่บุกอัดแมวดำ 2-0 ลิ่ว 4 ทีม 12bet 28/03/2555

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555



ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เปิดบ้านไล่ต้อนเก็บชัยเหนือ "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" โบลตัน ไปแบบไม่ยากเย็น 3-1 ขณะที่เอฟเวอร์ตัน ก็คงฟอร์มสดในท้ายฤดูกาล ด้วยการบุกชนะซันเดอร์แลนด์ 2-0 ในเกมเอฟ เอคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อคืนวันอังคารที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา




วันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555


ฟุตบอล เอฟเอคัพ อังกฤษ รอบ8 ทีมสุดท้าย
สเปอร์ส 3-1 โบลตัน






เกมนี้เริ่มช้ากว่ากำหนดเดิมไป 15 นาที เนื่องจากปัญหาเรื่องการเดินทางรอบๆตัวสนาม โดยก่อนแข่งมีการลุกขึ้นยืนปรบมือให้กำลังใจกับ มูอัมบ้า กันทั่วสนามเป็นเวลาหนึ่งนาทีด้วย


ทาง สเปอร์ส ส่ง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ลงมายืนเป็นหน้าเป้า พร้อมวาง แกเร็ธ เบล เล่นตรงกลางแล้วขยับ ลูก้า โมดริช มายืนทางซ้าย
ส่วน "เดอะ ทร็อตเตอร์ส" โบลตัน ให้ อีวาน คลาสนิช ยืนเป็นหน้าเป้า


ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้เพียงแค่ 4 นาที เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อนเลย จากจังหวะที่ เอก็อตโต้ ผ่านจากซ้ายเข้ากลางให้กับ แกเร็ธ เบล โยกหนีแล้วสับด้วยซ้ายจากระยะ 30 หลา บอลพุ่งแรงเข้ากรอบ อดัม บ็อกดาน นายทวารโบลตัน รับกระฉอกออกมาแต่ยังตามรับเอาไว้ได้อีกครั้ง


จากนั้นสี่นาที สเปอร์ส ได้ลุ้นต่อเนื่อง อเดบายอร์ หลุดขึ้นมาทางขวาจ่ายสั้นๆให้กับ เจค ลิเวอร์มอร์ ซัดด้วยขวาไปติดเซฟของ อดัม บ็อกดาน มาเข้าทาง ลูก้า โมดริช กระทุ้งซ้ำด้วยขวา ทว่า บ็อกดาน ปัดข้ามคานไปได้อย่างหวุดหวิด


ผ่านมา 12 นาที ไคล์ วอล์คเกอร์ แบ็คขวาจอมบุกของทัพไก่เดือยทอง ทะลุขึ้นมาเปิดจากสุดเส้นหลังด้านขวา แต่ แซ็ต ไนท์ กองหลังโบลตัน มาบล็อคออกหลังไปได้ถัดมานาทีเดียว เจ้าถิ่นได้โอกาสอีก ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท หลุดมาซัดด้วยซ้ายมุมแคบ อดัม บ็อกดาน ใช้ตัวขวางบอลออกหลังไปได้


มาถึงนาทีที่ 28 โบลตัน จำเป็นต้องเปลี่ยนเอา ดาร์เรน แพร็ทลี่ย์ กองกลางตัวรับที่ไปเสียบ แกเร็ธ เบล ของสเปอร์สทางด้านหลัง แต่ดันเจ็บเองเล่นต่อไม่ไหวเลยต้องให้ ทิม รีม ลงมาเล่นแทน


เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 35 สเปอร์ส ขึ้นเกมรุกมาทาง โมดริช จ่ายจากซ้ายเข้าในให้กับ อเดบายอร์ กระชากขึ้นไปแล้วไหลย้อนกลับหลังให้กับ แกเร็ธ เบล ตะบันด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษบอลเข้าข้างตาข่าย


จากนั้นสี่นาที ไก่เดือยทอง น่าจะได้ประตูขึ้นนำจริงๆ เมื่อ แกเร็ธ เบล จ่ายจากซ้ายเข้าในให้กับ อเดบายอร์ ข้ามหลอกให้ สกอตต์ พาร์เกอร์ หลุดมาแปด้วยซ้ายจ่อๆแค่ 6 หลาไปติดขาของ อดัม บ็อกดาน เซฟไว้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ


เจ้าบ้านลุยเข้าใส่ตลอด นาทีที่ 41 แกเร็ธ เบล ได้กดด้วยซ้ายเน้นๆ จากระยะ 20 หลาบอลเฉี่ยวเสาแรกไปนิดเดียว หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0


ลุยต่อครึ่งหลัง สเปอร์สนำออกนำทันทีจากฟรีคิกระยะอันตรายหน้าปากประตู ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ปั่นโค้งไปชนคานกระดอนออกมา


ดำเนินครบชั่วโมง กลายเป็นเกมวันเวย์ของเจ้าถิ่น ฟาน เดอร์ ฟาร์ท โยนให้ เล็ดลี่ย์ คิง โขกบอลตกหลังคา ต่อด้วย พาร์เกอร์ ไหลขึ้นมาให้ อเดบายอร์ พลิกแล้วจ่ายทะลุต่อถึง ฟาน เดอร์ ฟาร์ท หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงด้วยซ้ายติดตัว บ็อกดานเซฟไว้ได้ไม่น่าเชื่อ


คลับไก่เหนือกว่าครบวงจรแล้ว อเดบายอร์ ลากมาทางขวาแล้วล็อคเข้าในก่อนซัดด้วยขวา บ็อกดาน ตบออกหลังไปอีก จากลูกเตะมุม ฟาน เดอร์ ฟาร์ท เปิดบอลให้กับ เจค ลิเวอร์มอร์ โขกจ่อๆเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกไป รวมถึงนาที 72 เมื่อเจอร์เมน เดโฟ ที่เพิ่งลงเป็นสำรอง เอี้ยวตัวซัดด้วยซ้ายก็อุตส่าห์โดน บ็อกดาน ปัดทิ้งออกหลังไปได้อีก


จนนาที 74 สกอร์แรกของสเปอร์สก็มาหาซะที หลังเตะมุมกันหลายจังหวะมาจบที่ ฟาน เดอร์ ฟาร์ท โยนออกเสาไกลให้ ไรอัน เนลเซ่น โขกย้อนศรย้อยเสียบตาข่ายสวยงาม 1-0


พอได้ประตูแล้วก็ไหลเพิ่มทันควัน 2-0 ในอีกแค่ 3 นาทีต่อมา คราวนี้เป็นบอลสวนเร็ว เดโฟ ป้ายทะลุให้ เบล สอดมารับเข้าเขตโทษก่อนเอี้ยวยิงด้วยซ้ายหนี บ็อกดาน เสียบโคนเสาไกลอย่างเด็ดขาด


นาทีที่ 90 โบลตันกลับมามีความหวังไล่ตีเสมออีกครั้งเมื่อได้ประตูตีตื้นเป็น 1-2 จาก เควิน เดวิส แต่ดีใจได้เพียงไม่เท่าไร นาทีที่ 93 หลุยส์ ซาฮา ก็มายิงประตูปิดกล่องช่วยเจ้าถิ่นดับฝันโบลตันแบบเจ็บแสบจบเกม สเปอร์สชนะไป 3-1 พร้อมกับผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ เชลซี อริร่วมกรุงลอนดอนที่สังเวียนเวมบลีย์




รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์: คาร์โล คูดิชินี่ - ไคล์ วอล์คเกอร์, เล็ดลี่ย์ คิง (กัปตันทีม), ไรอัน เนลเซ่น, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ - ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท, สกอตต์ พาร์เกอร์, เจค ลิเวอร์มอร์, แกเร็ธ เบล, ลูก้า โมดริช - เอ็มมานูเอล อเดบายอร์


โบลตัน: อดัม บ็อกดาน - ซามูเอล ริคเก็ตต์ส, เดดริค โบยาต้า, แซ็ท ไนท์, มาร์กอส อลอนโซ่ - คริส อีเกิ้ลส์, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, มาร์ค เดวิส, ดาร์เรน แพร็ทลี่ย์, เรียว มิยาอิจิ - อีวาน คลาสนิช






ซันเดอร์แลนด์ 0-2 เอฟเวอร์ตัน






ขณะที่อีกคู่นึง "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ของกุนซือจอมเฮี้ยบ มาร์ติน โอนีล กลับมาเล่นในบ้านโดยได้  ลี แคตเทอร์โมล กลับมาคุมแดนกลางหลังพ้นโทษแบน แต่ไร้ จอห์น โอเช ต้องให้ โซติริส คีร์เกียคอส เซนเตอร์ฮาล์ฟกรีซลงแทน เกมรุกวาง สเตฟาน แซสเซอญง และ นิคลาส เบนท์เนอร์ เป็นทีเด็ด


ทางด้าน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กลับมาลงสนามด้วยผู้เล่นชุดใหญ่อีกครั้ง ดาร์รอน กิ๊บสัน คุมแดนกลางร่วมกับ มารูยาน เฟลไลนี่ ตัวรุกวาง ทิม เคฮิลล์ ปั้นเกมรุกหลัง นิกิซ่า เยลาวิช ศูนย์หน้าตัวเก่งชาวโครแอต


เริ่มเกมไป 7 นาที เอฟเวอร์ตันลุ้นจากจังหวะการยิงของเคฮิลล์ ทางฝั่งขวาเขตโทษ มิโญเล่ต์ก้มตัวรับไว้ได้ อีก 4 นาที ลาร์สสันเปิดลูกเตะมุมเข้ากลางให้แซสเซอญงขึ้นโหม่งที่เสาสอง บอลหลุดข้างเสาออกหลัง ทอฟฟี่ทำได้สวย นาที 20 กิ๊บสันเปิดเตะมุมฝั่งซ้ายเข้ากลาง เคฮิลล์โหม่งเต็มๆ มิโญเล่ต์ปัดออกมาได้ เคฮิลล์จะเข้าซ้ำแต่กองหลังแมวดำเตะทิ้งได้ทัน


กระทั่ง นาที 24 ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ กูเอเย่ผ่านบอลจากปีกซ้ายเข้ากลาง เยลาวิชมาตรงจุดนัดพบ แล้วแปเน้นๆ ด้วยขวา ส่งบอลเสียบเสาแรกอย่างแม่นยำ


แมวดำไม่ยอม นาที 34 แม็คคลีนโยนลูกเตะมุมฝั่งขวามาหน้าประตู ฮาวเวิร์ดชกบอลมาได้ บอลเข้าทาง ฟิล บาร์ดสลี่ย์ พักอกหน้าเขตโทษระยะ 30 หลา ก่อนวอลเล่ย์สวนตูมเดียวด้วยขวา บอลเหินข้ามคาน จากนั้น เจ้าถิ่นคุมเกมไว้ได้ แต่หาจังหวะจบสกอร์ไม่เจอ จบครึ่งแรก เอฟเวอร์ตันบุกมานำ 1-0


ครึ่งหลังแค่ 2 นาที ทอฟฟี่ได้ลุ้น กูเอเย่เปิดลูกเตะมุมซ้ายมาหน้าประตู กองหลังโหม่งเคลียร์ออกมา ออสแมนวอลเล่ย์สวนจากระยะ 18 หลา บอลเลี้ยวติดไซด์ก้อยออกหลังอย่างหวาดเสียว


บดอยู่นาน นาที 57 เอฟเวอร์ตันมาได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่วอห์นทำเสียบอลหน้าเขตโทษตัวเอง เฟลไลนี่ควบบอลเข้ามา ก่อนไหลเข้ากลางให้เยลาวิชที่ยืนอยู่คนเดียว ตวัดยิงด้วยขวา บอลกลิ้งหลุดกรอบไปแล้ว แต่วอห์นที่วิ่งตามมาสกัด ดันจับบอลไม่ดี บอลกระเด้งโดนขาตัวเองเข้าประตูให้ทอฟฟี่ทิ้งเป็น 2-0


ทีมเยือนได้ใจ นาที 61 เคฮิลล์ตัดบอลจากวอห์นได้ ก่อนตบเข้ากลางให้เยลาวิชที่ยืนโล่งๆ เผชิญหน้ากับมิโญเล่ต์ แต่เยลาวิชยิงออกหลังไปเอง จบเกม เอฟเวอร์ตันบุกชนะซันเดอร์แลนด์ 2-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือกไปพบกับลิเวอร์พูล ในวันที่ 14 เมษายนนี้




รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ซันเดอร์แลนด์ : ซิมง มิโญเล่ต์ - ฟิล บาร์ดสลี่ย์, โซติริส คีร์เกียคอส, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์, เวย์น บริดจ์ - เซบาสเตียน ลาร์สสัน, ลี แคทเตอร์โมล, เคร็ก การ์ดเนอร์, เจมส์ แม็คคลีน - สเตฟาน แซสเซอญง - นิคลาส เบนท์เนอร์


เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด - ฟิล เนวิลล์, จอห์น ไฮติงก้า, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เลห์ตัน เบนส์ - ลีออน ออสแมน, มารูยาน เฟลไลนี่, ดาร์รอน กิ๊บสัน, มากาเย่ กูเอเย่ - ทิม เคฮิลล์ - นิกิซ่า เยลาวิช

ไฮไลท์แมตช์ เบนฟิก้า VS เชลซี Uefa Champions League - สิงห์รับทั้งเกมแต่บุกเชือดเบนฟิก้าหวิว 1-0 12bet 28/03/2555



เชลซี พลิกล็อคเก็บชัยชนะได้ก่อนทั้งๆที่ต้องเป็นฝ่ายรับอยู่ทั้งเกม แต่ก็ได้ประตูชัยจากจังกหวะถวายพานของเฟร์นานโด ตอร์เรส ให้ โซโลมง กาลู ชาร์จจ่อๆเข้าไป ให้สิงห์ไฮโซ บุกเอาชนะเบนฟิก้าได้ 1-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเลกแรกเมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา 


วันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555


ฟุตบอลยุฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เบนฟิก้า 0-1 เชลซี






เกมในช่วงแรกทั้ง 2 ทีมพยายามชิงจังหวะกันอยู๋ ผลัดกันครองบอล นาทีที่ 7 เบนฟิก้าได้เตะลูกฟรีคิกเปิดเข้าไปในเขตโทษ นักเตะเบนฟิก้าโหม่งเข้ามาหน้าประตู เฟร์เรย์ร่าที่อยู่ยืนอยู่พยายามหวดบอลทิ้งแต่วืดเต็มๆ น่าสนใจว่าถ้าหวดโดนจะเข้าประตูตัวเองหรือไม่

เกมยังไม่ต่อเนื่องทั้งคู่ นาทีที่ 11 ลูอิซได้โอกาสพาบอลลากขึ้นมาเองจากกองหลังก่อนจะเห็นช่องและตัดสินใจยิงทันทีจากระยะ 30 หลาแต่บอลก็เบาไปแถมยังไม่ตรงกรอบอีกต่างหาก

นาทีที่ 19 เป็นโอกาสของเบนฟิก้าเมื่อเซซาร์เปิดบอลให้กับคาร์โดโซ่พักอกเอาบอลลงก่อนจะวอลเลย์ทันทีแม้ว่าจะมีเทอร์รี่วิ่งตามประกบประกบอยู่ก็ตาม แต่บอลก็เฉี่ยวเสาออกไป เตือนเชลซีบ้างเหมือนกันสำหรับเจ้าถิ่น

นาทีที่ 28 แม้ว่าเชลซีจะเป็นฝ่ายได้ครองบอลมากกว่าอยู่นิดหน่อยแต่จังหวะลุ้นจังๆกลับเป็นเจ้าถิ่นที่มีมากกว่านาทีที่ 28 ไกตานก็ครอสบอลจากทางฝั่งซ้ายมาหน้าประตูและก็เป็นคาร์โดโซ่เทคตัวขึ้นโหม่งเหือนกองหลังเชลซีที่ประกบอยู่แต่กดไม่ลงบอลลอยข้ามคานออกไป

เชลซีพยายามใช้เกมเร็วเข้าสู้โดยเฉพาะในแดนกลางที่บีบไม่ให้เจ้าถิ่นครองบอลกันง่ายๆ นาทีที่ 39 ตอร์เรสได้บอลลากเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวาก่อนจะล็อกไขว้เข้าซ้ายอย่างสวยแล้วตัดสินใจยิงทันทีแต่จังหวะยิงทำไม่ดีพอบอลลอยหลุดกรอบไปไกล

นาทีต่อมาเมเรเลสที่วันนี้ได้บอลทีไรโดนโห่ตลอดโทษฐานที่เป็นเด็กเก่าปอร์โต้ก็ได้จังหวะส่องบอลที่กาลูไหลกลับมาให้จากระยะประมาณ 25 หลาบอลเกือบเสียบเสาแต่อาเธอร์ยังพุ่งปัดออกหลังไป จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0


เริ่มครึ่งหลังเป็นเบนฟิก้าที่เปิดเกมบุกเข้ามส่ทีมเยือน นาทีที่ 47 เปเรย์ร่าทุ่มไกลมาจากท้างซ้ายกองหลังเชลซีโหม่งไปเข้าทางของคาร์โดโซ่ได้อัดเต็มๆแต่บอลพุ่งไปติดบล็อกของลูอิซที่ยืนอยู่เฉยๆ ออกไปรอดเสียประตูไปจังหวะนี้สำหรับเชลซี โดยผู้เล่นเจ้าถิ่นพยายามฟ้องเอาแฮนด์บอลด้วยแต่ผู้ตัดสินก็ไม่ได้ว่าอะไร

นาทีที่ 52 สิงห์บลูก็มีโอกาสบุกขึ้นมาตอร์เรสลากบอลอยู่ท้ายซ้ายก่อนจะล็อกเข้าขวาแล้วโยนโค้งมาที่หน้าประตูให้กับกาลูขึ้นโหม่งเต็มๆแต่ตัวรุกไอวอรี่ โคสต์ทำได้ไม่ดีพอบอลข้ามคานออกไป ภาพจับให้เห็นมีแฟนบอลพับกระดาษปาเป็นจรวดลงมาในสนามด้วย หลายลำอยู่เหมือนกัน

โอกาสทองของเชลซีในนาทีที่ 60 เมื่อกองหลังและผู้รักษาประตูของเจ้าถิ่นก็กะจังหวะกันไม่ดีทำให้มาต้าสบโอกาสฉกบอลไปได้แต่จังหวะยิงมุมไม่ค่อยมีเลยซัดไปชนเสาจังๆ น่าเสียดายจริงๆลูกนี้

นาทีที่ 65 วิทเซลก็ไปเบียดแย่งเอาบอลมาก่อนจะลากขึ้นไปเองแล้วตัดสินใจซัดทันทีจากระยะประมาณ 30 หลายบอลแฉลบกองหลังเชลซีย้อยฮุคลงมาบนหลังคาพอดี เสียวกันเป็นแถบๆเลยจังหวะนี้

นาทีต่อมาเซซ่าร์ก็ครอสบอลจากฝั่งซ้ายมาที่เสาสองให้กับยาร์เดลวิ่งเข้ามาโขกโล่งๆแต่ไปตรงตัวปีเตอร์ เช็กผวาปัดทิ้งไปได้หวุดหวุด และเชลซีก็เปลียนเอาตัวเก๋าลงมาแล้วส่งแลมพาร์ดลงมาแทนเมเรเลส

นาทีที่ 75 เชลซีก็มาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับรามิเรสโชว์ความเร็วกระชากบอลขึ้นมาจากฝั่งตัวเองก่อนจะจิ้มบอลต่อให้ตอร์เรสใช้ความแข็งแกร่งเบียดลุยเซาล้มลงไปและควบบอลเข้ไปจนเกือบสุดเส้นหลังแล้วรอจังหวะก่อนจะเปิดให้กับกาลูเหยียดตัวจิ้มเข้าประตูไป ต้องชมทั้ง 3 คนจริงๆที่ทำให้จงหวะนี้สมบูรณ์แบบเป็นประตูอเวย์โกล์ที่สำคัญของ"สิงห์ไฮโซ"ด้วย

ลูกสวนกลับของเชลซีน่าก่อนที่กลัวมากวันนี้ นาทีที่ 86 คราวนี้เป็นสเตอร์ริดจ์ที่ลากบอลขึ้นมาจากแดนตัวเองก่อนตัดเข้าในแล้วจ่ายให้กับมาต้าก่อนที่สตาร์สแปนิชจะบรรจงชิพกะให้ข้ามหัวอาเธอร์เข้าไปแต่แรงไปหน่อยบอลเลยข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้นเป็นเบนฟิก้าที่โหมบุกหนักหวังยิงประตูให้ได้แต่เกมรับของเชลซีก็ยังยันไว้อยู่จบเกมเชลซีบุกมาเอาชนะเบนฟิก้าไปได้ 1-0 เก็บอเวย์โกล์สำคัญไปรอลุ้นต่อนัดสองที่สแตมฟอร์ดบริดจ์สัปดาห์หน้า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 


เบนฟิก้า : อาเธอร์, ลุยเซา, ยาร์เดล, เอเมอร์สัน, แม็กซี่ เปเรย์ร่า, ฆาบี้ การเซีย(โนลิโต้ น.82), บรูโน่ เซซ่าร์(โรดริโก้ น.69), ออสการ์ คาร์โดโซ่, ปาโบล ไอมาร์(เนมันย่า มาติช น.69), นิโคล่าส์ ไกตาน, อาเซล วิทเซล

สำรองไม่ได้ใช้ : ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า, มิเกล บิตอร์, เอดูอาร์โด้, โอลิเวียร่า 


เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, ดาวิด ลูอิซ, แอชลี่ย์ โคล, เปาโล เฟร์เรย์ร่า(โจเซ่ โบซิงวา น.80), โอบี มิเกล, ราอูล เมเรเลส(แฟร้งค์ แลมพาร์ด น.68), รามิเรส, ฆวน มาต้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ซาโลมง กาลู(ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ น.82)

ไฮไลท์แมตช์ อาโปเอล นิโคเซีย VS เรอัล มาดริด Uefa Champions League - เบนซ์เบิ้ล! ราชันบุกสะบั้นนิโคเซีย 3-0 12bet 28/03/2555



แม้จะต้องบถกอย่างอึดอัดอยู่นานแต่ท้ายที่สุดอาโปเอล นิโคเซีย ม้ามืดแห่งไซปรัส ก็ยันเรอัล มาดริด ผู้มาเยือนไม่ไหว พ่ายไปยับ 3-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเกมแรก เมื่อวันอังคารที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา 


วันอังคารที่ 27 มีนาคม 2555


ฟุตบอลยุฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อาโปเอล นิโคเซีย 0-3 เรอัล มาดริด






เปิดฉาก มาดริด บุกเข้าใส่อย่างหนักเจอกำแพงแนวรับนิโคเซียป้องกันอย่างเหนียวแน่นผ่านไป 8 นาทีได้ทักทายก่อน เบนเซม่า ฉีกตัวไปเอาบอลทางซ้ายเลี้ยงจี้แผงหลังล็อคเข้าในก่อนยิงยัดเสาแรกเข้ามือผู้รักษาประตู

กระทั่งผ่าน 10 นาที มาดริด น่าจะได้ประตูขึ้นนำ ซาฮิน ตักโด่งเข้าไปในกรอบเขตโทษ ฮอร์เก้ กองหลังพยายามโหม่งสกัดแต่กลายเป็นตั้งให้ โอซิล วอลเลย์เหน่งๆด้วยขวาเต็มข้อแต่ โชติส นายทวารปฎิกริยาไวมากไปทิ้งออกได้สุดยอด

"ราชันชุดขาว" พับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวกดดันเจ้าถิ่นโงหัวแทบไม่มีโอกาสยิงเลยจนถึงนาที 28 ซาฮิน ไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ็าย โรนัลโด้ วิ่งตามไปยังพื้นที่ว่างยิงมุมแคบด้วยซ้ายทันทีแบบไม่ต้องจับกะเสียบใต้คานแต่ โชติส ปิดมุมได้ดีเซฟถึงสองครั้ง

นาที 33 มาดริด ปล่อยโอกาสทองหลุดลอยที่จะได้ประตูขึ้นนำอย่างไม่น่าเชื่อจากกจังหวะ โรนัลโด้ ไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้าย ซาอิน เติมขึ้นมาก่อนไหลไปยังเสาสอง เบนเซม่า อยู่โล่งๆหน้าปากประตูระยะจ่อๆ 5 หลาแค่แปะบอลก็เข้าแล้วกลับทำยากกว่างัดโด่งข้ามคานหน้าตาเฉย

เรียกว่า "ราชันชุดขาว" เป็นฝ่ายพับสนามบุกอยู่ฝ่ายเดียวโดยที่ อาโปเอล ตั้งรับเต็มที่ไม่เปิดเกมบุกแลกเลยจนกระทั่งก่อนพักเบรกนาทีเดียว อิกวาอิน จ่ายให้ โอซิล หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายรอจังหวะก่อนแปส่ง โรนัลโด้ ยิงแบบเฉือนๆหลุดเสาสอง จบครึ่งแรกเสมอแบบไร้สกอร์


กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ยังเป็น มาดริด บุกอย่างต่อเนื่องผ่านไป 3 นาทีเมื่อบอลมาถึงเท้า โรนัลโด้ ได้โอกาสสับไกยิงเต็มข้อน่าจะทำได้ดีกว่านี้แต่ดันงัดโด่งข้ามคานไปหลายวา

เกมดำเนินมาถึงนาที 74 ในที่สุดความพยายามของ "ราชันชุดขาว" สัมฤทธิ์ผล กาก้า กระชากมาทางซ้ายเงยหน้ามองก่อนบรรจงเปิดเข้ากลาง เบนเซม่า ล้มตัวพุ่งโหม่งสะบัดเสียบตาข่ายเสาสอง

หลังปลดล็อคได้ประตูแรกสกอร์เกือบไหลให้ มาดริด พังประตูเพิ่มในอีกนาทีถัดมา โอซิล หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนจ่ายย้อนหักเข้ากลาง โรนัลโด้ วางเท้ายิงเน้นๆระยะ 10 หลาแต่ติดเซฟ โชติส ใช้ขาสกัดทิ้ง

เกมนี้ อาโปเอล ไม่ได้ โชติส มีสิทธิ์เสียหลายประตูเลยดูได้จากในนาที 77 มาร์เซโล่ จ่ายตัดหลังแนวรับหลุดทะลุให้ เบนเซม่า หลุดเดี่ยวกำลังจะได้ยิงแต่ โชติน นายทวารล้มตัวใข้ขาสกัดทิ้ง

เหลือไม่ถึง 10 นาที อาโปเอล ยันไม่อยู่เสียท่า มาดริด พังประตูหนี 2-0 เริ่มจาก มาร์เซโล่ กระชากมาทางซ้ายทำชิ่งหนึ่ง-สองกับ โรนัลโด้ ตอกส้นคืน มาร์เซโล่ กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษแม้ถูกกองหลังเจ้าถิ่นแซะจนเสียหลักแต่ยังล้มตัวจ่ายให้ กาก้า ยืนรอแปนิ่มๆหน้าปากประตูไม่เหลือ

5 นาทีสุดท้าย "ราชันชุดขาว" พลาดโอกาสได้ประตูเพิ่มแบบน่าเสียดายจากจังหวะที่ โรนัลโด้ หลุดเข้ามาในเขตโทษทางซ้ายตัดเข้าไปในกึ่งยิงกึ่งผ่าน เบนเซม่า ยืนค้ำจ่อๆหน้าปากประตูกลับงัดโด่งข้ามคานไปอีกแล้ว

นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน "ราชันชุดขาว" พังประตูปิดท้าย โรนัลโด้ กระชากมาเองจ่ายไปทางขวา รามอส เติมขึ้นมาหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษศก่อนจ่ายไซด์ก้อยไปยังเสาสอง เบนเซม่า รอชาร์จจ่อๆหน้าปากประตูเข้าไปอย่างง่ายดาย จบเกม มาดริด ต้อน 3-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
อาโปเอล นิโคเซีย: โชติส,พูซาติเดส,ฮอร์เก้,โอลิเวร่า(กาก้า น.13),เบาเวนตูร่า,โมราอิส,ปินโต้(โซลารี่ น.72),ชาราลัมบิเดส,อเล็กซานดรู(ซูซ่า น.46),ทริคคอฟสกี้,ไอล์ตัน

เรอัล มาดริด: คาซิญาส,อาร์เบลัว,เปเป้,รามอส,โคเอนเทรา(มาร์เซโล่ น.64),เคดิร่า,ซาฮิน(กราเนโร่ น.83),เบนเซม่า,โอซิล,โรนัลโด้,อิกวาอิน(กาก้า น.64)

ไฮไลท์คลิป เสือเตี้ยอินจัดตีลังกาคุมทีม 12bet 28/03/2555



ดีเอโก มาราโดนา ตำนานแข้งชาวอาร์เจนตินาปัจจุบันเป็นกุนซือ อัล วาเซิล ทีมฟุตบอลใน ยูเออี โปร ลีก ประเทศ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ 






เสือเตี่ยแสดงอาการลุ้นลูกทีมจากจังหวะมีโอกาสยิงประตูทีมคู่แข่งแต่บอลเฉียดเสาออกไป ทำเอา มาราโดนา ออกอาการเสียดายสุดขีดถึงกับล้มตัวตีลังกาม้วนหน้าไปหนึ่งที แต่ถึงแม้จะพลาดจากจังหวะยิงสกอร์นี้ไปแต่ลูกทีมของเขาก็ยังทำผลงานจากเกมล่าสุดได้ดีเมื่อไล่ยิงถล่มทีมคู่แข่ง เอมิเรตส์ คลับ 4-1 ขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ของตารางศึกฟุตบอล ยูเออี โปร ลีก

ไฮไลท์คลิป กินเฮอร์บาไลฟ์มันดีงี้เอง(หรา) 12bet 27/03/2555

วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555


ลีโอเนล เมสซี ศูนย์หน้าแข้งเทพของสโมสรเจ้าบุญทุ่มบาร์เซโลนา เจ้าของรางวัล "ฟีฟา บัลลงดอร์" 3 สมัยซ้อน ได้เล่นโฆษณาตัวใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารเครื่องดื่มสมุนไพรชื่อดัง "เฮอร์บาไลฟ์" เปลี่ยนแนวจากนักฟุตบอลฝีเท้าจัดจ้านกลางสนามเปลี่ยนมาเล่นบาสเกตบอลคอร์ตในโรงยิมฯ ประลองฝีมือกับนักบาสเกตบอลผิวสีที่มีรูปร่างสูสีใกล้เคียงกัน ก่อนที่ เมสซี จะใช้เท้าโชว์ทีเด็ดเตะลูกบาสฯส่งลงห่วงเฉือนเอาชนะคู่แข่งไปได้ในช่วงเสี้ยววินาทีสุด



ไฮไลท์คลิป เถียงดีนักงับ(ตู๊ด)ซะเลย 12bet 27/03/2555



เป็นภาพอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับนักเตะที่เล่นอยู่ในลีกระดับดิวิชัน 1 ของบราซิล เป็นเกมการแข่งขันระหว่าง โนโว ฮัมบูร์โก พบกับ กาเซียส แต่เกมการแข่งขันต้องหยุดลงไปหลายนาทีหลังจากมีกลุ่มนักเตะของทีม กาเซียส ไปรุมประท้วงคำตัดสินของกรรมการก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมายืนห้ามทัพไม่ให้เหตุความรุนแรงบานปลาย




       
 แต่แล้วก็ไม่วาย ฟานเดอเร ผู้เล่นตำแหน่งศูนย์ทีม กาเซียส มีอันต้องเจ็บตัวแบบที่ไม่มีใครคาดคิดเมื่อโดนสุนัขตำรวจพันธุ์อเมริกัน เชเพิร์ด ตัวหนึ่งที่ลงไปกับเจ้าหน้าตำรวจอยู่ในสนามด้วยนั้นกลับกระโดดงับเข้าไปตรงบริเวณบั้นท้ายแกมก้นของ ฟานเดอเร แต่นับว่ายังโชคดีที่บาดแผลจากคมเขี้ยวเจ้าตูบโปลิศไม่ได้ฉกรรจ์มากมายนักหลังจากทีมแพทย์ดูแลรักษาอาการบาดเจ็บประมาณ 10 นาที เขาก็กลับลงมาเล่นในสนามได้เหมือนเดิม

ไฮไลท์แมตช์ กรานาด้า Vs เซบีย่า La Liga - เซบีบ่าบุกต้อนกรานาด้า 3-0 12bet 27/03/2555



เซบีย่า ฟันสามแต้มเต็มในนัดมันเดย์ไนต์ หลังเป็นฝ่ายบุกเอาชนะทีมแกร่งในบ้านอย่างกรานาด้า ได้อย่างพลิกความคาดหมายถึง 3-0 ในศึกลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 27 มีนาคม ที่ผ่านมา




วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม 2555


ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
กรานาด้า 0-3 เซบีย่า








กรานาด้า ทีมท้ายตารางเปิดบ้านรับมือเซบีย่า โดยเกมนี้ไม่มี การ์ลอส มาร์ติน ที่ติดโทษแบน พร้อมส่งเอ็นริเก้ รับบทเพลย์เมกเกอร์ และได้ โรเบร์โต้ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งหายเจ็บกลับมา ขณะที่ทีมเยือนส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงครบ ขาดแค่ เอเมียร์ สปาอิช และ ดีเอโก้ เปร็อตติ หน้าเป้าวาง อัลบาโร่ เนเกรโด้ ยืนหอก


เล่นไป 4 นาที เซบีย่าเฮเก้อ หลังมานูหลุดเข้าไปแตะหลบโรเบร์โต้แล้วแปมุมแคบเข้าไป แต่มีธงล้ำหน้าชูอยู่ก่อน จากนั้นอีก 2 นาที เรเยสชิพให้เนเกรโด้ หลุดไปโหม่งคนเดียว ติดมือโรเบร์โต้ บอลกระเด้งจะเข้าประตู บอร์ฆ่าตามไปเตะสกัดออกมาได้หวุดหวิด


กรานาด้ามีโต้ นาที 17 มิเกล รีโก้ วางบอลออกซ้ายให้ ดานี่ เบนิเตซ หลุดมาก่อนเลือกเปิดเข้ากลางย้อนมาให้อูเช่ แปเน้นๆ ด้วยขวา ปาล็อปออกมาปิดมุมเร็ว บอลโดนตัวเด้งออกหลัง นาที 33 อาเบลเปิดลูกเตะมุมฝั่งขวามาเสาแรก มิเกล รีโก้ สอดมาขวิดต่อไปเสาสอง เอ็นริเก้โผล่มาชาร์จไม่ถึง บอลผ่านหน้าแค่นิดเดียว




จนเข้านาทีที่ 40 เรเยสแทงบอลทะลุแนวรับกรานาด้าให้เนเกรโด้สปีดไปถึงก่อนโรเบร์โต้ แล้วจิ้มด้วยขวา จิ้มตัวนายทวารเจ้าบ้านตุงตาข่าย เซบีย่านำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้




เซบีย่านำห่าง 2-0 เนเกรโด้ แผลงฤทธิ์ตามไปเก็บบอลยาวได้ตรงสุดเส้นฝั่งขวา ก่อนจ่ายเรียดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ มานู เดล โมราล รับบอลก่อนตวัดด้วยยิงเท้าซ้ายตุงตาข่าย ไปในนาทีที่ 53


และสามนาทีต่อมา ทีมเยือนเกือบได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะโต้กลับเร็ว อันโตนิโอ เรเยส ทำทางให้ มานู เดล โมราล ยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษเข้าข้างตาข่าย


อีกราวสิบนาทีถัดมา เซบีย่าเปลี่ยนเอา เฟร์นานโด นาบาร์โร่ ออกจากสนาม เนื่องจากบาดเจ็บ โดยส่ง อันโตนิโอ ลูน่า โรดริเกซ ลงเล่นแทน นาที 71 กรานาด้าเกือบได้ประตู เมื่อ บอร์ฆา โกเมซ กองหลังที่เติมขึ้นมาเล่นเกมรุกยิงเท้าขวาหน้าประตูไปติด อันเดรส ปาล็อป


เกมทำท่าว่าจะจบลงด้วยผลสกอร์เท่านี้แต่แล้วนาทีที่ 94 ทีมเยือนมาได้ประตูปิดกล่องเป็น 3-0 จาก มานู เดล โมรัล จบเกม เซบีย่า บุกมาชนะ กรานาด้า 3-0




รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
กรานาด้า : โรเบร์โต้ - อัลแล็ง นียอม,อินิโก้ โลเปซ, บอร์ฆ่า โกเมซ, กิลแยร์เม่ ซิเกยร่า - มิเกล รีโก้ โมเรโน่, อาเบล โกเมซ - ฟรังโก้ ฆาร่า, เอ็นริเก้, ดานี่ เบนิเตซ - อิเกชุกวู อูเช่


เซบีย่า : อันเดรส ปาล็อป - โกเก้ อันดูฆาร์, ฌูเลียง เอสกูเด้, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, เฟร์นานโด นาบาร์โร่ - ปีโอเตอร์ โทรชอฟสกี้, การี เมเดล - เฆซุส นาบาส, อันโตนิโอ เรเยส, มานู เดล โมรัล - อัลบาโร่ เนเกรโด้

ไฮไลท์แมตช์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS ฟูแล่ม Premier League - หมูส่องโทน 1-0 ผีดับเจ้าสัวทวงฝูงทิ้งเรือ 3 แต้ม 12bet 27/03/2555



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บสามแต้มในรังได้สำเร็จ โดยได้เวนย์ รูนีย์ เป็นพระเอกยิงประตูในช่วงท้ายครึ่งแรกให้ปีศาจแดงเฉือน ฟูแล่ม 1-0 ในเกมพรีเมียร์ชิพ คืนวันจันทร์ที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา 


วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2555


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 ฟูแล่ม






เจ้าบ้านแมนฯ ยูไนเต็ดใช้เวนยู รูนีย์ ยืนคู่กับแดนนี่ เวลเบ็คในแดนหน้า ส่วนมิดฟิลด์ให้กิ๊กส์มาจับคู่ตรงกลางกับ ไมเคิ่ลคาร์ริค

ด้านฟูแล่มพวกเขาแพ้มาในสองนัดหลังอีกทั้งฟอร์มนอกบ้านก็ไม่ดีชนะเพียงแค่ 2 นัดเสมอ 5 แพ้ไป 7 อีกทั้งยังยิงประตูในการเป็นทีมเยือนได้เพียง 8 ลูกเท่านั้น


เปิดฉากมา 10 นาทีเจ้าบ้านก็บุกใส่ตามสไตล์จนได้มีโอกาสจบก่อนเลยจากจังหวะที่วาเลนเซียเปิดเข้ากลางแล้วโดนสกัดออกมาคาร์ริคป้ายออกมาทางขวาให้กับราฟาเอลพาบอลแหวกเข้าเขตโทษไปแล้วหยอดบอลไปตรงกลางให้กับกิ๊กส์ได้โหม่งแต่ก็ยังติดมือชวาร์เซอร์

แต่ก็ประมาทไม่ได้เหมือนกันเพราะ"เจ้าสัวน้อย"บุกขึ้นมาก็มีโอกาสได้ลุ้นอยู่จากจังหวะที่เด็มป์ซี่ย์จะพาบอลขึ้นมาตรงกลางข้างหน้ามองแล้วไม่มีตัวต่อบอลให้เลยเลือกที่จะยิงไกลประมาณ 25 หลาแต่บอลก็หลุดกรอบไปไกลพอสมควร

ชักเริ่มอันตรายซะแล้วหลังฟูแล่มได้โอกาสจบอีกครั้งนึงจากเด็มป์ซี่ย์คนเดิมที่ได้บอลตั้งแต่กลางสนามก่อนจะลากขึ้นมาตรงๆมีอีแวนส์ขวางไว้เลยล็อกซ้ายล็อกขวาจนได้เหลี่ยมยิงก่อนจะจัดการสับไกแต่เด เกอายังรับติดมือ

แมนฯ ยูไนเต็ดยังหาช่องเจาะเพิ่มไม่ได้เลยส่วน"เจ้าสัว"นาที 23 ก็มีลุ้นอีกแล้วหลังมาเคาะบอลอยู่แถวหน้าเขตโทษ"ปิศาจแดง"ได้เยอะก่อนจะเป็นฟรายที่ลากตัดเข้าในมาแล้วฝากให้กับเด็มป์ซี่ย์ก่อนที่จะล็อกให้เข้าขวาแล้วเลือกปั่นเองแต่เด เกาอาบินเซฟติดหนึบ
  
"ปิศาจแดง"ยังบุกต่อไปแล้วมีโอกาสได้ลองอีกครั้งจากราฟาเอลที่จ่ายให้กับวาเลนเซียก่อนจะวิ่งทำทางไปแล้ววาเลนเซียจ่ายคืนไปที่แบ็คหัวฟูเลี้ยงเข้าเขตโทษแล้วแตะออกไปทางซ้ายก่อนยิงเสาแรกแต่ชวาร์เซอร์ยังรับเอาไว้ได้

แล้วช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 42 เจ้าบ้านก็ได้ประตูจนได้เริ่มจากยังที่ได้บอลทางริมเส้นซ้ายมีเอฟร่าวิ่งสอดมาแต่ไม่ให้ ก่อนจะเลือกเปิดเข้าไปตรงกลางแต่โด่งเลยไปหมดมาตกที่เสาสองโดนขาของรีเซ่มาเข้าทางอีแวนส์วิ่งมาสไลด์บอลกลับไปตรงกรอบ 6 หลาให้รูนี่ย์ได้ยิงแบบไม่ต้องจับเข้าไป แมนฯ ยูไนเต็ดออกนำแล้ว 1-0

ทดเจ็บยังได้ลุ้นอีกซักทีจากรูนี่ย์ที่ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนจะไหลตัดแนวรับให้ยังหลุดเดี่ยวไปล่อเป้าชวาร์เซอร์เลือกยิงไปเสาไกลแต่ชนเต็มๆก่อนจะโดนจับล้ำหน้าตามไป ทำให้จบครึ่งแรกยังเป็นแมนฯ ยูไนเต็ดที่นำอยู่ 1-0


ครึ่งหลังกลับมาเล่นไปเพียง 2 นาทีเกือบจะมีประตูที่สองแล้วจากวาเลนเซียพาบอลขึ้นมาทำชิ่งกับรูนี่ย์ก่อนจะจ่ายให้กับกิ๊กส์เบิ้ลยาวขึ้นหน้าให้"รถด่วน"ใช้สปีดวิ่งแซงแนวรับเข้าไปยิงในเขตโทษแต่ยังตรงตัวชวาร์เซอร์พอจะซ้ำก็ยังโดนเคลียร์ทัน

เจ้าบ้านบุกฝั่งเดียวแล้วก็ได้ลุ้นอีกแล้วเป็นจังหวะเตะมุมเล่นสั้นรูนี่ย์ไหลให้กับยังหน้าเขตโทษทำเหมือนตั้งป้อมเปิดแต่เลือกหลอกแล้วพาบอลเข้าในแต่ไปต่อไม่ได้ บอลเข้าทางรูนี่ย์ยิงเข้าแต่บอลก็หลุดเสาแรก

"ปิศาจแดง"ยังบุกต่อไปและมีโอกาสอีกตามเคยจากที่ไปช่วยกันไล่แย่งบอลมาได้หน้าเขตโทษก่อนจะไหลออกมาทางซ้ายให้กับยังเล่นลูกโปรดแตะบอลตัดเข้าในก่อนจะปั่นด้วยขวาบอลโค้งจะเสียบโคนเสาไกลแต่ชวาร์เซอร์พุ่งปัดทัน

นาที 68 แมนฯ ยูไนเต็ดยังเดินหน้าหาลูกสองต่อเนื่องแต่ก็ยังเฉียบคมไม่พอคราวนี้เป็นราฟาเอลที่กระชากพาบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษก่อนจะไหลมาตรงกลางให้รูนี่ย์ยิงติดบล็อก ยังไปเข้าทางวาเลนเซียพาเข้าเขตโทษแล้วไหลย้อนมาหน้าเขตให้กิ๊กส์ยิงแต่ไม่แม่น
  
น่าจะได้ประตูที่สองเสียจริงสำหรับ"ปิศาจแดง"ที่บุกขึ้นมาชุดนี้ได้ลุ้นแบบต่อเนื่องเลยเป็นวาเลนเซียที่พามาทางขวาก่อนตั้งป้อมเปิด บอลยาวไปถึงเสาไกลให้กับยังตั้งเท้าวอลเล่ย์เต็มๆแต่บอลตรงตัวชวาร์เซอร์เจอเซฟ ซ้ำอีกทียังติด คราวนี้ลอยมาตรงหน้าเขตโทษให้กิ๊กส์ยิงซ้ำก็ยังคงติดตัวบล็อกอยู่

เข้าช่วงท้ายเกมเริ่มเจ้าบ้านออกอาการทำเกมบึกแต่ยังจ่ายบอลกันไม่แม่น ส่วน"เจ้าสัว"เองก็ยังมีลูกโต้กลับบ้างแต่ครึ่งหลังจนถึงตอนนี้ก็ยังหาโอกาสส่องจังๆไม่เจอ

ก่อนหมดเวลา"เจ้าสัว"มีประท้วงกรรมการกันหน่อยหลังเมอร์ฟี่ย์มีจังหวะได้บอลเข้าเขตโทษเจอคาร์ริคไล่มาสกัดจากด้านหลังล้มลงไปแต่ไม่มีเสียงนกหวีดออกมาจากปาก

จบเกมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก็เอาชนะฟูแล่มไปได้ 1-0 ทำให้กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้งนึงทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ออกไปเป็น 3 แต้ม ส่วน"เจ่าสัว"อยู่อันดับ 13 มี 36 แต้มห่างสโต๊คอันดับเหนือกว่าขึ้นไปอยู่ 2 คะแนน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา, โจนาธาน อีแวนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์ (สมอลลิ่ง น.74), ปาทริช เอฟร่า, ราฟาเอล ดา ซิลวา, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอชลี่ย์ ยัง, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เวย์น รูนี่ย์ (สโคลส์ น.79), แดนนี่ เวลเบ็ค (เอร์นานเดซ น.63)

ฟูแล่ม : มาร์ค ชวาร์เซอร์, เบรเด้ ฮังเกลันด์, อารอน ฮิวจ์, ยอร์น อาร์เน่ รีเซ่, สตีเฟน เคลลี่, มุสซ่า เด็มเบเล่, มาฮามาดู ดิยาร์ร่า (เมอร์ฟี่ย์ น.71), เคริม ฟราย (รุยซ์ น.67), เดเมียน ดัฟฟ์, คลินท์ เด็มป์ซี่ย์, พาเวล โปเกรบเนี๊ยค

ไฮไลท์แมตช์ ยูเวนตุส VS อินเตอร์ มิลาน Series A - ม้าลายดีดงูดิ้น 2-0 ตามฝูง 4 แต้ม 12bet 26/03/2555

วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555



ยูเวนตุสยังไล่หลังจ่าฝูง เอซี มิลานไม่ปล่อยที่ 4 แต้มเท่าเดิม หลังได้อเล็กซานโดร เดล ปิเอโร่ แข้งจอมเก๋าบวกลูกที่สองให้เจ้าม้าลายเอาชนะอินเตอร์ มิลานไปอย่างเด็ดขาด ในเกมเซเรีย อา คืนวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา 

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา
ยูเวนตุส 2-0 อินเตอร์ 








เปิดฉาก "ม้าลาย" ลุยเข้าใส่แค่ 3 นาทีแรก โอบิ ดันลื่นล้มโดน วิดาล ตัดได้ก่อนไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวา เปเป้ กระชากถึงเส้นหลังก่อนจ่ายหักเข้ากลางกะให้ มาตรี้ ได้ชาร์จจ่อๆแต่ เซซาร์ นายทวารพุ่งออกมาดักได้ทัน

หลังเป็นฝ่ายตั้งรับอยู่นาน 10 นาที อินเตอร์ ได้บุกครั้งแรกเกือบเฮ ไมค่อน จ่ายทะลุมาถึง มิลิโต้ วางเท้ายิงเน้นๆ แต่ บุฟฟ่อน นายทวารโชว์เซฟพุ่งปัดปลายมือ 


ยูเว่ พลาดโอกาสทองขึ้นนำอย่างน่าเสียดายในนาที 16 แนวรับอินเตอร์ถอยร่นไปหน้าปากประตูเปิดโอกาส คาเซเรส ตั้งป้อมโยนจากทางขวาเข้าหัว มาตรี้ เทคตัวโหม่งเหน่งๆไปเข้ามือ เซซาร์ ปัดทิ้งออกมา

งูหวิดไป!วูชินิชสุดเหยียด 
"ม้าลาย" ยังบุกเป็นระลอกกระทั่งนาที 26 น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เปเป้ กระชากมาทางขวาก่อนโยนเข้ากลางบอลมาโดนหัวไหล่ คาเซเรส ชงไปยังเสาสอง วูชินิช ล้มตัวชาร์จไม่โดน

จากที่จะได้ประตูเกือบเสียเหมือนกันสำหรับ ยูเว่ ในอีกนาทีถัดมา ไมค่อน โยนลูกเตะมุมทางขวาไปยังจุดนัดพบเสาแรกเข้าหัว ฟอร์ลัน โหม่งสะบัดบอลพุ่งกำลังจะตุงตาข่ายอยู่แล้วแต่ บุฟฟ่อน ที่ตัวถลำไปแล้วซูเปอร์เซฟปัดจากเส้นประตู

รูปเกมของ อินเตอร์ ดีขึ้นเรื่อยๆผ่านครึ่งชั่วโมง ซาเน็ตติ วางบอลยาวให้ มิลิโต้ เอาบอลลงได้ดีแล้วก่อนยิงเต็มข้อ บุฟฟ่อน ออกมาปิดมุมได้ดีทุบทิ้งออกมา มิลิโต้ ตามซ้ำดาบสองข้ามคาน

"เนรัซซูรี่" เกมดูดีกว่าแล้วนาที 35 โอบิ พยายามลักไก่สับไกเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษระยะ 25 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดแต่ บุฟฟ่อน ทุบทิ้งออกไปได้

ไปๆมาๆ อินเตอร์ มีโอกาสจะได้ประตูขึ้นนำมากกว่า ก่อนหมดเวลา 5 นาที แนวรับยูเว่เคลียร์บอลให้พ้นหน้าปากประตูไม่ดีเข้าทางปืน สแตนโควิช รอดักแถวสองซัดทันทีแบบไม่ต้องจับบอลกำลังจะเสียบมุมล่างซ้ายแต่ บุฟฟ่อน ยังล้มตัวเซฟปัดทิ้งออกไปอย่างสุดยอด จบครึ่งแรกเสมอ 0-0

กลับมาเริ่มต้นกันใหม่ ยูเว่ พยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่จนความพยายามสัมฤทธิ์ผลขึ้นนำ 1-0 ในนาที 57 เริ่มจาก มาร์คิซิโอ สับไกเต็มข้อระยะ 25 หลาบอลกำลังจะเสียบใต้คาน เซซาร์ นายทวารปัดทิ้งเป็นลูกเตะมุมทางขวา ปิร์โล่ โยนไปยังจุดนัดพบกลางกองหลังอินเตอร์ยืนขาตายกันหมดปล่ยอให้ คาเซเรซ เทคตัวโหม่งคนเดียวโล่งๆตุงตาข่าย

หลังเสียประตู อินเตอร์ หันมาเปิดเกมบุกเพื่อเอาคืนนาที 67 ฟอร์ลัน ทำทางให้ มิลิโต้ ลากจากซ้ายตัดเข้าในแหวกผ่านแนวรับสับไก 20 หลาไม่ตรงกรอบ

นาที 70 "ม้าลาย" พลาดโอกาสได้ประตูฝังกลบอย่างน่าเสียดายสุดๆ ปิร์โล่ จ่ายบอลทะลุแนวรับอินเตอร์เช็กล้ำหน้าพลาดเต็มๆปล่อยให้ วูชินิช หลุดเดี่ยวโล่งๆเลือกมุมยิงตามสบายประตูเปิดกว้างแต่กลับไปซัดตรงตัว เซซาร์ หน้าตาเฉย

แต่อีกนาทีถัดมา ยูเว่ ทิ้งห่าง 2-0 จากการประสานงาน วิดาล ไหลนิ่มเข้าไปในกรอบเขตโทษ เดล ปิเอโร่ วิ่งสอดทะลุมารับบอลตวัดยิงทันทีแบบไม่ต้องจับเสียบตาข่ายเสาสอง

หลังจากนั้นเกมรับของอินเตอร์ระส่ำโดน ยูเว่ ไล่ยำและน่าจะได้ประตูเพิ่มในนาที 77 คิเอลลินี่ เติมเกมบุกกระชากหลุดโล่งๆเข้าไปในกรอบเขตโทษทางขวาไม่เลือกยิงเองใจกว้างเป็นแม่น้ำผ่านไปยังเสาสอง กวายาเรลล่า แปเน้นๆทว่า ไมค่อน ล้มตัวสกัดเคลียร์จากเส้นประตู

ยิ่งเล่นก็ยิ่งไปกันใหญ่สำหรับ อินเตอร์ ปล่อยให้ "ม้าลาย" บุกอย่างได้ใจน่าจะพังประตูที่สามสุดๆ ปิร์โล่ โยนลึกเข้าไปในกรอบเขตโทษเข้าหัว คิเอลลินี่ โหม่งเน้นๆกำลังจะเสียบสามเหลี่ยนแต่ เซซาร์ บินเซฟปัดทิ้งออกไป หลังจากนั้น ยูเว่ คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดชนะไป 2-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
ยูเวนตุส: บุฟฟ่อน,คาเซเรส,บาร์ซายี่,คิเอลลินี่,เด เชเย่,วิดาล,ปิร์โล่,มาร์คิซิโอ,เปเป้(โบนุชชึ่ น.53),มาตรี้(เดล ปิเอโร่ น.53),วูชินิช(กวายาเรลล่า น.73)

อินเตอร์ มิลาน: ชูลิโอ เซซาร์,ไมค่อน,ลูซิโอ,ซามูเอล,นากาโตโม๊ะ,ซาเน็ตติ,สแตนโควิช,โปลี่(ฟาราโอนี่ น.67),โอบิ(ปาซซินี่ น.67),มิลิโต้,ฟอร์ลัน

ไฮไลท์แมตช์ เอฟซี โคโลญจน์ VS โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ Bundesliga - เสือเหลืองตบแพะบ้าดับคาถิ่น 6-1 ทิ้งเสือใต้ 5 แต้ม 12bet 26/03/2555



โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โชว์พลังหนุ่มดีกรีแชมป์เก่าให้ประจักษ์อีกครั้ง หลังไล่ต้อนเจ้าบ้านเอฟซี โคโลญจน์ แบบสนุกทีน 6-1 ในเกมบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 


วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน
เอฟซี โคโลญจน์ 1-6 ดอร์ทมุนด์ 






ช่วงแรกเกมของดอร์ทมุด์ยังต่อกันไม่ติดจ่ายบอลพลาดกันเป็นส่วนใหญ่เกมไม่ต่อเนื่องเลย ส่วนโคโลญจน์ก็ไม่ค่อยต่อบอลกันมากนักเล่นกัน 2-3 จังหวะแล้วก็ข่ายขึ้นหน้าแต่โพดอลสกี้ก็ยังเก็บบอลไม่ได้ ทำให้โอกาสลุ้นประตูยังไม่มีกันทั้งคู่

เล่นไปเล่นมากลายเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 13 จากจังหวะที่ลานิกครอสบอลมาจากทางขวาพอดีเป๊ะทั้งน้ำหนักและทิศทางให้กับโนวาโควิชได้โหม่งโล่งไม่มีตัวประกบบอลย้อนทางไวเดนเฟลเลอร์ที่ทะเล่อทะล่าออกมาย้อยเข้าประตูไป โคโลญจน์นำ 1-0

หลังเสียประตูเกมของดอร์ทมุนด์เริ่มดีขึ้นนิดหน่อยได้ครองบอลบุกกดดันใส่โคโลญจน์บ้างแต่ยังหาจังหวะเข้าทำไม่ไดต้องใช้ลูกยิงไกลโดยได้ลองทั้งกุนโดกานและโกรสครอยซ์แต่ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพทั้งคู่

นาทีที่ 26 ทีมเยือนก็มาได้ประตูตีเสมอจากลูกตั้งเตะเกือบสุดเส้นฝั่งขวาเป็นชเมลเซอร์รับหน้าที่ปั่นเข้าไปหน้าประตูและก็เป็นพิสซ์เซ็คขวิดเข้าประตูไป สกอร์เสมอกันแล้วตอนนี้

3 นาทีต่อมาพิสเซ็คคนเดิมก็เกือบทำประตูขึ้นนำให้กับดอร์ทมุนด์จากลูกโยนทางฝั่งซ้ายข้ามกองหลังมาและก็เป็นแบ็กขวาจอมบุกที่สอดขึ้นมาถึงในเขตโทษได้แปเต็มๆแต่บอลลอยข้ามคานไป

นาทีที่ 41 ดอร์ทมุนด์มีโอกาสอีกครั้งคากาวะเปิดบอลลึกเข้ามาที่เสาสองให้กับพิสซ์เซ็คใหม่งตั้งเข้าไปตรงกลางและก็เป็นเบนเดอร์พุ่งโหม่งเต็มเข้าปะรตูไปแต่ไลน์แมนก็ยกธงล้ำหน้าซะก่อน ช่วงท้ายทีมเยือนได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในก่อบเขตโทษถึง 3 คนแต่จับบอลกันไม่ดีพลาดโอกาสไป จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 1-1


เริ่มครึ่งหลังมาแค่ 2 นาที"เสือเหลือง"ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่กุนโดกานเปิดลุ้นเข้ามาในเขตโทษพิสซ์เซ็คโหม่งย้อนไปที่เสาสองให้กับคากาวะวิ่งเข้ามาวอลเล่ย์เต็มๆเสยคานเข้าไปอย่างสวยงามเป็นประตูขึ้นนำ 2-1

ไหลแล้วงานนี้สำหรับดอร์ทมุนด์นาทีที่ 52 คูบาลากบอลขึ้นมาทางปีกขวาก่อนทำชิ่งหนึ่งสองกับคากาวะที่ไขว้คืนให้คูบาหลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะไหลเข้ามาหน้าประตูให้กับเลวานดอฟสกี้แปเข้าไปง่าย ดอร์ทมุนด์นำ 3-1 แล้ว

ตั้งแต่เริ่มครึ่งหลังมาก็เป็นดอร์ทมุนด์ที่ได้ครองบอลบุกใส่โคโลญจน์อยู่ตลอดจนได้ประตู 2 ลูกรวดเลยยิ่งทำให้เเข้ง"แพะบ้า"ดูจะถอดใจกันไปเกมเลยตกอยู่ในการครอบครองของทีมเยือนแทบจะฝ่ายเดียวเลย ขณะที่โพดอลสกี้แข้งความหวังสูงสุดของเจ้าถิ่นก็ยังได้บอลน้อยเกินไปและบางจังหวะก็ดูหงุดหงิดที่โชว์ฟอร์มไม่ออกด้วย


เหลืออีก 15 นาทีจะหมดเวลาเกมส่วนใหญ่ก็เป็นดอร์ทมุนด์เคาะบอลกันไปมาพอได้จังหวะก็จะหาช่องเจาะซักทีแต่ก็ดูไม่ได้เน้นอะไรากนัก ส่วนโคโลญจน์ต้องบอกว่าเกมรุกวันนี้แทบต่อบอลกันไม่ได้เลย เลยครึ่งสนามมาปุ๊ปจ่ายบอลพลาดปั๊บโดนเสือเหลืองเก็บบอลมาบุกใหม่ตลอด

โชว์ให้เห็นถึงทีมเวิร์คอันยอดเยี่ยมของดอร์ทมุนด์ในนาทีที่ 78 เมื่อกุนโดกานได้บอลหลุดขึ้นไปแล้วจ่ายให้กับคากาวะก่อนที่เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่นจะตบกลับเข้ามาให้กับกุนโดกานแปเข้าไปง่ายๆไม่เหลือ เสือเหลืองนำห่างเป็น 4-1 แล้ว

2 นาทีต่อมาดอร์ทมุนด์ใช้จังหวะการเข้าทำที่เห็นกันจนชินชาเมื่อคูบ้าจิ้มต่อให้กับพิสซ์เซ็คเติมขึ้นมาทางขวาก่อนจะเปิดยัดเข้ามาตรงกลางและก็เป็นคากาวะวิ่งสอดขึ้นมาซัดเข้าเสียบเสาสองไป ขยับสกอร์เป็น 5-1

ดอร์ทมุนด์อาศัยจังหวะคนท้อเดินหน้าถล่มประตูอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 84 กุนโดกานก็จ่ายบอลทะลุช่องให้กับเปริซิชตัวสำรองหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับโกล์ก่อนจะเลือกแปง่ายไปทางขวานิ่มๆ จบเกมดอร์ทมุนด์โชว์ความโหดไม่ไว้หน้าเจ้าถิ่นแม้ว่าจะโดนไปก่อนแต่ก็ยิงแซงรวดชนะไป 6-1 ทิ้งบาเยิร์นไป 5 แต้มเท่าเดิมขณะที่โคโลญจน์อาการย่ำแย่มีแต้มเหนือโซนตกชั้นแค่ 2 แต้มเท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 


โคโลญจน์ : มิเชล เรนซิ่ง, เกโรเมล, เอ็นริเก้ ฟอนเซก้า, คริสเตียน ไอช์เนอร์(เจเมล น.46), ไมโซ เบรชโก้, ซาสช่า ไรเธอร์, มาร์ติน ลานิก(เปสโซนี่ น.82), สลาโวมีร์ เปสซ์โก้(อิชาค น.77), คริสเตียน เคลเมนซ์, มิลิโวเย่ โนวาโควิช, ลูคัส โพดอลสกี้

ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, แม็ทส์ ฮุมเมิลส์, เนเว่น ซูโบติช, มาร์เซล ชเมลเซอร์, ลูคัสซ์ พิสซ์เซ็ค, อิลกาย กุนโดกาน, สเวน เบนเดอร์(เคห์ล น.61), โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ชินจิ คากาวะ(ไลท์เนอร์ น.81), เควิน โกรสครอยซ์(เปริซิช น.73), ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้

ไฮไลท์แมตช์ เวสต์บรอมวิช VS นิวคาสเซิ่ล Primere League - นิวอัดแบ๊กกี้ส์ 3-1 ขึ้น 50 แต้มเท่าสิงห์ 12bet 26/03/2555



นิวคาสเซิ่ลทำแต้มขึ้นไปเท่ากับเชลซีที่ 50 คะแนน หลังได้ปาปิส ซิสเซ่ เบิ้ลคนเดียวสองประตู ให้ทีมบุกชนะเวสต์บรอมวิช ได้ถึงเดอะ ฮอร์ธอร์น สเตเดี้ยม 3-1 ในศึกพรีเมียร์ชิพ เมือคืนวันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคมทีผ่านมา 


วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมวิช 1-3 นิวคาสเซิ่ล 









เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที นิวคาสเซิ่ลก็มีโอกาสลุ้นก่อนเลย จากจังหวะที่ซิสเซ่พาบอลขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลาง โดนสกัดออกไปหน้าประตู แต่เป็นบาเก็บตกแถวสอง วอลเล่ย์ทีเดียว บอลตกพื้นเด้งเหมือนจะเสียบคาน แต่ฟอสเตอร์สดีดตัวปัดออกหลังได้ก่อน

เร็วมาก!ซิสเซ่สังหารไม่มีเหลือ อีกเพียงหนึ่งนาทีต่อมาหรือเป็นจังหวะที่กดดันต่อเนื่องของนิวคาสเซิ่ล พวกเขาก็มาได้ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่กองหลังเวสต์บรอมเคลียร์ไม่ขาด โดนนิวคาสเซิ่ลแทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ซิสเซ่จะยืนเข้าชาร์จเหน่งๆจากลูกเปิดด้านข้าง แม้ว่าตำแหน่งจะดูเหมือนล้ำหน้าอยู่ แต่ในเมื่อผู้ตัดสินไม่เป่าก็ต้องให้ประตูไป นิวคาสเซิ่ลนำแล้ว 1-0

นาทีที่ 16 เกมห่างเร็วเลยสำหรับนิวคาสเซิ่ล เมื่อพวกเขามาได้ประตูนำห่าง ในจังหวะสวนกลับที่ซิสเซ่พลิกตัวกลางสนาม ก่อนจะไหลบอลต่อไปให้กับเบน อาร์กฟาที่ทะลุขึ้นทางขวา จี้เข้าหากองหลังแล้วแตะหลอกเข้าซ้าย ก่อนที่จะเอี้ยวตัวยิงบอลเข้าไปเสียบเสาไกล เกมห่างเลย 2-0

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ตอนนี้ดูเหมือนว่าเกมจะนิ่งขึ้นแล้ว เพราะตอนแรกที่เวสต์บรอมเสียหลักไปจนโดนสองเม็ด มาในตอนนี้ก็เริ่มจะตั้งหลักได้มากขึ้น มีจังหวะบุกขึ้นไปบ้าง แต่โอกาสที่จะทะลวงอะไรมากมายก็ไม่ค่อยได้ ส่วนนิวคาสเซิ่ลก็เล่นกันแบบเน้นๆไป ไม่ต้องเร่งอะไรทั้งนั้น

นาทีที่ 35 งานนี้อาจจะมีไหลพร้อมกับแฮทริกของซิสเซ่เลยก็ได้ เมื่อนิวคาสเซิ่ลต่อบอลกันงามหยดขึ้นทางด้านขวา ก่อนที่เบน อาร์กฟาจะตบกลับเข้ากลาง บาร่วงไปนอนกับพื้นก่อนแล้ว แต่บอลทะลักไปถึงซิสเซ่ที่ยืนก้างมุ้งรอในกรอบเขตโทษ เอี้ยวตัวซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้เฮกันสุดๆไปเลย เพราะตอนนี้เกมห่าง 3-0 ทั้งที่ยังไม่จบครึ่งแรกด้วยซ้ำ

ช่วงเวลาที่เหลือแม้ว่าเวสต์บรอมจะพยายามแค่ไหนที่จะทำประตูตีไข่แตกให้ได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรนิวคาสเซิ่ลได้ ทำให้จบครึ่งแรกเป็นทีมเยือนที่บุกมายำก่อนเลยถึง 3-0 ขึ้นอยู่กับว่าครึ่งหลังจะยำเพิ่มหรือโดนเล่นจากยำกลายเป็นสลัดแค่นั้น


เวสต์บรอมแก้เกมด้วยการส่งบรันท์และเชน ลองลงไปเล่นแทนแอนดรูวส์กับโธมัส ส่วนนิวคาสเซิ่ลเปลี่ยนเอาโคลอชชินี่ออก ซึ่งดูแล้วแบบนี้น่าจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ ก่อนจะส่งซานตอนลงไปเล่นแทน

นาทีที่ 50 นึกว่าจะได้เฮกับแฮทริกซะแล้ว เมื่อซิสเซ่ที่วันนี้ตะบันไปแล้ว 2 ลูกมีโอกาสงามหยด วิ่งหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับฟอสเตอร์ แต่เจ้าตัวเหมือนจะเน้นไปหน่อย จังหวะยิงบอลเลยพุ่งตรงฟอสเตอร์ที่ขยับออกมาบล็อกเอาไว้ได้

อีก 3 นาทีต่อมา หรือจะเป็นจุกเปลี่ยนสำหรับเกมนี้ เมื่อนิวคาสเซิ่ลมาก่อความผิดพลาดกันเอง จากจังหวะเวสต์บรอมบอมบ์ยาวเข้าไปในเขตโทษ วิลเลียมสันวิ่งเบียดไปกับผู้เล่นเจ้าบ้าน ครูลเห็นท่าไม่ดีเลยจะออกมาตัดบอล กลายเป็นว่าพ่อเจ้าพระคุณวิลเลียมสันโหม่งสะกิดบอลหนีครูลที่กำลังจะยื่นมือออกไปรับลูกบอล ก่อนทีทั้งคู่จะประสานงากัน แล้วเป็นเชน ลองที่ส้มหล่นยิงบอลเข้าประตูไปแบบเบๆ เวสต์บรอมตามมา 3-1

พอได้ประตูตีไข่แตก ก็ดูเหมือนว่ากำลังใจจะเพิ่มพูนกันขึ้นมามากเลยทีเดียวสำหรับเวสต์บรอม เมื่อพวกเขาพยายามดันเกมขึ้นใส่นิวคาสเซิ่ลแบบต่อเนื่อง ช่วยกันวิ่งตั้งแต่หน้ายันหลังไม่มีหยุด ถ้าไม่โดนสวนจนเงิบก่อนก็น่าลุ้นเลย

นาทีที่ 65 ดูฟิตดีจริงๆสำหรับเบน อาร์กฟา เมื่อเขาพาบอลทะลุขึ้นกลางสนาม ผ่านผู้เล่นของเวสต์บรอมไปถึง 3 คน โดนทั้งเบียดทั้งกระแทกแต่ก็ยังไม่ล้ม ก่อนที่จะพยายามแทงบอลขึ้นหน้าให้เพื่อน แต่โดนดักเอาไว้ได้ซะก่อน

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เรียกได้เลยว่าเน้นสุดๆเลยสำหรับนิวคาสเซิ่ล เพราะยังไงคงไม่อยากเสียประตูที่ 2 ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่แน่นอน ทำให้พวกเขาเน้นเกมที่ชัวร์เอาไว้ก่อน

นาทีที่ 78 เซ็งกันหมดเลยสำหรับแฟนบอลทีมเยือน เมื่อดาวยิงความหวังใหม่ของพวกเขาอย่างซิสเซ่มามีอาการบาดเจ็บจนนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะขยับได้แล้วต้องถูกหามขึ้นเปลไป ก่อนจะส่งเฟอร์กูสันลงไปเล่นแทน

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ดูแล้วไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับนิวคาสเซิ่ลที่จะบุกมาเก็บแต้มจากเวสต์บรอมไปได้ เพราะตอนนี้นำห่างอยู่ 2 ลูก แถมเกมของเจ้าบ้านก็ไม่ได้กดดันอะไรนักหนาด้วย

แม้จะมีการทดเวลายาวถึง 7 นาทีจากปัญหาบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในเกม รวมทั้งเวสต์บรอมพยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็เท่านั้น เมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกม เป็นนิวคาสเซิ่ลที่บุกมาเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 ขยับเพิ่มมี 50 คะแนนเท่ากับเชลซีคู่แข่งในการแย่งอันดับกันอยู่ในขณะนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
เวสต์บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์, โยนาส โอลส์สัน, แกเร็ธ แม็คอูลี่ย์, เลียม ริดจ์เวลล์, บิลลี่ โจนส์, ยุสซุฟ มูลุมบู(ชาร์เนอร์ น.74), เจมส์ มอร์ริสัน, คีธ แอนดรูวส์(ลอง น.45), เจอโรม โธมัส(บรันท์ น.45), ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้, มาร์ค-อองตวน ฟอร์จูเน่

นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล, ฟาบริซิโอ้ โคลอชชินี่(ซานตอน น.45), ไมเคิ่ล วิลเลียมสัน, เจมส์ เพิร์ช, แดนนี่ ซิมป์สัน, โยฮัน กาบาย, แดนนี่ กัทธรี่, โยนาส กูเตียร์เรซ, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา(อเมโอบี้ น.75), ปาปีส ซิสเซ่(เฟอร์กูสัน น.79), เด็มบ้า บา

ไฮไลท์แมตช์ เรอัล ซาราโกซ่า VS แอตเลติโก มาดริด La Liga - อโปโน่สังหารโทษดับหมีนาทีสุดท้าย 1-0 12bet 26/03/2555



ดวงซวยสุดๆสำหรับแอตเลติโก มาดริด ในเกมลา ลีกา คู่ปรเดิมหัววันอาทิตย์ เมื่อพวกเขาต้องเสียจุดโทษแบบไม่สามารถแก้ตัวได้ในนาทีสุเท้าย ก่อนจะเป็นอโปโน่ ที่สังหารเข้าไปให้เรอัล ซาราโกซ่า เฉือนชนะพร้อมเก็บสามแต้มไปแบบงงๆ 


วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
เรอัล ซาราโกซ่า 1-0 แอตเลติโก้ มาดริด 







ทีมเยือนได้ทักทายก่อนจากลูกยิงไกลนอกกรอบเขตโทษของเอเดรียน แม้ว่าจะถูกเซฟเอาไว้ได้ แต่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีเหมือนกัน แต่อีกแปปเดียว  เจ้าบ้านขอลุ้นบ้าง ซึ่งเป็นโอกาสที่น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เมื่อปินเทอร์โหม่งจากระยะจ่อๆ แต่บอลหลุดเสาใกล้ออกหลังไป

ผ่านช่วง 20 กว่านาทีแรก เหมือนซาราโกซ่าจะตั้งหลักได้ ก็เลยพยายามสร้างเกมเพื่อหาโอกาสจบสกอร์ใส่ทีมเยือน ติดอยู่อย่างเดียว โอกาสที่พวกเขามีสองครั้ง ยิงหลุดกรอบออกไปเสียหมด

นาทีที่ 29 เหมือนจะมีโอกาสอยู่คนเดียวสำหรับเอเดรียน เมื่อเขามาสร้างโอกาสติดๆกันสองครั้ง ครั้งแรกโหม่งพลาดไป แต่ครั้งที่สองนี่น่าเสียดายยิ่ง เพราะดันยิงไปชนเสาซะได้

เกมนี้ถือว่าแลกกันพอสมควร เพราะโอกาสของทั้งสองทีมไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันมาก ตอนนี้ขึ้นอยู่กับความเฉียบคมเท่านั้นแล้ว

นาทีที่ 45 หรือนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกพอดี แอตเลติโก้ก็มาได้ลุ้นปิดท้าย จากลูกยิงของตูราน แต่สุดท้ายแล้วโดนบล็อกไป ทำให้ครึ่งแรกทั้งสองทีมยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0


เริ่มครึ่งหลังมาไม่ทันไร ดุจโมวิชก็มาสร้างโอกาสให้กับซาราโกซ่า แต่ลูกยิงของเขามันสูงไปนิด บอลเลยลอยหลุดกรอบออกไป แต่ดูแล้วเกมนี้น่าจะผลัดกันหวดแบบหมัดต่อหมัดแน่

เกมเข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทั้งสองทีมยังคงบู๊กันแบบไม่มีใครยอมใคร โอกาสถือว่าพอๆกัน แต่แอตเลติโก้ดูจะได้ลุ้นมากกว่าหน่อย แต่ที่เหมือนกันเลยก็คือยังไม่สามารถส่งบอลไปนอนจมอยู่ก้นตาข่ายได้

จังหวะถัดมาอะไรจะทำให้เสียวขนาดนั้นสำหรับปอสติก้าที่ได้โอกาสยิงด้วยเท้าขวาจากระยะจ่อๆในกรอบเขตโทษ แต่บอลมันพุ่งหลุดออกหลังไปซะอย่างนั้น มันน่าลุ้นเสียจริง

นาทีที่ 69 ดูเหมือนตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาของแอตเลติโก้ที่ได้ลุ้น จากโอกาสของพวกเขายังไม่สามารถแปรเปลี่ยนให้เป็นประตูได้ ดูแล้วยังห่างๆไปนิด

อีก 2 นาทีต่อมา หลุยส์ การ์เซียอดีตเด็กเก่าของลิเวอร์พูลก็ขอลุ้นยิงบริเวณกรอบเขตโทษทางฝั่งขวาบ้าง แต่นั่นก็โดนผู้รักษาประตูเซฟเอาไว้ได้ไม่ผิดพลาดอะไร

แล้วความซวยก็มาเยือนทีมตราหมี ในช่วงทดเวลานาทีที่แทบจะเรียกว่าท้ายๆเลย เมื่อโกดินไปทำฟาวล์ใส่ปอสติก้าจนโดนใบเหลือ งก่อนที่อโปโน่จะรับหน้าที่สังหารเป็นประตูชัยให้ซาราโกซ่าเอาชนะแอตเลติโก้ มาดริดไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 หวิดไปแล้วจริงๆ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
เรอัล ซาราโกซ่า: โรแบร์โต้ กาโก้, ฮาเวียร์ ปาเรเดส, มาเตออส(คาร์ลอส น.80), อับราฮัม มิเนโร่, เมาริซิโอ้ ลันซาโร่(โอริออล น.65), อดัม ปินเทอร์, โทมิสลาฟ ดุจโมวิช(มิชาเอล น.49), อีวาน โอบราโดวิช, หลุยส์ การ์เซีย, เฮลเดอร์ ปอสติก้า ,อโปโน่ 


แอตเลติโก้ มาดริด : ทิเบาต์ คูร์กตัวส์, อัลวาโร่ โดมิงเกซ โซโต้, ดิเอโก้ โกดิน , ฟิลิป คาสเมียร์สกี้, หลุยส์ เปเรีย, โคเก้ (เปเรซ น.63), เปาโล อัสซุนเซา(ซัวเรซ น.61), เอร์ดา ตูราน, เอดูอาร์โด้ ซัลวิโอ้ (ดิเอโก้ น.70), ฟัลเกา, เอเดรียน

12BETคาสิโนไลฟ์เกมส์ทัวร์นาเม้นท์! รับรางวัล 26,000 บาท ทุกสัปดาห์

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555



สมัครเข้าร่วม 12BET คาสิโน ไลฟ์เกมส์ ทัวร์นาเม้นท์! รับรางวัล 26,000 บาท ทุกสัปดาห์

ทัวร์นาเม้นท์ แรก: 12-18 มีนาคม 2555
ทัวร์นาเม้นท์ สอง: 19-25 มีนาคม 2555

ผู้ชนะ 5 อันดับแรกที่มียอดเดิมพันสูงสุดในสัปดาห์เท่านั้น!
ร่วมสนุกชิงชัยสู่ความเป็นผู้ชนะสูงสุดได้แล้ว ตอนนี้!




รางวัลใหญ่!                 
อันดับTHB
1ST10,000
2ND7,500
3RD5,000
4TH2,500
5TH1,000


จะเข้าร่วม ไลฟ์เกมส์ ทัวร์นาเม้นท์ ได้อย่างไร?
 

1. ผู้เล่นจะต้องลงทะเบียนเพื่อสมัครเข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์     
    โดยคุณจะต้องส่งอีเมลล์มาที่  support@12CSD.com.  หรือลงทะเบียนผ่านทาง ห้องสนทนาสด

2. หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย จึงจะนับยอดเล่นในการเข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์
    กติกาและเงื่อนไข
 
1. โปรโมชั่นนี้สำหรับสมาชิก 12BET คาสิโน ผู้เล่นที่ใช้บัญชีเงินจริงทุกท่าน
 
2. ทัวร์นาเม้นท์แรกเริ่มตั้งแต่ 00:00 (GMT+8) 12 มีนาคม 2555 จนถึง 23:59 (GMT+8) 18 มีนาคม 2555 และ ทัวร์นาเม้นท์สองเริ่มตั้งแต่ 00:00 (GMT+8) 19 มีนาคม 2555 ถึง 23:59 (GMT+8) 25 มีนาคม 2555

3. 
ผู้เล่นจะต้องลงทะเบียนเพื่อสมัครเข้าร่วมทัวร์นาเม้นท์ ผู้เล่นที่ลงทะเบียนจะสามารถเข้า
ร่วมไลฟ์เกมส์ ทัวร์นาเม้นท์ได้ทั้งสองครั้ง
 
4. ผู้เล่นจะต้องมียอดวางเดิมพันคาสิโนเกมสดอย่างน้อย THB100,000 ในช่วงเวลา โปรโมชั่นกำหนดเพื่อที่จะร่วมทัวร์นาเม้นท์

5. 
วางเดิมพันด้วยเงินสดใน บัคคาร่าเกมสด, แบล็คแจ๊คเกมสด, รูเล็ตเกมสดและซิคโบเกมสดเท่านั้น จึงจะนับยอดวางเดิมพันสะสม

6
รางวัลจากไลฟ์เกมส์ ทัวร์นาเม้นท์จะทำการจ่ายเงินรางวัลมูลค่าดังกล่าวตามตารางแสดงข้างต้น

7. 
รางวัลจะถูกเครดิตเข้าไปที่บัญชีของคุณ 5 วันทำการ หลังจากที่โปรโมชั่นสิ้นสุด

8. 
เงินรางวัลที่ได้รับในหน้าคาสิโน ต้องทำการเทริน์โอเว่อร์อย่างน้อย 15 เท่าก่อนทำการแจ้งถอนเงิน

9. 
ยอดวางเดิมพันจากเงินรางวัลที่ได้รับ จะไม่นับเป็นยอดในการรับโบนัสคืนเงิน และยอดวางเดิมพันจะต้องถูกหักออก

10. 
เงินโบนัสและเงินรางวัลทั้งหมดจะถูกยึด ถ้าคุณโอนเงินออกจากกระเป๋าเงินหน้าคาสิโนของคุณก่อนที่ยอดวางเดิมพันจะครบตามกำหนด

11. 
การวางเดิมพันความเสี่ยง น้อย จะไม่นับเป็นยอดสะสมยอดวางเดิมพัน เช่น เดิมพันในสีแดง/สีดำหรือคี่/คู่ ในรูเล็ตฯลฯ และเดิมพันในด้านตรงข้ามเป็นต้นฯลฯ, การโมฆะเดิมพัน, หรือยกเลิกการเดิมพัน.

12. 
คาสิโน ขอสงวนสิทธิ์ที่จะยกเลิกโปรโมชั่นนี้ได้ตลอดเวลา สำหรับสมาชิกทั้งหมดหรือสมาชิกบางท่าน

13. 
ให้ยึดหลัก ข้อกำหนดเงื่อนไขและกติกามาตราฐาน ของ 12BET เป็นหลักในการตัดสินและบังคับใช้.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สุดยอดแมตช์ตลอดกาล