Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ไฮไลท์แมตช์ เชลซี VS ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ Premier League - สิงห์เปิดดรังเจ๊าบู่ไก่ 0-0 12bet 25/03/2555

วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2555

Share this history on :


เกมพรีเมียร์ลีก ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ระหว่างเชลซี และสเปอร์ส จบลงด้วยการแบ่งกันไปคนละแต้ม โดยไม่มีฝ่ายใดทำประตูได้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2555 ผ่านมา 


วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 
เชลซี 0-0 ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส 



วันนี้เชลซีเลือกใช้บริการดร็อกบาในแดนหน้าและแน่นอนว่าต้องมีมาต้าคอยปั้นเกมเจ๋งๆให้ ส่วนตอร์เรสรอโอกาสที่ข้างสนามไปก่อนเกมนี้พวกเขาได้ตัวเทอร์รี่กัปตันทีมคนเก่งกลับมายืนแนวรับอีกครั้งหนึงด้วย หลังหายหน้าไปเพราะมีอาการบาดเจ็บ

ขณะที่สเปอร์สยังคงใช้บริการของดาวเตะคนสำคัญประจำทีมอย่างเบล, โมดริชและฟาน เดอร์ ฟาร์ต โดยให้อเดบายอร์ยืนค้ำอยู่ในแดนหน้า

ช่วง 15 นาทีแรก ถือว่าสูสีพากันดู๋ดี๋อยู่พอสมควรสำหรับทั้งสองทีม ที่วันนี้ค่อนข้างจะเกร็งอยู่หน่อยๆ เพราะคะแนนในเกมนี้สำคัญและอาจจะพลิกหรือกดสถานการณ์ของฝ่ายหนึ่งลงไปได้เลย

ตอนนี้เล่นไปเล่นมาก็เป็นเชลซีที่เซ็ตเกมเป็นรูปเป็นร่างกันมากกว่า เพียงแต่พื้นที่สุดท้ายของพวกเขายังไม่แม่นเท่าไหร่ พาบอลขึ้นไปก็มักจะไปเสียกันอยู่แถวๆกรอบเขตโทษ ไม่ค่อยได้โอกาสจบมากนัก

เกมผ่านไปเรื่อยๆโดยมีเชลซีที่ขี่อยู่นิดหน่อย แต่ที่เห็นชัดเลยคือโอกาสยิงของทั้งสองทีมที่แทบไม่มีให้ได้ลุ้นเสียวกันเลย ไอ้ที่ยิงๆไปถ้าไม่ติดบล็อกก็หลุดกรอบไปไกลหมด โอกาสลุ้นน้อยจริงๆ

นาทีที่ 31เสียงฮือฮาดังออกมาทั่วทั้งสนาม เมื่อเชลซีหวังจะได้จุดโทษ จากจังหวะที่แลมพาร์ดวิ่งทะลุหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะโดนกัลลาสเบียดเข้ามาแซ่ะ ขาพันกันแล้วกลิ้งลงไปกับพื้น แต่ผู้ตัดสินกางมือบอกว่าไม่ใช่จุดโทษชัดเจน
  
ตอนนี้เกมของสเปอร์สยังที่เล่แบบป๊อกแป๊กกันในตอนแรกก็เริ่มดูดีขึ้นมาบ้างในจังหวะทำเกมบุก แต่พวกเขาคงต้องเน้นมากกว่านี้หน่อยหากหวังคว้าชัยออกจากเดอะ บริดจ์ออกไปให้ได้

ไม่เข้าได้ไง!ฟาร์ตซัดโล่งติดเซฟเช็ก 
ช่วงทดเวลานาทีที่ 2 เหลือเชื่อจริงๆสำหรับฟาน เดอร์ ฟาร์ตในจังหวะที่สเปอร์สได้บุกกดดันเชลซี ก่อนที่บอลจะแฉลบหลุดถึงเขาซึ่งยืนจังก้ารอหน้าประตูได้ซัดโล่งๆคนเดียว แต่ดันหวดเต็มเหนี่ยวไปตรงตัวของเช็กที่ปัดบอลเอาไว้ แม้จะตามซ้ำดาบสองแต่ก็โดนบล็อกกองหลังที่ช่วยกันเอาไว้ได้อีก น่าเสียดายมากมายจริงๆ


นาทีที่ 57 เหมือนจะเน้นเกินจนวางเท้าห่างไปนิดสำหรับวอล์คเกอร์ เมื่อเบลกระชากพาบอลเจาะเข้าไปตรงกลาง ก่อนที่จะตบออกข้างให้วอล์คเกอร์ซึ่งเติมขึ้นมาได้ซัดเน้นๆ แต่บอลมันพุ่งหลุดกรอบกระทบข้างตาข่ายไปซะงั้น

แอบฮานิดหนึง!รามิเรสตีลังกาผิดหวัง 
นาทีที่ 63 ดูแล้วมันทำให้อดยิ้มนึกขำไม่ได้เลยจริงๆสำหรับท่าทางของรามิเรส เมื่อเขาวิ่งเบียดไปกับเอก็อตโต้ก่อนที่จะล้มลงในกรอบเขตโทษ พอลุกหันมาไม่เห็นเสียงนกหวีดจากกรรมการ พี่แกเลยเอามือกุมหน้าก่อนจะพลิกตีลังกากลับหลังไปหนึ่งรอบเพื่อให้รู้ว่า "กูผิดหวังมว๊าก"

ครึ่งหลังเล่นกันมาได้พักใหญ่แล้ว แต่ต้องบอกเลยว่าโอกาสมันไม่ได้ต่างจากครึ่งแรกสักเท่าไหร่ จะสลับกันนิดหน่อยก็ตรงที่สเปอร์สมีโอกาสได้ครองบอลบุกมากกว่า

มีการสลับกันให้ขำนิดหน่อย เมื่อฟานเ ดอร์ ฟาร์ตพยายามเข้าแย่งบอลจากผู้เล่นเชลซีเพื่อสวนกลับ แต่ผู้ตัดสินมองว่าเขาทำฟาวล์ เจ้าตัวที่นอนอยู่กับพื้นเลยเยียดขา ตีแขนดิ้นๆเหมือนเด็กๆเวลาที่แม่ไม่ซื้อของเล่นให้ ฮา

นาทีที่ 73 น่าจะเป็นประตูขึ้นนำของเชลซีอย่างถ่องแท้เลย เมื่อพวกเขาได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่มาต้าจะรับหน้าที่ปั่นบอลพุ่งไซด์ แล้วมันลงจุดที่ฟรีเดลกับวอล์คเกอร์อยู่กึ่งกลางพอดี เลยกั๊กกันไม่ยอมเข้าหาบอลทั้งคู่ แต่บอลก็พุ่งไปชนเสาจังๆ แม้ว่าลูอีซจะพยายามเข้าซ้ำ จังหวะมันก็ไม่พอดีซะอีก

อีก 3 นาทีต่อมา ปรับเป็นหน้าคู่แล้วสำหรับเชลซี เมื่อส่งตอร์เรสลงไปเล่นร่วมกับดร็อกบาและถอดเอาเอสเซียงออก ส่วนสเปอร์สเองก็ไม่มียอมจัดซาฮาลงเล่นและถอดเอาฟาร์ตที่เหมือนจะหมดๆออกไปพัก

นาทีที่ 79 หล่อโฮกๆเลยจริงเชียวในจังหวะนี้ของเคฮิลล์ เมื่ออเดบายอร์วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้า แตะบอลหนีเช็กไปได้แล้ว แต่จังหวะตวัดยิงของเขาไปติดบล็อกเคฮิลล์ที่วิ่งมาสไลด์กันทางเอาไว้ได้แบบเฉียดฉิว

โอกาสติดๆกันของสเปอร์สที่น่าเป็นประตูยิ่งนัก เมื่อพวกเขาได้เตะมุม ก่อนที่เบลจะเป็นคนเทคตัวโขกหน้าประตูเหน่งๆ แต่กลายเป็นบอลพุ่งสูงไปหน่อยอัดคานเข้าอย่างจัง พอจะช่วยกันซ้ำบอลก็หลุดข้ามคานออกไป

ช่วงท้ายเกมก็ผลัดกันบุกไปมา โดยสเปอร์สมีโอกาสได้ลุ้น เพราะจังหวะเข้าทำจะแจ้งกว่า รวมทั้งลูกฟรีคิกของเบลที่โดนเช็กปัดป้องเอาไว้ได้อีก แต่สุดท้ายไม่มีการทำประตูกันเพิ่ม จบ 90 นาทีทั้งสองทีมเสมอกันไปที่สกอร์ 0-0

ซึ่งนี่ทำให้สเปอร์สมีคะแนนเพิ่มเป็น 55 คะแนนเท่ากับอาร์เซนอลในอันดับที่ 3 แต่ประตูได้เสียด้อยกว่า

ส่วนเชลซีมีเพิ่มเป็น 50 คะแนน แต่ก็ไม่ได้บีบช่องว่างระหว่างพวกเขากับ "ไก่เดือยทอง" ให้น้อยลง ซ้ำยังมีโอกาสโดนนิวคาสเซิ่ลเขี่ยหลุดที่ 5 ด้วย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 


เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล, โจเซ่ โบซิงวา(ลูอีซ น.60), แฟรงค์ แลมพพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง(ตอร์เรส น.76), ดาเนียล สเตอร์ริดจ์(กาลู น.89), รามิเรส, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ฆวน มาต้า

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : ฟลอร็องต์ มาลูด้า, รอส เทิร์นบูลล์, จอห์น โอบี มิเกล, ราอูล เมเรเลส

ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส : แบรด ฟรีเดล, ยูเนส กาบูล, วิลเลี่ยม กัลลาส, เบนอต์ อัสซู เอก็อตโต้, ไคล์ วอล์คเกอร์, ซานโดร(ลิเวอร์มอร์ น.77), สก็อตต์ ปาร์คเกอร์, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ต(ซาฮา น.76), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

ตัวสำรองที่ไม่ได้ลง : เจอร์เมน เดโฟ, คาร์โล คูดิชินี่, นิโก้ ครันชาร์, ไรอัน เนลเซ่น, แดนนี่ โรส
Thank you for visited me, Have a question ? Contact on : youremail@gmail.com.
Please leave your comment below. Thank you and hope you enjoyed...

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น