Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ค้นหาบล็อกนี้

คลังไฮไลท์แมตช์

ไฮไลท์แมตช์ นาโปลี VS กายารี่ Series A Italy - นาโปลีเหี้ยมเผากายารี่ 6-3 1bet 10/03/2555

วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2555



นาโปลี เก็บชัยชนะเป็นเกมที่ 5 ติดต่อกันในศึกเซเรีย อาเข้าไปแล้ว ล่าสุดเปิดรังซานเปาโล ถล่มกายารี่ 6-3 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา 


วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2555


ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา
นาโปลี 6 - 3 กายารี่






นาโปลี ชนะมาแล้วสี่เกมติดกัน โดยวอลเตอร์ มาซซาร์รี่ เทรนเนอร์มาดแว่นดุ เกมนี้ตัดสินใจพัก เอดินสัน คาวานี่ ดาวยิงอุรุกวัยไว้เป็นแค่สำรองข้างสนาม โดยส่ง โกรัน ปานเดฟ ลงเล่นแทน และยังได้ ซัลวาตอเร่ อโรนิก้า พ้นโทษแบนกลับมาอีกราย ส่วนทีมเยือน กายารี่ เกมนี้ อันเดรีย คอสซู เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น


เล่นไปแค่ 10 นาที นาโปลีออกนำ 1-0 จากจังหวะที่อินเลอร์ไหลสั้นให้ฮัมซิค ซึ่งหันหลังให้ประตู พลิกบอลหนีกองหลัง ก่อนกระชากเข้าเขตโทษฝั่งขวา แล้วสับไกเรียดเสาเสาสองอย่างแม่นยำ


นาโปลีเหนือกว่า นาที 19 ขยับหนีเป็น 2-0 ลาเวซซี่เปิดฟรีคิกทางฝั่งขวา บอลเลยมาเสาสอง เปาโล คันนาวาโร่ สอดเข้ามาโหม่งกดลงพื้น บอลกระเด้งชนใต้คาน ผ่านเส้นประตูเข้าไป


ยิ่งเล่นยิ่งเหนือกว่า นาที 30 จอมบุกจากเนเปิ้ลส์ทิ้งห่างเป็น 3-0 ลาเวซซี่เปิดบอลจากฝั่งขวายัดมาเสาแรก ดาวิเด้ อัสตอรี่ แหย่ขาสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้าย


กายารี่ยังไม่ยอมแพ้ นาที 37 ไล่มาเป็น 1-3 เมื่อได้ฟาวล์ทางกราบขวา คอนติเปิดไปหน้าประตูให้ ฆัวกิน ลาร์ริเวย์ สะบัดเล่นทาง เสียบเสาสองเข้าไปสวยงาม จบครึ่งแรก นาโปลีนำอยู่ 3-1


เข้าสู่ครึ่งหลังได้ 6 นาที อัซซูร่า ได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษเยื้องมาทางซ้าย วอลเตอร์ การ์กาโน่ เขี่ยสั้นๆให้กับ ลาเวซซี่ ปั่นโค้งบอลหลุดเสาสองไป


อย่างไรก็ตาม นาโปลี มาได้ประตูที่สี่จนได้จากจังหวะที่ เอเซเกล ลาเวซซี่ กระชากเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วโดน มิเคเล่ คานินี่ กองหลังกายารี่ พุ่งเข้าเสียบจนร่วง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ เอเซเกล ลาเวซซี่ ลุกขึ้นมาสังหารเองซัดด้วยขวาเข้าไปอย่างเด็ดขาดให้เจ้าบ้านนำขาด 4-1 ในนาทีที่ 56


จากนั้น อัซซูร่า ดึง ลาเวซซี่ ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมนี้ออกมาพัก แล้วให้ เอดินสัน คาวานี่ ลงมาเล่นบ้าง ในนาทีที่ 59
        
นาทีต่อมา การ์กาโน่ กองกลางเจ้าบ้านลองกระหน่ำด้วยขวาจากระยะไกลบอลไม่เข้ากรอบ นาทีเดียวกันนั้น นาโปลี เปลี่ยนเอา คริสเตียน มาจโจ้ ลงเล่นแทน มาเร็ค ฮัมซิค


นาโปลี มาได้ประตูที่ห้าในนาทีที่ 70 เมื่อ คาวานี่ ได้บอลทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วดึงกลับมาจ่ายย้อนให้กับ วอลเตอร์ การ์กาโน่ เพื่อนร่วมชาติที่เติมขึ้นมายกบอลหลบกองหลังกายารี่ แล้วฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายส่งบอลเสียบตาข่ายอย่างสุดงามให้ อัซซูร่า นำขาด 5-1 แล้ว


กระนั้นก็ดี เป็น กายารี่ ที่ไม่ท้อไล่ขึ้นมาเป็น 2-5 ในนาทีที่ 77 จากจังหวะที่ เซกุนโด้ อิบาร์โบ ล็อคไปล็อคมาตรงกรอบเขตโทษด้านขวา แล้วตวัดเข้ากลางให้กับ ฆัวกิน ลาร์ริเวย์ โผนขึ้นโหม่งส่งบอลเช็ดเสาในเข้าไป เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ มีลุ้นทำแฮททริคแล้ว


ท้ายเกม นาโปลี มาได้ประตูที่หกในนาที 84 จากจังหวะที่ มอร์แกน เด ซานช์ติส นายทวารเจ้าบ้านเตะเปิดเกมยาวขึ้นหน้ามา โกรัน ปานเดฟ แย่งโหม่งกับกองหลังกายารี่ ก่อนที่ ปานเดฟ จะได้บอลแล้วม้วนจ่ายเข้าช่องขึ้นหน้าให้กับ คริสเตียน มาจโจ้ ที่เติมขึ้นมายิงเล่นทางเสียบเสาสองเข้าไปให้ นาโปลี นำหายห่วง 6-2


ทีมเยือนมาได้ประตูตามเป็น 3-6 นาทีที่ 90 จาก ฆัวกิน ลาร์ริเวย์ และนับเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมอีกด้วยแต่ก็ไม่ดีพอเมื่อจบเกม นาโปลี เปิดบ้านต้อน กายารี่ กระจาย 6-3 เก็บชัยชนะเป็นนัดที่ 5 ติดต่อกันในลีก



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นาโปลี : มอร์แกน เด ซานช์ติส - ฮูโก้ คัมปากาโน่, เปาโล คันนาวาโร่, ซัลวาตอเร่ อโรนิก้า - วอลเตอร์ การ์กาโน่, โกคาน อินเลอร์, ฮวน คามิโล่ ซุนญิก้า, อันเดรีย ดอสเซน่า - มาเร็ค ฮัมซิค, เอเซเกล ลาเวซซี่ - โกรัน ปานเดฟ


กายารี่ : ไมเคิ่ล อากัซซี่ - ฟรานเชสโก้ ปิซาโน่, มิเคเล่ คานินี่, ดาวิเด้ อัสตอรี่, อเลสซานโดร อกอสตินี่ - ดานิเอเล่ เดสเซน่า, ดานิเอเล่ คอนติ, รัดย่า เนียงโกลัน, อัลบิน เอ็กดาล - เซกุนโด้ อิบาร์โบ, ฆัวกิน ลาร์ริเวรี่

ไฮไลท์คลิป มายุโรปได้แล้ว ! เนย์มาร์โชว์เหนือลากเลื้อยครึ่งสนาม 12bet 10/03/2555



 เนย์มาร์ กองหน้าดางรุ่งชาวบราซิลเลี่ยน โชว์พรสวรรค์ลูกหนังที่มีเต็มเปี่ยมออกมาให้แฟนบอลได้ยลกันอีกครั้งกับลีลาโซโล่เดี่ยวครึ่งสนามเข้าไปซัดอินเตอร์นาซิอองนาลได้ถึงสองตุงในเกมที่เขาซัดแฮตทริกาพาซานโต๊สถล่ม 3-1 ศึกโคปา ลิเบอร์ตาดอเรส เมื่อเช้าวันพุธที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา






ต้องคอยลุ้นกันว่าทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปทีมไหนที่จะได้ตัวจอมเลื้อยผู้นี้ไป โดยตัวเต็งคงหนีไม่พ้นเรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า สองทีมจากลา ลีกาลีก สเปน ที่ได้ชื่อว่าเป็นสองสโมสรที่ดีที่สุดในโลกเวลานี้ 

ไฮไลท์แมตช์ คิเอโว่ เวโรน่า VS อินเตอร์ มิลาน Series A Italy - ชนะแว้ว! แข้งฟ้าขาวเบิ้ลงูบุกฉกคิเอโว่ 2-0 12bet 10/03/2555



อินเตอร์ มิลาน สะกดคำว่าชนะเป็นเสียที หลังจากได้วอลเตอร์ ซามูเอล และดีเอโก้ มิลิโต้ สองนักเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ช่วยกันทำคนละประตูในช่วงท้ายเกมให้ งูใหญ่เอาชนะ "ม้าศึก" คิเอโว่ เวโรน่า 2-0 ในเกมกัลโช่ เซเรีย อา ประเทศอิตาลี่ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 9 มีนาคม 2555 


วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม2555 


ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี่
คิเอโว่ 0-2 อินเตอร์ มิลาน 








เริ่มเกมมาถึงนาที 14 อินเตอร์ที่ไม่ชนะใครมา 9 เกมรวดก็ได้จุดโทษจากจังหวะที่อาแชร์บี้ปราการหลังคิเอโว่ไปทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษทว่ามิฃิโต้ที่เป็นมือสังหารดันเท้าบอดซัดไปติดเซฟที่กลางประตูของซอร์เรนติโน่

"เนรัซซูรี่"ยังทำเกมได้เหนือกว่าจนนาที 19 ก็มีโอกาสจบสกอร์อีกครั้งเมื่อสไนจ์เดอร์ได้ครองบอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนหาเหลี่ยมบรรจงปั่นจากระยะ 20 หลาผ่านมือซอร์เรนติโน่ไปชนคานอย่างน่าเสียดายความงาม

สถานการณ์ของคิเอโว่ยังไม่ดีขึ้นเมื่อนาที 28 สแตนโควิชห้องเครื่องเลือดเซิร์บมาเก็บตกบอลได้ที่ระยะ 20 หลาก่อนตัดสินใจวอลเล่ย์เต็มข้อแหวกอากาศเหินข้ามคานออกไปอีก

ท้ายครึ่งแรกเกือบทางคิเอโว่ที่ได้ประตูนำไปก่อนหลังเปลลิสซิเย่ร์โชว์ความพริ้วลากบอลหนีกองหลังระดับโลกอย่างลูซิโอเข้าไปทางด้านขวาของเขตโทษก่อนกระทุ้งไปโดนเซซาร์สกัดเอาไว้ได้ ทำให้ยังเสมอกัน 0-0


กลับมาเล่นครึ่งหลังได้ถึงนาที 53 อินเตอร์ได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้ายแล้วก็เป็นจอมเตะลูกนิ่งอย่างสไนจ์เดอร์ที่เปิดบอลข้ามไปที่เสาไกลให้โปลีเข้าชาร์จเดี่ยวๆแต่เหยียดเท้าไปไม่ถึงบอล

หลังจากนั้นเป็นการดวลฟรีคิกกันระหว่างสองทีมโดย"งุใหญ่"ได้โอกาสก่อนในนาที 55 เมื่อสไนจ์เดอร์ปั่นฟรีจากระยะ 30 หลาหลุดกรอบไปไม่มาก ขณะที่นาที 79 แบรดลี่ย์ก็ได้อัดฟรีคิกข้ามคานออกไปเช่นกัน

ท้ายเกมอินเตอร์โหมบุกเข้าใส่อย่างหนักและน่าได้ประตูอย่างยิ่งในนาที 85 เมื่อสไนจ์เดอร์ซัดฟรีคิกไปโดนซอร์เรนติโน่ทุบทิ้งออกมาเข้าทางคัมบิอัสโซ่ได้ซ้ำดาบสองแต่เหินข้ามคานเฉยเลย

อีกสองนาทีถัดมาอินเตอร์มาได้ประตูที่พวกเขาต้องการจากจังหวะการเล่นลูกเตะมุมด้านขวาที่สไนจ์เดอร์เปิดเข้ามาให้ซามูเอลได้เทคตัวขึ้นโหม่งแบบไร้ตัวประกบเข้าไปตุงตาข่ายให้ทีมนำ 1-0

เท่านั้นนาทีสุดท้ายของเกมทางซาเน็ตติก็กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวาก่อนเปิดเข้าที่ปากประตูให้มิลิโต้เข้าโขกเต็มกบาลส่งบอลซุกก้นตาข่ายชนิดที่ซอร์เรนติน่าไม่อาจต้านทานได้เลย จบเกมอินเตอร์เอาชนะคิเอโว่ 2-0 ถือเป็นการคว้าชัยครั้งแรกในรอบ 10 นัดขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6 ของตาราง ส่วนผลอีกคู่นาโปลียำกายารี่ 6-3

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 


คิเอโว่ : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่, นิโคลัส เฟรย์, มาร์โก อันเดรโอลลี่, ฟรานเชสโก้ อาแชร์บี้, บูการี่ ดราเม่, ไมเคิ่ล แบร๊ดลี่ย์, ลูก้า ริโกนี่, ซิเกร่า ลูเซียโน่ (แปร์มาริม เฮเตมาจ น.72), เปาโล ซามมาร์โก้ (ดาริโอ ดาอิเนลลี่ น.61), ซีริล เธอโร่, แซร์โจ้ เปลลิสซิเย่ร์ (ดาวิเด้ มอสคาร์เดลลี่ น.77)

อินเตอร์ มิลาน : ชูลิโอ เซซ่าร์, ดั๊กลาส ไมค่อน, ลูซิโอ, วอลเตอร์ ซามูเอล , ยูโตะ นากาโตโมะ, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ , อันเดรีย โปลี (เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ น.84), เดยัน สแตนโควิช, เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ , ดิเอโก้ ฟอร์ลัน (จามเปาโล ปาซซินี่ น.71), ดิเอโก้ มิลิโต้ 

ไฮไลท์คลิป เจ็บมั้ยนั่น! ป้ายไฟเปลี่ยนตัวหล่นใส่เท้าป๋า 12bet 10/03/2555



เกมแพ้ยังไม่พอ ดันเจ็บตัวอีกต่างหาก สำหรับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในแมตช์ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านแพ้แอธเลติก บิลเบาไป 3-2 ในเกมยุโรป้า ลีกเมื่อคืนวันพฤหัสฯที่ผ่านมา






เรื่องเกิดขึ้นในขณะที่สกอร์เสมอ 1-1 ในครึ่งหลังแล้ว ขณะที่เรเน มิวเรนสตีน หนึ่งในสต๊าฟโค้ชผีแดง รับป้ายไฟดิจิตอลและจะส่งให้ท่านเซอร์ แต่ว่าตอนส่งดันทำตกลงที่เท้าเข้าให้ ทำเอาป๊ะป๋าแห่ง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถึงกับต้องทาถูๆ ไปหลายวินาทีเลยทีเดียว 

ไฮไลท์คลิป เตเวซเคาะสนิมกับทีมสำรอง"เรือใบ" ยิงเจ๊าโบลตัน 1-1 1bet 09/03/2555

วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2555



คาร์ลอส เตเวซ ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนตินาของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากหายหน้าหายตาไปจากทีมกรณีเกาเหลากับนายใหญ่ โรแบร์โต มันชินี เป็นเวลานานกว่า 5 เดือน จนล่าสุดหลังเคลียร์ปัญหาคาใจกับต้นสังกัดแมนฯซิตี จนเป็นที่เข้าใจกันแล้วเขาก็หวนคืนถิ่นเอติฮัดอีกครั้ง เริ่มเตรียมความพร้อมเรียกความฟิตลงเตะกับทีมสำรองก่อนมาโอกาสแทรกคืนสู่ทีมชุดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง




       
กับเกมเตะในทีมสำรองนัดล่าสุด เตเวซ ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับ โบลตัน ท่ามกลางสายตาแฟนบอลที่ติดตามชมประมาณ 1,000 คน ในครึ่งแรกเขามีโอกาสลุ้นยิงประตู 2 จังหวะทั้งลูกยิงหลุดกรอบประตูและจังหวะยิงฟรีคิก ก่อนที่ครึ่งเวลา เตเบซ จะช่วยทีมยิงลูกตีเสมอ 1-1 ในนาที 51 หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกเปลี่ยนตัวออกไป



ไฮไลท์แมตช์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด VS แอธเลติก บิลเบา Europa League ผีเน่าเปิดรังพ่ายบิลเบาคาบ้าน 3-2 12bet 09/03/2555



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกที่นั่งลำบากในศึกยูโรป้า ลีกอีกครั้ง คราวนี้ปีศาจแดงโดน แอธเลติก บิลเบา ทีมเยือนจากลา ลีกา บุกมาเผาเครื่องไปก่อนในเกมแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย 3-2 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา


วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 


ฟุตบอลยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย 
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3 แอธเลติก บิลเบา






จบเกมก่อนหน้า ทีม "เรือใบสีฟ้า" เพื่อนร่วมเมืองของปีศาจแดง เป็นฝ่ายปราชัยต่อสปอร์ติ้ง ลอสบอนไปก่อนแล้ว 1-0


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีข่าวดีเรื่องตัวผู้เล่นเมื่ออันแดร์สันฟื้นจากการบาดเจ็บที่หัวเข่ากลับมาเป็นตัวเลือกอยู่ข้างสนามเป็นหนแรกในรอบ 4 เดือน เช่นเดียวกับพวกที่ไปรับใช้ชาติมาอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิ่ล คาร์ริคและหลุยส์ นานี่ที่ได้ออกสตาร์ทด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมนี้ 


เกมในช่วงต้นทั้งสองฝ่ายเปิดฉากรุกเข้าใส่กันทันทีโดยแมนฯยูได้โอกาสก่อนในนาที 4 จากจังหวะที่ชิชาริโต้แทงบอลทะลุช่องให้กิ๊กส์หลุดเข้าไปซัดทางด้านซ้ายของเขตโทษแต่ติดบล็อกซาน โฆเซ่ ขณะที่นาทีถัดมาญอเรนเต้โชว์ความยอดเยี่ยมหน้าเขตโทษด้วยการใช้ความใหญ่ของร่างกายพาบอลพลิกหนีแนวรับเจ้าบ้านจนได้วางเท้ายิงหลุดเสาขวาออกไปนิดเดียว

หลังปล่อยให้บิลเบาทำเกมบุกอยู่พักใหญ่ทาง"ปีศาจแดง"ก็โชว์ความเฉียบขาดออกมาให้เห็นเมื่อในนาที 23 กิ๊กส์ทำชิ่งกับชิชาริโต้จนสุดท้ายหัวหอกจังโก้ได้หลุดเข้าไปล็อคหลบแนวรับทีมเยือนในเขตโทษแล้วกดด้วยซ้ายไปติดเซฟอิไรซอสทว่ายังมีรูนี่ย์ที่วิ่งเข้ามาซ้ำดาบสองไม่เหลือซากให้ทีมขึ้นนำ 1-0


แต่บิลเบาก็ยังโหมบุกไม่หยุดเมื่อในนาที 37 อิราโอล่ากระชากบอลขึ้นมาสุดเส้นด้านขวาก่อนล็อคหลบจี-ซองที่วิ่งเข้ามาสกัดแล้วสับไกยิงด้วยอีซ้ายไปที่โคนเสาแรกแต่เด เกอาไม่หลงรีบล้มตัวปัดบอลออกหลังประตูไปได้อย่างหวุดหวิด

แล้วบิลเบาก็มาทวงสกอร์คืนจนได้ในนาที 44 เมื่อญอเรนเต้ใช้ความหนาของร่างกายครองบอลในกรอบเขตโทษก่อนจ่ายให้เพื่อนพาบอลไปขึ้นเกมทางด้านขวาแล้วเป็นซูซาเอต้าที่เปิดกลับเข้ามาหน้าปากประตูให้"เอล เรย์ เลออน"โหม่งเต็มกบาลผ่านตัวเด เกอาเข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรกเลยเสมอกันที่ 1-1


นาทีที่ 56 คริส สมอลลิ่ง กองหลังปีศาจแดง เกิดศีรษะแตกเลือดออกไม่หยุด ทำให้ต้องเปลี่ยนเอา ไมเคิ่ล แคร์ริค ลงแทน แล้วถอย ฟิล โจนส์ กลับไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ


นาทีที่ 68 บิลเบา พลาดขึ้นนำไปอีก อิเคร์ มูเนียอิน ทำชิ่งหนึ่งสองกับเพื่อนแล้วหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปจิ้มด้วยซ้ายติดเซฟ เด เคอา


หลังโหมอยู่นานทำนบของ "ปีศาจแดง" แตกจนได้นาที 72 เมื่อ บิลเบา ทำชิ่งสวยหน้าเขตโทษสุดท้ายเป็น อันเดร์ เอร์เรร่า ยกบอลข้ามแนวรับเจ้าบ้านให้ ออสการ์ เด มาร์กอส พลิกยิงด้วยซ้ายจังหวะแรกเสียบเสาสองสุดสวยเป็น 2-1


ซ้ำร้ายไปกว่านั้นบิลเบามาได้ประตูขึ้นนำ 3-1 การเข้าซ้ำดาบสองของ  อิเคร์ มูเนียอิน แต่อีกสองนาทีต่อมาผีแดงก็มาได้ประตูตีเป็น 2-3 จากการสังหารลูกที่จุดโทษของ เวย์น รูนี่ย์ และเป็นประตูที่สองในเกมของเจ้าตัวอีกด้วย


ช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่เหลือผีแดงโหมบุกอย่างหนักเพื่อหวังทวงประตูตีเสมอแต่ไม่เป็นผลจบเกม แอธ.บิลเบา บุกพลิกเชือด แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 กุมความได้เปรียบไว้ได้ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้แมนฯ ยู ยกพลไปแก้ตัวในสัปดาห์หน้าต่อไป

ไฮไลท์แมตช์ สปอร์ติ้ง ลิสบอน VS แมนเชสเตอร์ ซิตี้ Europa League เรือเจ๊งชัยบุกพ่ายลิสบอน 1-0 16 ทีมยูโรป้าฯ



สปอร์ติ้ง ลิสบอน กุมความได้เปรียบเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี หลังจากเฝ้ารังเฉือนชนะ 1-0 โดยได้ประตูชัยในช่วงต้นครึ่งหลังจาก ซานเดา ในศึกฟุตบอลยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา


วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม 2555


ฟุตบอลยูโรป้า ลีก
สปอร์ติ้ง ลิสบอน 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้




       
ฟุตบอลถ้วยใบรองของยุโรป สปอร์ติง ลิสบอน ทีมดังจากโปรตุเกสลงเล่นในถิ่นเอสตาดิโอ โชเซ อัลวาลาด ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 


เริ่มเกมมาทาง"เรือใบสีฟ้า"ที่ดูจะเป็นฝ่ายบุกได้มากกว่าก็ต้องมาใช้โควต้าเปลีย่นตัวแต่หัววันเลยหลังกอมปานีเจ็บเตะบอลทิ้งเองก่อนจะเปลี่ยนให้เลสคอตต์ลงสนามลงมาแทน


เกมมาถึงนาที 23 ทีมเยือนจากเมืองผู้ดีมีโอกาสได้ครองบอลลุยเข้าใส่เยอะกว่าก็มาได้ลุ้นอีกแล้วจากจังหวะที่ซิลบาจะแหวกจากริมเขตโทษทางซ้ายเข้ามาแต่เจอสกัดไว้ บอลยังไหลมาเข้าทางแบร์รี่กลางประตูวิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลเลี้ยวหลุดเสาแค่นิดเดียว


ช่วงท้ายครึ่งแรกสปอร์ติ้งมีโอกาสได้บุกกดันเข้าใส่ชุดใหญ่และมีเสียวเหมือนกันจากเฟร์นานเดซที่ได้บอลทางขวาก่อนพลิกหนีโคลารอฟมาได้สวยแล้วพาเข้าเขตโทษก่อนจะสับหลอกเลสคอตต์แล้วยิงแต่ยังติดบล็อก ทำให้จบครึ่งเวลาแรกโดยยังเสมอกันอยู่ 0-0

ประตูเดียวที่เกิดขึ้นในเกมนี้เป็นของเจ้าบ้านในนาทีที่ 51 เมื่อ มาติอัส เฟอร์นานเดซ ยิงฟรีคิกถูก โจ ฮาร์ท ปัดออกมาเข้าทาง ซานเดา ตามซ้ำก็ยังโดนเซฟอีก แต่ดาบสุดท้าย ซานเดา จัดการตอกลูกส้นเสียบเสาแรกเข้าไป


เจ้าบ้านเกือบจะได้ประตูที่สองเสียแล้วจากการยกบอลข้ามแผงแนวรับแมนฯ ซิตี้ให้กับอินซัวหลุดเข้าเขตโทษแบบโล่งๆไร้ตัวประกบก่อนจะเล็งแล้วจ่ายมาให้โวลฟ์วินเคิลได้แปเน้นๆแต่เบาไปและมุมไม่ดีพอเจอฮาร์ทเซฟเอาไว้ได้


นาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลาแมนฯ ซิตี้เกือบได้ประตูอีกแล้วโดยเป็นกลิชี่ที่พาบอลจากขวาเลี้ยงตัดเข้าในมาแล้วส่องไกลติดบล็อก บอลกระดอนไปเข้าทางอเกวโร่ยกบอลข้ามปาทริซิโอ้ไปแล้วแต่ยังเจอนักเตะลิสบอนวิ่งมาขวางทัน พยายามฟ้องเอาแฮนด์บอลแต่กรรมการก็ไม่ได้ให้อะไร
       
ครบ 90 นาที สปอร์ติง ลิสบอน จึงเป็นฝ่ายเฉือนชนะ 1-0 กุมความได้เปรียบก่อนออกไปเยือน “เรือใบสีฟ้า” ที่สนามเอติฮัด สเตเดียม บ้างในนัดที่สอง วันที่ 15 มีนาคมนี้
       
ผลฟุตบอลยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-0
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) ชนะ เบซิคตัส (ตุรกี) 3-1
เอฟซี ทเวนเต (ฮอลแลนด์) ชนะ ชาลเก 04 (เยอรมนี) 1-0
เมตาลิสต์ คาร์คีฟ (ยูเครน) แพ้ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 0-1

ไฮไลท์คลิป ร็อดคิกเกือบงานเข้าปาไม้เฉี่ยวหัวบอลเกิร์ล 12bet 09/03/2555



"เอ ร็อด" แอนดี้ ร็อดดิค มีเสียว ระหว่างการแข่งกับโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หลังมือหวดมะกันคิดจะหยอกล้อ เฟด เอ๊กซ์ ด้วยการปาแร็คเก็ตเข้าใส่ เพราะเกือบไปโดนบอลเกิร์ล ที่วิ่งเข้ามาในคอร์ต






แอนดี้ ร็อดดิก นักหวดชาวสหรัฐฯ มีคิวดวลเทนนิสแมตช์พิเศษกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่เมดิสัน สแควร์ การ์เด็น ท่ามกลางสายตาแฟนเทนนิสที่เข้าชมเต็มพื้นที่ แต่ ร็อดดิก เกือบทำให้สาวบอลเกิร์ลรายหนึ่งต้องเจ็บตัวในช่วงปลายเซทแรก จากจังหวะ เฟเดอเรอร์ โชว์ตีลูกรอดขาโต้กลับไปทางฝั่ง ร็อดดิก 


ทำให้จอมหวดชาวมะกันขอเอาคืนด้วยการตีลูกรอดขาสวนกลับไปแต่ลูกติดเน็ตทำให้ ร็อดดิก กะหยอก เฟเดอเรอร์ ตามน้ำด้วยการขว้างแร็กเก็ตเข้าใส่แต่เขาลืมดูไปว่ามีบอลเกิร์ลสาววิ่งเข้ามาเก็บลูกเทนนิสพอดี นับว่ายังโชคดีไม้เทนนิสไม่พุ่งเข้าใส่สาวบอลเกิร์ลผู้เกือบโชคร้าย ส่วน 2 นักเทนนิสชายต่างก็แสดงท่าทีหวดเสียวลุ้นสาวบอลเกิร์ลไปตามกันว่าจะโดนลูกหลงหรือไม่

บุรีรัมย์สุดเจ๋ง!คว่ำเรย์โซลเร้าใจ3-2เอเอฟซีชปล. 12bet 08/03/2555

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

  ฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช
วันพุธที่ 7 มีนาคม 2555
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) 3-2 คาชิวา เรย์โซล (ญี่ปุ่น) 

        "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก โชว์ฟอร์มสุดยอด!พลิกเอาชนะ คาชิวา เรย์โซล ดีกรีแชมป์เจลีก จากญี่ปุ่น อย่างสะใจกองเชียร์ 3-2 คว้า 3 แต้มแรกได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดแรก ที่สนามไอโมบาย สเตเดี้ยม
                                                    

สนาม : ไอโมบาย สเตเดี้ยม

     การแข่งขันฟุตบอลฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอช นัดแรก ซึ่งเป็นการโคจรมาพบกันระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก พบกับ คาชิวา เรย์โซล แชมป์เจลีก จากประเทศญี่ปุ่น


     "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำโดย "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม วางแผนเกมนี้โดยจัดทัพในระบบ 4-4-2 มี ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เฝ้าเสา แบ็กซ้ายใช้งาน ธีราทร บุญมาทัน คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเป็น เฮอร์มาน เยเวเส เป็นแกนหลักคู่กับ ประทุม ชูทอง แบ็กขวา อภิเชษฐ์ พุฒตาล ลงล็อกในตำแหน่งที่ถนัด


     แดนกลางวาง อัสคาร์ จาดิเกรอฟ นักเตะชาวอุซเบกิสถาน ซึ่งเพิ่งย้ายมาจาก บุนยอดกอร์ ได้ลงเล่นผนึกกำลังร่วมกับสตาร์ชาวไทย ทั้ง สุเชาว์ นุชนุ่ม, จีระวัตน์ มัครมย์ และ จักรพันธ์ แก้วพรม ขณะที่คู่หัวหอกยังเป็น "2 แฟร้งค์"  โอแฮนด์ซ่า กับ อาเชียมปง ทะลวงตาข่าย


     ทางฟาก เนลสัน บาติสต้า เฮดโค้ชของทีมคาชิว่า เรย์โซล ก็จัดชุดที่ดีที่สุดลงสนามเช่นกัน



เกมช่วง 5 นาทีแรกยังคงสูสี ทั้งสองฝ่ายพยายามเน้นครองบอลในแดนกลาง

 มา ถึงนาทีที่ 11 กองเชียร์ "ประสาทสายฟ้า" ก็ดังกระหึ่ม! จกาจังหวะฟรีคิกทางขวาหน้าเขตโทษ และเป็น จิรวัฒน์ มัครมย์ ที่ปั่นด้วยขวาบอลข้ามกำแพงมุดเสาแรกตุงตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำแล้ว 1-0

หลังจากได้ประตูนำ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังครองเกมไว้ได้ดี เป็นฝ่ายกดดัน คาชิวา เรย์โซล ได้อย่างต่อเนื่อง

เกม สนุกทีเดียวทั้งสองทีมเน้นเกมรุกทั้งสองทีม แชมป์เจลีกเกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อได้จังหวะหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษทางซ้าย แต่หัวหอกคาชิวา เรย์โซล ยิงหักข้อหลุดกรอบออกไปนิดเดียว

เกมผ่านมา ครึ่งชั่วโมงแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เน้นทำเกมทางกราบสองข้างเป็นหลักสลับกับการทำเกมตรงกลางของ อัสคาร์ จาดิเกรอฟ ตัวรุกทีมชาติอุซเบกิสถาน

 นาที ที่ 38 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เฮ!กันอีกรอบเมื่อ อัสคาร์ จาดิเกรอฟ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษทางซ้าบก่อนแตะเข้าในและตัดสินใจปั่นด้วยขวาทันทีบอล ไซด์โค้งพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาสองเข้าประตูไปอย่างงามหยดย้อย สุดปัญญาที่นายทวาร คาชิวา เรย์โซล จะป้องกันได้ "ประสาทสายฟ้า" นำห่าง 2-0 อย่างน่าเซอร์ไพรซ์

เวลาที่เหลือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คุมสถานการณ์ไว้ได้หมดก่อนหมดเวลาแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ คาชิวา เรย์โซล 2-0

เริ่ม ขึ้นหลังเกมยังเปิดแลกกันอย่างสนุก โดย เจ้าถิ่น ได้ทักทายก่อนจากการยิงไกลของ สุเชาว์ นุชนุ่ม ที่วันนี้ถูกดันสูงให้มาเล่นกองหน้า แต่บอลเหินข้ามคานไปไกล

 แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาพลาดจนได้ในนาทีที่ 54 เมื่อโดน คาชิวา เรย์โซล ตีไข่แตกตามมาเป็น 1-2 จากจังหวะ ขึ้นเกมทางกราบขวาของ โลโบ้ ตัวสำรอง ก่อนตะลุยลากถึงเส้นหลังเปิดเรียดหักเข้ามากลางเขตโทษและเป็น จิย่า ทานากะ หัวหอกตัวเก่งเข้าฮอสยิงโล่งๆ ตุงตาข่าย

แม้โดนไล่มา แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังเน้นเกมบุกต่อเนื่องและได้ลุ้นทำประตู 2 จังหวะซ้อนจากฟรีคิกของ จิรวัฒน์ มัครมย์ กับหลุดเข้าไปยิงของ อัสคาร์ จาดิเกรอฟ แต่ยังไม่สำเร็จผล

 บุกอยู่ เพลินมาโดนตีเสมอจนได้จากลูกเซตเพลย์ของ คาชิวา เรย์โซล ทางขวาใกล้กับมุมธงเปิดมาในเขตโทษและเป็น ซากาอิ ปราการหลังขึ้นสูงก่อนเทกตัวเหนือกองหลังและโหม่งเหน่งๆ บอลพุ่งผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ย้อนไปทางเสาแรกเข้าประตูไปในนาทีที่ 64 แชมป์เจลีกตีเสมอแล้ว 2-2

 "ปราสาทสายฟ้า" เปลี่ยนตัวทันทีโดยส่ง สุมัญญา ปุริสาย ลงมาแทน อัสคาร์ จาดิเกรอฟ ที่เริ่มหมดแรง ในนาทีถัดมา

 เสียง เชียร์กระหึ่มทั้งสนามไอโมบาย สเตเดี้ยม เมื่อ จิรวัฒน์ มัครมย์ ลุยมาจากกลางสนามก่อนทำชิ่งในเขตโทษกับ แฟร้งค์ อาเชียมปง ก่อนที่ จิรวัฒน์ มัครมย์ จะได้ซัดเต็มข้อบอลพุ่งแสกหน้ามือกาวของทีมเยือนตุงตาข่ายอย่างสุดแรงเกิด เป็นประตูที่ 2 ของ จิรวัฒน์ มัครมย์ ด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำอีกครั้ง 3-2 อย่างสะใจกองเชียร์เซาะกราว ในนาทีที่ 77

เกมเข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย คาชิวา เรย์โซล โหมบุกหนักแต่แนวรับของเจ้าถิ่นยังมีวินัยช่วยกันสกัดคุมโซนไว้ได้ โดยทิ้ง แฟร้งค์ อาเชียมปง กับ แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า เป็นตัวขู่แผงหลังทีมเยือนในจังหวะโต้กลับ

ในช่วงทดเจ็บ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นิ่งคุมเกมไว้ได้หมดก่อนปิดเกมเอาชนะไปอย่างสวยงาม 3-2 ประเดิม 3 แต้มแรกในศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่น

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด :
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, ประทุม ชูทอง, เฮอร์แมน วายเวส, ธีราทร บุญมาทัน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, อัสคาร์ จาดิเกรอฟ, จักรพันธ์ แก้วพรม, จิรวัฒน์ มัครมย์, แฟร้งค์ อาเชียมปง, แฟร้งค์ โอแฮนด์ซ่า          

ม้าลายเอาตัวรอด!ฮึดตีเจ๊าโบโลญญ่า1-1 12bet 08/03/2555

ฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
วันพุธที่ 8 มีนาคม 2555
โบโลญญ่า 1 - 1 ยูเวนตุส


        มีร์โก วูชินิช ช่วยชีวิต "ม้าลาย" ยูเวนตุส หลังซัดประตูช่วงครึ่งหลังตีเสมอ โบโลญญ่า 1-1 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูจากกองหน้าตัวเก่ง มาร์โก ดิ วาโญ่ คนเดิม ทำให้ ยูเว่ รั้งอันดับ 2 ของตารางเหมือนเดิม ตามหลัง เอซี มิลาน 2 คะแนนด้วยเกมที่เท่ากันแล้ว ศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันพุธที่ 8 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา

สนาม  : สตาดิโอ เรนาโต้ ดัลลาร่า

        โบโลญญ่า เจองานหนักในการเปิด สตาดิโอ เรนาโต้ ดัลลาร่า รอรับ ยูเวนตุส เจ้าถิ่นมีตัวทีเด็ดอยู่ที่สามประสานแนวรุก กัสตอน รามิเรซ, อเลสซานโดร เดียมานติ และ มาร์โก ดิ วาโญ่ ส่วนทีมเยือนเจอปัญหาแนวรับที่ อันเดรีย บาร์ซาญี่ กับ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ เจ็บ ทำให้เลือกใช้ มาร์ติน กาเซเรส และ เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่ เป็นคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ แต่ยังได้ อาร์ตูโว่ วิดาล กับ ซิโมเน่ เปเป้ พ้นแบนกลับมา

        เริ่มเกม มา "ม้าลาย" ได้โอกาสทันที เปเป้ จ่ายให้ มาร์โก บอร์ริเอลโล่ เลี้ยงจากขวาตัดเข้าในแล้วกดด้วยซ้าย แต่ ฌอง ฟร็องซัวส์ ชิลเล่ต์ ยังล้มตัวรับเข้าซอง

        ยูเว่ มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย อันเดรีย ปีร์โล่ ซัดแฉลบกำแพงเปลี่ยนทางออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น

        กลับ เป็น "รอสโซ่บลู" ที่มาได้ประตูไปก่อนในนาทีที่ 17 เมื่อ รามิเรซ จ่ายทะลุช่องให้ ดิ วาโญ่ หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปยิงสวน จานลุยจิ บุฟฟ่อน ไม่เหลือ ขึ้นนำ 1-0

        เจ้าบ้านเริ่มได้ใจ กอร์กี้ การิชส์ ไหลออกขวาให้ ดิ วาโญ่ ปาดเรียดเข้ากลาง การิชส์ จับบอลไม่ดี พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

        เกมของผู้มาเยือนยังไม่ดีขึ้น ต้องอาศัยการยิงไกลจาก วิดาล แต่หลุดออกหลังไปไกล จบ 45 นาทีแรก โบโลญญ่า ออกนำไปก่อน 1-0

        ครึ่ง หลัง "เบียงโคเนรี่" บุกมากขึ้น และมาตีเสมอเป็น 1-1 ในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ ปีร์โล่ แทงทะลุช่องให้ มีร์โก วูชินิช หลุดเข้าไปชิพข้าม ชิลเล่ต์ ตุงตาข่าย

        ถัดมาไม่นาน ยูเว่ เกือบพลิกแซง เมื่อ เปเป้ ครอสจากขวาให้ สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์ สะบัดศีรษะโหม่ง ชิลเล่ต์ ซูเปอร์เซฟได้ที่เสาแรก เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ตามซ้ำก็ไปติดนายทวารชาวเบลเยียมปัดออกหลังอีก

        นาทีที่ 69 เปเป้ ปาดเรียดจากขวาไปเสาแรกให้ บอร์ริเอลโล่ ชาร์จออกหลังไปไม่มาก

        จาก นั้น อันโตนิโอ คอนเต้ เทรนเนอร์ ยูเว่ มาโดนไล่ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ หลังประท้วงผู้ตัดสินจากจังหวะที่ไม่เป่าให้จุดโทษเมื่อ เปาโล เด เชเญ่ โดนดึงล้มลงในกรอบเขตโทษ

        อย่างไรก็ตาม ทีมเยือนต้องมาเหลือ 10 คนในนาทีที่ 84 หลัง โบนุชชี่ ไปทำฟาวล์ รามิเรซ เชิ้ตดำชักใบเหลืองที่สอง เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม

        ช่วงเวลา ที่เหลือทั้งสองทีมยังพยายามบุกหวังจะเอาประตูชัยกันให้ได้ แต่ไม่เป็นผล จบเกมจึงเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ทำให้ ยูเว่ รั้งอันดับ 2 ของตารางเหมือนเดิม ตามหลัง เอซี มิลาน 2 คะแนนด้วยเกมที่เท่ากันแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
โบโลญญ่า :
ฌอง ฟร็องซัวส์ ชิลเล่ต์; อันเดรีย ราจจี้, ดานิเอเล่ ปอร์ตาโนว่า, มิคาเอล อันตอนส์สัน; กอร์กี้ การิชส์ (พานากิโอติส โคเน่ น.66), ดีเอโก้ เปเรซ, กาบี้ มูดินกายี่, มัตเตโอ รูบิน (อิซัค เบลโฟดิล น.87); กัสตอน รามิเรซ, อเลสซานโดร เดียมานติ (นิโก้ ปุลเซ็ตติ น.66); มาร์โก ดิ วาโญ่
ยูเวนตุส : จานลุยจิ บุฟฟ่อน; สเตฟาน ลิคท์สไตเนอร์, มาร์ติน กาเซเรส, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, เปาโล เด เชเญ่; อาร์ตูโร่ วิดาล, อันเดรีย ปีร์โล่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ; ซิโมเน่ เปเป้ (ซิโมเน่ ปาโดอิน น.85), มาร์โก บอร์ริเอลโล่ (ฟาบิโอ กวายาเรลล่า น.79), มีร์โก วูชินิช (เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ น.78)

สรุปผลฟุบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
- เชเซน่า เสมอ คาตาเนีย 0-0
- ปาร์ม่า เสมอ ฟิออเรนติน่า 2-2
- โบโลญญ่า เสมอ ยูเวนตุส 1-1

ไฮไลท์แมตช์ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ VS เชลซี FA Cup - สิงห์ลิ่ว 8 ทีม บุกตบลูกโลกชิลๆ 2-0 12bet 07/03/2555

วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555



สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี คลายความกดดันหลังปลดกุนซือออกไปแล้ว ล่าสุดยกพลออกไปโค่น เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ แบบสบายใจ 2-0 ในเกมเอฟเอ คัพ รอบห้า นัดรีเพลย์ เมื่อคืนวันอังคารที่ 6 มีค ที่ผ่านมา


วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2555


ฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม 0 -2 เชลซี 






เกมนี้ใครชนะจะเข้าไปพบกับเลสเตอร์ ซิตี้ที่รออยู่แล้ว เจ้าถิ่นเบอร์มิ่งแฮมมีปัญหานักเตะบาดเจ็บค่อนข้างเยอะ ไม่มีชื่อของแข้งเก๋าอย่างสตีเฟ่น คาร์และสตีฟคาล์ดเวลล์ลงสนามแต่แนวรุกยังมีนาธาน เร้ดมอนด์และหอกตัวเก๋านิโกล่า ซิกิชลงล่าตาข่าย 


ขณะที่เชลซีเป็นนัดแรกที่ลงเล่นหลังปลดอังเดร วิลลาส โบอาสออกจาตำแหน่งโดยมีโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอคุมทีมแทนส่งตอร์เรสยืนเป็นหน้าเป้าและในม้านั่งสำรองมีแข้งเก๋าทั้งจอห์น เทอร์รี่, แฟร้งก์ แลมพาร์ดและดิดิเยร์ ดร็อกบานั่งรอโอกาสอยู่

เพียงแค่ 2 นาที"สิงห์บลู"ก็ได้ลุ้นก่อนจากบอลยาวให้กับมาต้ารับไว้ได้ก่อนควบพาขึ้นไปในเขตโทษและตัดสินใจแปด้วยซ้ายเสาแรกแต่ยังติดมือของดอยล์เซฟออกหลังไป 


ยังคงเป็นทีมลูกโลกทำเกมเหนือกว่าไม่น่าเชื่อ โจนาธาน สเป็คเตอร์ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ทดสอบ ปีเตอร์ เช็ก ต่อด้วย ซิกิช จ่ายให้ เวด เอลเลียตต์ กดไปตรงตัวนายด่านเลือดเช็กเช่นกัน


ผ่านมาถึงท้ายครึ่งแรกนาที 40 เป็นโอกาสน่าได้สุดๆ แล้วสำหรับเบอร์มิงแฮมเมื่อ อดัม รูนี่ย์ ครอสจากขวามาหน้าประตูให้ ซิกิช สะบัดโขกกำลังจะเสียบใต้คาน ก่อนที่ เช็ก ซูเปอร์เซฟปัดปลายมือข้ามคานอย่างสุดยอด จากนั้น เชลซี มีลุ้นบ้างจาก มาต้า หวดด้วยซ้ายตรงตัว ดอยล์ หมดครึ่งแรกยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอ 0-0


เปิดฉากครึ่งหลังดูเหมือน ดิ มัตเตโอ แก้ลำมาดีได้ครองบอลมากกว่า จนมาขึ้นนำสมใจในนาที 54 รามิเรส ได้บอลลุยทางขวาป้ายเข้ากลางให้ กาลู จับบอลไม่ดียิงขลุกขลิกติดแนวรับ ก่อนที่ มาต้า จัดการกระทุ้งเผาขนด้วยขวาเข้าไปง่ายๆ 1-0


ถัดมาไม่กี่อึดใจ เชลซี ไม่ได้เพิ่มลูกสองทันควันอย่างน่าเสียดาย บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ครอสจากขวาเข้าหัว มาต้า โขกหลุดเสาไกลพลาดทำสกอร์ที่สองของตัวเองไปซะอย่างนั้น


อย่างไรก็ดี ดำเนินครบชั่วโมง ทีมเยือนก็ฉีกหนีเป็น 2-0 จนได้ จากการขึ้นบอลฝั่งเดิม บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เอี้ยวหลบแนวรับป้ายเข้ากลาง แกรี่ เคฮิลล์ ชิ่งจังหวะเดียวให้ รามิเรส ถ่ายกลับหลังสั้นๆ เข้าทางปืน ราอูล เมยเรเลส กระหน่ำเต็มแรงเสียบใต้คานแบบหมดสิทธิ์ป้องกันสำหรับนายด่านเจ้าถิ่น


นาที 70 เชลซีขว้างโอกาสทำสกอร์ทิ้งไปอีกแล้ว คราวนี้เป็นจุดโทษที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส หลุดเข้าไปโดน กีราน เอ็นเดาว์ สอยล้ม ทว่า มาต้า สังหารไม่ดีติดเซฟ ดอยล์ ก่อนที่ เคอร์ติส เดวิส หวดเคลียร์บอลทิ้งออกไป


ช่วงเวลาที่เหลือยังคงเป็นทีมสิงโตน้ำเงินครามครองบอลเหนือกว่าแต่ก็ไม่อาจยิงเพิ่มได้ จบเกม เชลซีบุกชนะเบอร์มิงแฮม 2-0 ส่งผลให้ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป โดยจะได้เปิดรังพบ เลสเตอร์ ซิตี้ คู่แข่งระดับแชมเปี้ยนชิพเช่นเดียวกัน ในวันอาทิตย์ที่ 18 มีนาคมนี้


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบอร์มิงแฮม : โคลิน ดอยล์ - โจนาธาน สเป็คเตอร์, ปาโบล อิบันเญซ, เคอร์ติส เดวิส, กีราน เอ็นเดาว์ - เนธาน เร้ดมอนด์, จอร์แดน มัทช์, มอร์กาโร่ โกมิส, เวด เอลเลียตต์ - อดัม รูนี่ย์, นิโกล่า ซิกิช


เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ราอูล เมยเรเลส - ซาโลมง กาลู, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ฆวน มาต้า

ไฮไลท์แมตช์ อาร์เซน่อล VS เอซี มิลาน Uefa Champions Leagueได้ใจโคตร!ปืนลุยแหลกคว่ำมิลาน 3-0 ส่งท้ายชปล. 12bet 07/03/2555



อาร์เซน่อล เล่นแบบได้ใจแฟนๆไปเต็มๆ หลัง เปิดบ้านถล่มเอซี มิลาน ไปได้ถึง 3-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปเมื่อคืนวันอังคารที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา  โดยรวมสกอร์สองนัดปีศาจ แดงดำ แห่งเซเรีย อา เป็นฝ่ายเข้ารอบไปด้วยประตูรวม 4-3


วันอังคารที่ 6 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกรอบ 16 ทีม 
อาร์เซน่อล 3-0 เอซี มิลาน  รวมสองเกมเอซี มิลาน เข้ารอบด้วยประตูรวม 4-3






เกมนี้อาร์เซน่อลไม่ต้องคิดอะไรมากมายเปิดเกมบุกอย่างเดียวเพราะต้องการผลชนะอย่างต่ำ 5-0 เพื่อพลิกเข้ารอบนัดนี้จึงส่งแชร์วินโญ่, แชมเบอร์เลนกลับมาลงเป็นตัวจริงอีกครั้งนึง

ส่วนมิลานที่ค่อนข้างจะลอยตัวแล้วหลังเก็บผลชนะในนัดแรกมาถึง 4-0 แต่ก็ยังไม่ประมาทมาครบทั้งโรบินโญ่และอิบราฮิมโมวิชที่ทำประตูในเกมดังกล่าวได้ทั้งคู่

เพียงแค่ 7 นาทีเจ้าบ้านคึกคักเสียแล้วหลังมาได้ประตูออกนำแต่หัววันเลยจากจังหวะเตะมุมของ"อ๊อคเหล็ก"เปิดเข้ามา แข้งปืนวิ่งหลอกเปิดทางให้กอสเซียลนี่หลุดมาได้เหลี่ยมโขกโดยทางอบาเต้มัวแต่ยืนดูไม่ยอมประกบ ทำให้อาร์เซน่อลนำไปแล้ว 1-0

แล้วอาร์เซน่อลคึกคักจริงๆมีโอกาสได้ยิงอีกแล้วจากโรซิคกี้ที่จ่ายออกทางขวาให้กับวัลคอตต์ทะลุขึ้นมาก่อนจะดึงจังหวะรอก่อนเปิดทะลุช่องเข้าเขตโทษให้กับฟาน เพอร์ซี่โฉบไปยิงมุมแคบแต่ยังติดเซฟอับเบียติ

เกมมีจังหวะตัดฟาวล์กันบ่อยอยู่จนโดนเหลืองไปหลายคนแต่โอกาสลุ้นก็ยังเป็นของอาร์เซน่อลที่หวือหวามากกว่าคราวนี้เป็นฟาน เพอร์ซี่บ้างที่ได้บอลหน้าเขตโทษเลยตั้งป้อมส่องไกลทันทีแต่อับเบียติยังบินปัดออกไปได้
  
แล้วนาที 26 "ปืนใหญ่"ได้เฮอีกเดินหน้าบวกประตูเพิ่มได้อีกลูกแล้วจากการขึ้นเกมทางขวาของวัลคอตต์เลี้ยงมาจนถึงเขตโทษก่อนจะเปิดเข้าใน ซิลวายืนดักเอาไว้เคลียร์ออกมาแต่ดันเคลียร์ไม่ดีมาเข้าทางโรซิคกี้ที่ยืนอยู่โล่งๆยิงสวนยัดเสาแรกเลยอับเบียติพุ่งปัดไม่ทัน อาร์เซน่อลบวกเพิ่มเป็น 2-0

รูปเกมมิลานพยายยามจะทำเกมบุกแต่จังหวะสุดท้ายเรียกว่าแทบจะไม่มีโอกาสได้ยิงเลย ผิดกับฝั่งอาร์เซน่อลต่อบอลขึ้นมาลุยแต่ละทีถึงเขตโทษตลอด

ช่วงท้ายครึ่งแรกเค้าโครงของ"ปาฏิหารย์"เริ่มจะส่องประกายออกมาแล้วหลัง"ปืนใหญ่"มาได้จุดโทษในจังหวะที่แชมเบอร์เลนพาบอลขึ้นมาทางขวาอีกแล้วก่อนจะตะลุยเข้าเขตโทษไปเองเลยก่อนเจอเมสบาห์กับโนเชริโน่ชนคว่ำไป กรรมการเลือกเป่าให้เป็นจุดโทษก่อนจะเป็นฟาน เพอร์ซี่ยิงเต็มข้อไม่มีเหลือ อาร์เซน่อลกำลังใจมาเต็มนำเพิ่มอีก 3-0

ทดเจ็บครึ่งแรกมิลานเกือบได้ประตูไล่ขึ้นมาแล้วจากจังหวะที่เอ็มมานูเอลสันพาบอลขึ้นมาตรงกลางก่อนจะจ่ายออกทางขวาให้กับเอล ชาราวี่อยู่โล่งๆได้ยิงแต่ดันยิงหลุดออกเสาแรกไปทำเอาใจหายกันไปทั้งเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปที่เจ้าบ้านนำอยู่ 3-0



กลับมาครึ่งหลังมิลานเริ่มต้องลำได้โอกาสลุ้นบ้างจากจังหวะที่ซงจ่ายพลาด บอลมาถึงโรบินโญ่เลี้ยงจี้ขึ้นไปหน้าเขตโทษก่อนจะจ่ายทะลุช่องไปทางซ้ายให้อิบราฮิมโมวิชแต่เซสนี่ไม่หลับวิ่งออกมาตัดบอลได้ทันแบบเฉียดฉิวก่อนเจอล่อเป้า

นาที 58 มิลานรอดตัวหวุดหวิดเลยหลังอาร์เซน่อลน่าได้ประตูเพิ่มอีกแบบสุดๆจากโรซิคกี้ตัดบอลได้ก่อนจะจ่ายให้กับแชร์วินโญ่เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนจะเล็งเข้าเหลี่ยมเสาไกลแล้วยิง บอลแฉลบแม็กแซสอับเบียติพุ่งผิดทางไปแล้วยังติดขา เพอร์ซี่เข้ามาตามซ้ำจ่อๆแต่อับเบียติยังเหลือเชื่อลุกขึ้นมาเซฟได้หน้าตาเฉย

อาร์เซน่อลยังตุ้มๆต่อมๆมิลานหวิดได้ประตูอีกแล้วจากเซสนี่ที่เตะเปิดเกมไม่ดีจะจ่ายให้กับซงแต่ดันเจออิบราฮิมโมวิชมาฉกได้ก่อนจะยิงไวสวนทันที แต่แม่นไม่พอบอลหลุดเสาแรกออกหลังทำเอาเซสนี่ต้องยกมือขอโทษเป็นการใหญ่เลย

เข้าช่วง 15 นาทีสุดท้ายมิลานหวิดได้ประตูแบบจะๆอีกครั้งนึงแล้วในจังหวะบอลทุ่มเอ็มมานูเอลสันจ่ายให้โรบินโญ่เบิ้ลต่อถึงอาควิาลานี่ที่ในไลน์ไม่ล้ำหน้าได้จ่ายบอลไปเสาสองให้โนเชริโน่ได้ชาร์จจ่อๆ แต่ยังเบาเกินเจอเซสนี่ผวาเซฟด้วยเท้าได้ทันก่อนจะรับเข้าซอง

เกมเดินทางมาสู่ 10 นาทีสุดท้ายยิ่งบีบหัวใจมากขึ้นเป็นมิลานที่ได้โอกาสส่องอีกแล้วจากโรบินโญ่ที่ได้บอลอยู่ทางขวาก่อนมองหน้าเงยแล้วเลือกเปิดไปทางซ้ายให้กับอิบราฮิมโมวิชพักอกในเขตโทษทีนึงก่อนวอลเลย์แต่ก็ไม่ใกล้เคียงเป้าหมาย

สุดท้ายอาร์เซน่อลก็ทำได้แค่เกือบมีปาฏิหารย์แต่ก็ยังได้ใจอยู่เอาชนะเอซี มิลานไปได้ 3-0 สกอร์รวมยังเป็นมิลานที่ชนะไป 4-3 ทะลุผ่านเข้าไปสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ


อาร์เซน่อล : วอจเซียจ เซสนี่, โทมัส แฟร์มาเล่น, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, คีแรน กิ๊บส์, บาการี่ ซานญ่า, โทมัส โรซิคกี้, อเล็กซ์ ซง, แชร์วินโญ่, อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (ชามัคห์ น.70), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่


เอซี มิลาน : คริสเตียน อับเบียติ, ธิอาโก้ ซิลวา, ฟิลิปป์ แม็กแซส, ดยาเมล เมสบาห์ (โบเนร่า น.89), อิกนาซิโอ้ อบาเต้, มาร์ค ฟาน บอมเมล, เออร์บี้ เอ็มมานูเอลสัน, อันโตนิโอ โนเชริโน่, สเตฟาน เอล ชาราวี่ (อาควิลานี่ น.70), โรบินโญ่, ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช

ไฮไลท์คลิป ทะเลาะเทรนด์ใหม่! แข้งซาอุเดือดขากเสลดป้ายหน้า 12bet 07/03/2555



พี่ไทยน่าเอาอย่าง เปลี่ยนจากการชกต่อย มาดูความซกมกได้โลห์ของการแข่งขันฟุตบอลในลีกเศรษฐีน้ำมัน ซาอุดิอาระเบีย ระดับดิวิชั่น 2 เมื่อนักเตะของ อัล-ดิริยะห์ สวมใส่เสื้อหมายเลข 99 ตั้งใจขากเสมหะแบบเต็มก้อน เต็มมือ เสร็จแล้วบรรจงเอาน้ำสุดหวงที่ตัวเองขากออกมา นำไปลูบหน้าคู่กรณี จนคู่กรณีดีดดิ้นราวกับโดนน้ำกรด 



ไฮไลท์คลิป มาเรียแดนซ์-รอลีย์ลงดวลแร็คเก็ตวอซซี่ 12bet 07/03/2555



เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมามีเทนนิสนัดพิเศษที่ เมดิสัน สแควร์ การ์เดน สหรัฐอเมริกา ระหว่าง มาเรีย ชาราโปวา หวดสาวมือ 2 ของโลก ดวลแร็กเก็ตกับ คาโรไลน์ วอซเนียคกี หวดสาวมือ 4 ของโลก ด้วยผลการแข่งขันที่ ชาราโปวา เอาชนะ วอซเนียคกี ไปได้ 2-0 เซท 6-3, 6-4 โดยช่วงท้ายเซท 2 รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรกอล์ฟชาวไอริชที่พึ่งขึ้นเป็นมือหนึ่งของโลกสดๆร้อนๆ ลงมาจับแร็กเก็ตดวลลูกสักหลาดกับ ชาราโปวา






       
สีสันการแข่งขันเทนนิสนัดพิเศษนี้ผู้ชมใน เมดิสัน สแควร์ การ์เดน นอกจากจะได้ชม ชาราโปวา ดวลแร็กเก็ตกับ วอซเนียคกี ตลอดทั้งเกม








ช่วงท้ายเซท 2 ขณะที่ ชาราโปวา นำอยู่ 5-4 เกม วอซเนียคกี ขอพักเบรคหันไปเรียกแฟนหนุ่ม รอรีย์ แม็คอิลรอย โปรกอล์ฟชาวไอริชที่พึ่งจะขึ้นมือ 1 ของโลกหลังจากเขาคว้าแชมป์กอล์ฟ ฮอนดา คลาสสิค เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ลงมาบนคอร์ตเทนนิสจับแร็กเก็ตดวลกับ ชาราโปวา ตีโต้กันพอหอมปากหอมคอก่อนที่ ชาราโปวา จะตีลูกเสียออกนอกสนามจากจังหวะที่ รอรีย์ เล่นชิปหน้าเน็ต

ไฮไลท์แมตช์ เลบานเต้ VS เรอัล เบติส La Liga Spain - เลบานเต้อัดเบติส 3-1 รั้งที่ 4

วันอังคารที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555



เลบานเต้ คงฟอร์มแกร่งในบ้านอีกแล้ว หลังไล่ต้อนเก็บชัยเหนือ เรอัล เบติส ไปแบบสุดมันส์ 3-1 เก็บสามแต้มได้ตามเป้าหมายพร้อมขยับอันดับแซงขึ้นไปอยู่ที่ 4 ของตารางแล้ว ในศึกฟุตบอล ลา ลีกา สเปน เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา




วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555


ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน
เลบานเต้ 3-1 เรอัล เบติส








เจ้าบ้านเลบานเต้ ไม่มี ฟรานซิสโก้ ฟารีนอส กองกลางตัวเก๋าติดโทษแบน 1 นัด แต่ทีมได้ บัลมิโร่ บัลโด้ หายเจ็บกล้ามเนื้อลงเล่นแดนกลาง ส่วน เปเป้ เมล โค้ชเบติสได้ ซัลบา เซบีย่า มิดฟิลด์ตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมา


ครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 4 นาที เจ้าถิ่นลุยใส่ทันที อับเดลกาแดร์ เกซซาล โยนบอลมาเข้าทาง อารูน่า โกเน่ ยิงเท้าขวาหน้าประตูไปติด ฟาบริซิโอ นายทวารเซฟอยู่หมัด


นาที 33 นาโช่ เปเรซ กองหลังทีมเยือนทำฟาวล์ เกซซัล ทำให้เจ้าถิ่นได้ลูกฟรีคิกระยะไกลทางฝั่งขวา และเป็น โฆเซ่ บาร์เกโร่ สังหารฟรีคิกเท้าซ้ายตุงตาข่ายอย่างสวยงามให้ เลบันเต้ นำ 1-0


นาที 42 เลบันเต้นำห่าง 2-0 ฆวนฟราน การ์เซีย โยนบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาหน้าประตู ชาบี ตอร์เรส โหม่งเผาขน บอลพุ่งเสียบมุมอย่างสวยงาม


อย่างไรก็ตาม เรอัล เบติสตีไข่แตก ไล่ตามหลังมาที่สกอร์ 1-2 นาที 44 จากการเล่นที่ผิดพลาดของกองหลังเจ้าถิ่น บอลมาเข้าทาง ฆอร์เค่ โมลีน่า ยิงเท้าขวาระยะเผาขนผ่าน มูนูอา ตุงตาข่าย จบครึ่งแรก เลบันเต้นำ 2-1


กลับมาเล่นครึ่งหลัง นาที 50 เลบันเต้ทิ้งหนีห่างเป็น 3-1 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่เกห์ซซาลควบบอลลุยขึ้นหน้าเยื้องมาทางขวาเขตโทษ ก่อนปาดเข้ากลางให้โกเน่โฉบเข้าแปด้วยซ้าย สวนทางฟาบริซิโอตุงตาข่าย


เจ้าถิ่นยังเหนือกว่า นาที 56 บัลโด้จ่ายให้เกห์ซซาลหลุดเข้าในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนอัดด้วยขวา บอลโด่งข้ามคานนิดเดียว อีก 2 นาที โมลิน่าจ่ายให้ซานตา ครูซ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง กระหน่ำระยะ 25 หลา บอลโด่งข้ามคานอย่างน่าเสียดาย จบเกม เลบันเต้ชนะเรอัล เบติส 3-1 กลับขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของตารางอีกครั้ง


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เลบันเต้: กุสตาโว่ มูนูอา - เปโดร โลเปซ, เซร์คิโอ บาเยสเตรอส, กุสตาโว่ กาบราล, ฆวนฟราน การ์เซีย - บิเซนเต้ อิบอร์ร่า, ชาบี ตอร์เรส - อับเดลกาแดร์ เกซซาล, โฆเซ่ บาร์เกโร่, บัลมิโร่ บัลโด้ - อารูน่า โกเน่ 


เรอัล เบติส: ฟาบริซิโอ รามิเรซ - เนลสัน เอากุสโต้ โตมาร์, เปาเลา, โฆเซ่ โดราโด้, นาโช่ เปเรซ - ซัลบา เซบีย่า, อิริเนย์ ซานโต๊ส, เบนญัต เอต์เซบาร์เรีย - รูเบน กาสโตร, ฆอร์เค่ โมลีน่า, เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่

ไฮไลท์คลิป อาร์เตต้าขอบคุณเดอะ ค็อปให้กำลังใจหลังน็อคลงเปล 12bet 06/03/2555



มิเกล อาร์เตต้า กองกลางชาวสเปนของอาร์เซน่อล ซึ้งใจไม่หาย เมื่อแฟนบอล"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รวมถึงสต๊าฟโค้ชและนักเตะคู่แข่งต่างปรบมือให้กำลังใจหลังจากที่เขาเจ็บศีรษะจนต้องลงเปลออกจากสนามไป



กองกลางชาวสเปนที่เคยเล่นให้กับเอฟเวอร์ตันคู่อริร่วมเมืองของ"หงส์แดง"ถึง 6 ฤดูกาลก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีม"ปืนใหญ่"เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะหลังจากปะทะกับจอร์แดน เฮนเดอร์สันจนต้องถูกหามออกจากสนามทันทีซึ่งในระหว่างที่ถูกหามนั้นเขาก็ได้รับเสียงปรบมือให้กำลังใจจากแฟนบอลของทั้ง 2 ทีมด้วยซึ่งนั่นสร้างความปลาบปลื้มให้กับอาร์เตต้าเป็นอย่างมาก

"ผมอยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อขอบคุณทุกคนสำหรับความช่วยเหลือและมิตรภาพที่มีให้ผมในเกมเมื่อวันเสาร์" อาร์เตต้ากล่าวในจดหมายเปิดผนึดที่โพสในเว็บไซต์ทางการของสโมสร

"หลังจากอุบัติเหตุในสนาม ทีมแพทย์ของอาร์เซน่อลทำงานได้ยอดเยี่ยมมาก เช่นเดียวกับทุกๆคนของสโมสรลิเวอร์พูล"

"ผมได้ดูภาพย้อนหลังในทีวีตอนที่ผมถูกหามออกไปแล้วและผมก็อยากจะแสดงออกให้บรรดาแฟนบอลของลิเวอร์พูลเห็นว่าผมรู้สึกซาบซึ้งแค่ไหน"

"ผมสัมผัสได้ถึงแรงสนับสนุนของเหล่าแฟนบอลของสโมสรที่ยิ่งใหญ่อย่างลิเวอร์พูลตอนที่ผมถูกหามออกจากสนาม ขอบคุณมากๆ"

"ผมขอขอบคุณเปเป้ เรน่าและนักเตะลิเวอร์พูลอีกหลายคนที่ส่งข้อความมาให้กำลังใจผม มันจับใจผมมากและก็แสดงให้เห็นถึงคลาสของทีมที่ยิ่งใหญ่ด้วย"

"และที่สำคัญที่สุดคือข้อความของแฟนอาร์เซน่อลทุกคน และทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ผมตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ ผมซาบซึ้งมากและไม่สามารถอธิบายได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้มีความหมายกับผมมากขนาดไหน" กองกลางวัย 29 ปีปิดท้าย

ไฮไลท์คลิป ชอตเทพ!! "เวสต์วูด" ชิพลูกข้ามยอดไม้ 12bet 06/03/2555



ศึกกอล์ฟ "เดอะ ฮอนดา คลาสสิก" ที่สนาม พีจีเอ เนชันแนล แชมเปียน คอร์ส ลี เวสต์วูด โปรมือ 3 ของโลกชาวอังกฤษ แม้รายการนี้เขาไม่ได้แชมป์แต่ก็โชว์ฟอร์มดีจบอันดับ 4  และนี่เป็นอีกหนึ่งชอตแอพโพรชอันสุดยอดของเขา ที่หลุม 13 พาร์ 4 ในชอต 2 ที่ระยะ 130 หลา เขาสามารถตีลูกข้ามแนวยอดต้นไม้สูงส่งขึ้นกรีนส่งลูกไปอยู่ใกล้ธงได้อย่างยอดเยี่ยม 


ชอตสวิงลูกของอดีตมือหนึ่ง

ไฮไลท์คลิป กรรมการแอบเนียน! บาสอัดหน้าล้มทับปอมปอมเกิร์ล 12bet 06/03/2555



เกิดอุบัติเหตุกับผู้ตัดสินในเกมบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยระหว่างม.จอร์เจีย พบ ม.เคนตักกี้ ขณะที่ผู้เล่นจอร์เจีย จะส่งลูกตัดในให้เพื่อนทำแต้มแต่บอลติดเท้าผู้เล่นเคนตักกี ส่งผลให้บอลเปลี่ยนทิศทางพุ่งด้วยความแรงไปอัดเข้าหน้าของผู้ตัดสินจนล้มหงายอยู่ทางท้ายคอร์ตหลังแป้น แต่โชคดีที่เขาไม่เจ็บตัวอะไรมากมายนักเพราะเขาไปล้มทับใส่ปอมปอม สุดน่ารักของทางฝั่งทีมม.เคนตักกี้





ได้ล้มทับปอมปอมสุดเซ็กซี่ต้องเรียกว่าโชคดีมากกว่านะ


ไฮไลท์คลิป เกร์เรโร่ส่อโดนแบน 6 เกมหลังเสียบโหดประตูม้าขาว 12 bet 05/03/2555

วันจันทร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555



เปาโล เกร์เรโร่ ศูนย์หน้าทีม "สิงห์เหนือ" ฮัมบูร์ก เตรียมตัวรับโทษแบนยาวถึง 6 เกม หลังจากเข้าไปเสียบสเวน อูริช นายทวารของสตุ๊ตการ์ทข้างหลังแบบน่าเกลียด 






ฮัมบูร์กตกเป็นฝ่ายปราชัยต่อทีมม้าขาวถึง 4-0 แต่ไฮไลท์ของเกมอยู่ที่การเข้าไปทำฟาวล์จากด้านหลังของเกร์เรโร่ ซึ่ง "บิลด์" สื่อกีฬาของเยอรมันยกให้เป็นจังหวะทำฟาวล์ที่น่าเกลียดที่สุดในฤดูกาลนี้


"ผมแค่พยายามจะบังบอล แต่ไม่รู้อะไรทำให้เขาทำแบบนี้ บางทีเขาคงกำลังหัวเสียอยู่ได้นะ" อูริช ประตูสตุ๊ตการ์ทกล่าว


ในเกมนั้นกองหน้าชาวอเมริกาใต้โนแดงออกจาสนามทันที และเตรียมตัวรับโทษแบนยาวอีก 6 นัด โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวก็เคยโดนแบนมาแล้ว 5 เกม หลังจากไปปาขวดน้้ำเข้าหัวแฟนบอลในเกมเสมอกับฮันโนเวอร์ 0-0


คราวก่อนโดนไปห้าเกมฐานปาขวดยังไม่เข็ด

ไฮไลท์แมตช์ อินเตอร์ มิลาน VS คาตาเนีย Series A Italy - งูบู่ไล่เจ๊าคาตาเนีย 2-2 12bet 05/03/2555



"งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ยังคงฟอร์มตกต่ำแบบกู่ไม่กลับ โดยทำได้แต่เปิดรังไล่ยิงเสมอ คาตาเนีย หืดจับ 2-2 ในศึกกัลโช่เซเรีย อาเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 


วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2555


ฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน 2-2 คาตาเนีย










อินเตอร์ มิลาน ที่ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย พ่ายมา 5 นัดติดต่อกันในทุกรายการ เปิด จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า รอรับ คาตาเนีย เจ้าถิ่นยังไร้ ลุค คาสไตยอส ที่โดนแบนเป็นนัดที่ 2 จาก 3 เกม พร้อมดร็อป เวสลี่ย์ สไนเดอร์ เป็นสำรอง เลือกส่งหน้าคู่อย่าง จามเปาโล ปาซซินี่ กับ ดีเอโก้ มิลิโต้ ส่วนทีมเยือนมาชุดใหญ่ อเลฮานโดร โกเมซ, กอนซาโล่ แบร์เกสซิโอ และ ปาโบล บาร์ริเอนตอส เป็นสามประสานแนวรุก


เริ่มมา "งูใหญ่" บุกใส่ทันที ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ที่วันนี้ลงเล่นในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้าย เก็บตกส่องไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่ ฮวน ปาโบล การ์ริโซ่ ยังล้มตัวรับเข้าซอง


เจ้าบ้านมีโอกาสอีกครั้ง ฟอร์ลัน ส่องไกลจากระยะประมาณ 20 หลา ยังเป็น การ์ริโซ่ ที่ป้องกันไว้ได้เหมือนเดิมนาทีที่ 15 มิลิโต้ ครอสจากขวาให้ ฟอร์ลัน วอลเลย์ด้วยซ้ายแบบไม่ต้องจับ กระนั้น การ์ริโซ่ โชว์ซูเปอร์เซฟได้อีกหน


กลับเป็น "ตราช้าง" ที่มาได้ประตูในอีก 5 นาทีต่อมา บาร์ริเอนตอส วางยาวให้ โกเมซ หลุดกัปดักล้ำหน้า ก่อนล็อกตัดเข้าในหลบ ยูโตะ นากาโตโมะ แล้วยิงเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม ขึ้นนำ 1-0


ผู้มาเยือนเกือบได้เพิ่มอีก เมื่อ เซร์คิโอ อัลมิร่อน ชิพให้ บาร์ริเอนตอส หลุดกัปดักล้ำหน้าเข้าไปดวลเดี่ยวแล้ว แต่กลับยิงโดนไม่เต็มเท้า ทำให้ ชูลิโอ เซซาร์ ป้องกันเอาไว้ได้


อย่างไรก็ตาม พลพรรค "เอเลฟันเต้" มาหนีห่างจนได้เป็น 2-0 ในนาทีที่ 38 จากจังหวะที่ บาร์ริเอนตอส แทงทะลุช่องให้ โจวานนี่ มาร์เคเซ่ หลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนปาดเรียดเข้ากลาง และเป็น มาเรียโน่ อิซโก้ ชาร์จบอลผ่านข้ามเส้นไปแล้วก่อนที่จะโดน นากาโตโมะ เตะสกัดออกมา


จากนั้น อินเตอร์ ยังแทบไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จบ 45 นาทีแรก คาตาเนีย ออกนำไปก่อน 2-0 ท่ามกลางเสียงโห่ของแฟนบอลเจ้าถิ่นดังลั่นสนาม


ครึ่งหลัง เคลาดิโอ รานิเอรี่ อยู่เฉยไม่ได้ จัดการถอด ดาวิเด้ ฟาราโอนี่ ออก พร้อมส่ง สไนเดอร์ ลงแทนเกมของเจ้าบ้านยังไม่ดีขึ้น บาร์ริเอนตอส วางยาวจะให้ โกเมซ ที่หลุดล้ำหน้าอีกแล้ว แต่โดน เซซาร์ ออกมาสกัดได้หวุดหวิด


นาทีที่ 57 บาร์ริเอนตอส ทิ้งยาวให้ โกเมซ เป็นอีกครั้งที่ เซซาร์ ต้องออกมาสกัดจากนอกกรอบเขตโทษ ก่อนเตะทิ้งไม่ดีทำให้โดน แบร์เกสซิโอ ชิพไกล ยังดีที่บอลไม่เข้าเป้า


ถัดมา ฟรานเชสโก้ โลดี้ เปิดฟรีคิกให้ มาร์โก ม็อตต้า โหม่งเฉี่ยวเสาแบบได้เสียว แต่ว่าเจ้าถิ่นตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ในนาทีที่ 71 ฟอร์ลัน กระชากเข้าไปซัดด้วยซ้ายบริเวณมุมเขตโทษ ฮวน ปาโบล การ์ริโซ่ ปัดโดนไม่ดี บอลยังเข้าไปกองก้นตาข่าย
  
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งคู่ต่างบุกหวังเอาประตูชัยกันให้ได้ โลดี้ ไหลเข้าเขตโทษให้ เฟลิเป้ เซย์มัวร์ ที่เพิ่งลงมาเป็นสำรอง ได้ยิงคนเดียวโล่งๆ แต่กลับเบาไป ทำให้ เซซาร์ รับติดมือ จากนั้น ปาซซินี่ ก็ได้ยิงจ่อๆ ไปติดเซฟ การ์ริโซ่ เช่นกัน จบเกมทั้งสองทีมจึงเสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม




รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม


อินเตอร์ : ชูลิโอ เซซาร์; ยูโตะ นากาโตโมะ, ลูซิโอ, วอลเตอร์ ซามูเอล, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ; ดาวิเด้ ฟาราโอนี่ (เวสลี่ย์ สไนเดอร์ น.46), อันเจโล่ ปาลอมโบ (โจเอล โอบี น.62), เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ (อันเดรีย โปลี น.61), ดีเอโก้ ฟอร์ลัน; จามเปาโล ปาซซินี่, ดีเอโก้ มิลิโต้


คาตาเนีย : ฮวน ปาโบล การ์ริโซ่; มาร์โก ม็อตต้า, นิโกล่า เลกร็อตตาเย่, นิโกลัส สโปลลี, โจวานนี่ มาร์เคเซ่; มาเรียโน่ อิซโก้, ฟรานเชสโก้ โลดี้, เซร์คิโอ อัลมิร่อน; อเลฮานโดร โกเมซ (คริสเตียน ยาม่า น.87), กอนซาโล่ แบร์เกสซิโอ (โอซาริเมน เอบากัว น.69), ปาโบล บาร์ริเอนตอส (เฟลิเป้ เซย์มัวร์ น.76) 

ไฮไลท์แมตช์ เรอัล มาดริด VS เอสปันญ่อล La Liga Spain - ชุดขาวสาวนกแก้วยับ 5-0 ทิ้งบาร์ซ่า 10 แต้มเท่าเดิม 12bet 05/03/2555



"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริดได้กอนซาโล่ อิกวาอิน เหมาคนเดียวสองแระตูก ช่วยทีมเปิดบ้านไล่ถล่ม เอสปันญ่อล ไปแบบไม่ไว้หน้า 5-0 เก็บเพิ่ม 3 แต้ม นำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยเพิ่มระยะห่าง บาร์เซโลน่า เป็น 10 แต้มเท่าเดิม ในศึกฟุตบอลลา ลีกา สเปน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา


วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม2555 


ฟุตบอลลา ลีกา สเปน
เรอัล มาดริด 5-0 เอสปันญ่อล 









เกมที่เบร์นาบิวทางฝั่งเอสปันญ่อลมาเล่นแบบไม่เกรงชื่อชั้นของเจ้าบ้านเมื่อพยายามบุกสู้ตั้งแต่ต้นและในนาที 6 โรมาริชก็ลากบอลมาหน้ากรอบเขตโทษก่อนกระทุ้งเต็มข้อด้วยอีซ้ายหลุดโคนเสาขวาไปไม่มากไม่มาย

นาที 16 กาก้าเปิดลูกเตะมุมทางด้านซ้ายมาที่เสาไกลโดยมีโรนัลโด้ที่ทะยานขึ้นโหม่งไปเบียดกับคาซิญ่านิดหน่อยจนบอลหล่นมาให้อิกวาอินซัดไปติดบล็อกแนวรับ"นกแก้ว"แต่กรรมการก็เป่าฟาวล์ว่าโด้ชาร์จนายโกลก่อน
  
เกมเริ่มตกเป็นของ"ราชันชุดขาว"เมื่ออีกสี่นาทีถัดมาโรนัลโด้พาบอลมาหน้าประตูก่อนไหลออกด้านซ้ายให้กาก้าที่ยืนว่างวิ่งเข้าบรรจงปั่นบอลจังหวะเดียวด้วยอีขวาแต่ไม่ผ่านคาซิญ่าที่ยกมือประสานทุบบอลทิ้งออกไปได้

แต่แล้วความผิดพลาดของแนวรับเอสปันญ่อลในนาที 23 ก็ลงโทษพวกเขาจนได้เมื่อไปเสียบอลหน้าเขตโทษให้กาก้าได้แทงบอลไปยังอิกวาอินตวัดต่อไปให้โรนัลโด้วิ่งเข้าล้มตัวยิงทางซ้ายผ่านคาซิญ่าเข้าประตูไปให้ทีมนำ 1-0

อย่างไรก็ตามเอสปันญ่อลก็มีโอกาสลุ้นจบสกอร์บ้างเมื่อในนาที 38 ไวส์กระชากบอลลุยขึ้นมาก่อนไหลไปให้คูตินโญ่มิดฟิลด์แซมบ้าที่ยืมมาจากอินเตอร์ได้ลองส่องไกลแต่ไม่ผ่านมือคาซิญาสที่ยกมือทุบบอลทิ้งจนมือสั่น


จากจังหวะโต้กลับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รับบอลได้ก่อนไหลให้ เมซุต โอซิล ยกบอลต่อให้ ซามี่ เคดิร่า หลุดเข้าไปยิงสวนตัว ฟรานซิสโก้ กาซีย่า เข้าไปง่ายๆ ราชันชุดขาว หนีห่างเป็น 2-0

นาทีที่ 45 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ลากบอลสุดเส้นก่อนผ่านเข้ากลาง กอนซาโล่ อิกวาอิน ได้ยิงจ่อๆ แต่ไปติดเซฟของ ฟรานซิสโก้ กาซีย่า บอลกระดอนมาเข้าเท้า เมซุต โอซิล ที่ตามซ้ำแต่ก็ยังติดบล็อกของกองหลัง

กลับมาเล่นครึ่งหลังเจ้าบ้านส่งวารานลงมาแทนคาร์วัลโญ่และเพียงสองนาทีพวกเขาก็ได้ประตูที่ 3 จากจังหวะที่กาก้าพาบอลลุยเข้ามาทางซ้ายก่อนจ่ายตัดหลังแนวรับให้อิกวาอินวิ่งเข้ายัดเสาแรกผ่านคาซิญ่าเข้าไปอย่างเด็ดขาด


นาที 55 เอสปันญ่อลได้โอกาสตอบโต้บ้างจากลูกฟรีคิกที่ทางด้านซ้ายที่เบร์ดูหยอดบอลมาที่เสาแรกให้การ์เซียวิ่งสอดเข้าไปวอลเล่ย์ในจังหวะเดียวแต่คงช้อนใต้บอลมากไปเลยข้ามคาน

อีกสามนาทีถัดมาอิกวาอินเกือบเก็บแอสซิสต์หนที่สองได้หลังจ่ายบอลมาให้โรนัลโด้ที่ยืนโล่งๆในกรอบเขตโทษจนทำให้แข้งโปรตุกีสได้เข้าไปดวล 1-1 กับคาซิญ่าทว่าเขากลับยิงไม่ผ่านมือนายด่าน"นกแก้ว"

นาที 66 โรนัลโด้กระชากบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนไหลเข้ากลางให้อิกวาอินโฉบมาปั้ายบอลต่อไปยังกาก้าที่วิ่งสอดเข้ามาทะลุเข้าไปในเขตโทษด้านขวาแล้วยิงเล่นทางผ่านคาซิญ่าไปเสียบเสาไกลให้ทีมทิ้งห่าง 4-0



เท่านั้นไม่พอเมื่อในนาที 78 "ราชันชุดขาว"มาพังประตูที่ 5 จากจังหวะที่กาก้าโชว์สเต็ปกระชากบอลหนีตัวประกบจากริมเส้นด้านซ้ายเข้ามาก่อนแทงบอลไปให้อิกวาอินวิ่งเข้าดีดที่เสาแรกผ่านคาซิญ่าเข้าไปซุกก้นตาข่าย

นาทีสุดท้ายรามอสวางบอลยาวจากแดนหลังมาทางด้านซ้ายให้โรนัลโด้วิ่งควบไปเอาบอลได้ทันก่อนลากจี้หาเขตโทษแล้วไหลไปให้โมราต้าจับบอลด้วยเท้าขวาก่อนแต่งมายิงด้วยอีซ้ายไปติดเซฟคาซิญ่า ทำให้จบเกมเรอัล มาดริดเอาชนะเอสปันญ่อลไปเหมือนบอลคนละชั้น 5-0 เก็บแต้มหนีบาร์เซโลน่าออกไป 10 คะแนนโดยเหลือเกมแข่งขันอีกเพียง 13 นัดเท่านั้น

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
เรอัล มาดริด : อีเกร์ กาซิยาส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, ริคาร์โด คาร์วัลโญ่ ( ราฟาเอล วาราน น.46), เซร์กิโอ รามอส, มาร์เซโล่, ซามี เคดิร่า , ชาบี อลอนโซ่, ริคาร์โด้ กาก้า , เมซุต โอซิล (โฆเซ่ มาเรีย กาเญฆ่อน น.69), คริสติอาโน่ โรนัลโด้ , กอนซาโล่ อิกวาอิน (โมราต้า น.82)


เอสปันญ่อล : ฟรานซิสโก้ กาซิญ่า, ฆาบี โลเปซ, ราอูล โรดริเกวซ (ฆอร์ดี้ อามัต น.61), เฮคตอร์ โมเรโน่, ดิด๊าซ บีล่า, คอฟฟี่ โรมาริช, ฆวน ฟอร์ลิน , ฟิลลิปป์ คูตินโญ่ (ราอูล บาเอน่า น.45 ), ฆวน เบร์ดู , วลาดิเมียร์ ไวสส์, อัลบาโร่ บาซเกวซ (เซร์คิโอ การ์เซีย น.46)

ไฮไลท์แมตช์ เนิร์นแบร์ก VS โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค Bundesliga สิงห์หนุ่มเจ๊งท้ายเกมพ่ายเนิร์นแบร์กหวิว 1-0 12bet 05/03/2555



เนิร์นแบร์ก เปิดถิ่นเฉือนชัย "สิงห์หนุ่ม" โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 1-0 ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 9 ของตาราง ส่วน สิงห์หนุ่ม รั้งอันดับ 3 เหมือนเดิม ในศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 4 มี.ค. ที่ผ่านมา


วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลบุนเดเสลีกา เยอรมัน
เนิร์นแบร์ก 1-0 โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 


ช่วงแรกทั้งสองทีมพยายามใช้เกมเร็วบุกเข้าใส่กันแต่จังหวะออกบอลดูจะยังไม่เฉียบคมพอทำให้ยังเป็นฝ่ายผลัดกันได้บอล นาทีที่ 5 ฮานเค่ก็รับบอลมาจากอรานโก้ก่อนจะซัดด้วยขวาแต่ก็เบาแถมตรงตัวอีกต่างหากเข้ามือผู้รักษาประตูรับสบายไป

ผ่านไป 20 นาทีรูปเกมค่อนข้างน่าเบื่อเพราะว่าทั้งคู่ต่างก็มีจังหวะผิดพลาดกันอยู่ตลอดไม่สามารถตั้งเกมทำเกมรุกกันได้เลย กลัดบัคทีมเยือนดูได้บอลมากกว่าและพยายามใช้ฮานเค่ในการทำเกมรุกซึ่งวันนี้ยังเปิดบอลไม่เข้าเป้าเลย

ครึ่งชั่วโมงของเกมผ่านไปเป็นทีมเยือนที่ได้ครองบอลมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็ยังไม่สามารถสร้างสรรค์เกมรุกผ่านแนวรับของเนิร์นเเบร์กไปได้ วันนี้รอยซ์ดาวเด่นของกลัดบัคยังไม่ค่อยได้โชว์ฟอร์มอะไรเท่าไหร่นัก

เป็นเกมที่ชวนให้คนดูง่วงมาก เมื่อทั้งสองทีมแทบจะหาโอกาสลุ้นประตูกันไม่ได้เลย กลัดบัคแม้จะได้ครองบอลมากกว่าแต่ส่วนมากก็เคาะกันไปมาในแดนของตัวเองเท่านั้น เจ้าถิ่นไม่ต้องพูดถึงได้ครองบอลแต่ละทีมีผู้เล่นอยู่ในฝั่งตรงข้ามแค่ 2-3 คนเท่านั้นจะเอาอะไรไปยิง


ช่วงท้ายเกมดิเดวี่ก็เปิดยาวให้กับเอสส์วีนสปีดไปรับบอลก่อนที่เจะเตะติดบล็อกกองหลังทีมเยือนออกไป เป็นลูกเตะมุมแรกในเกมนี้หลังผ่านมาเกือบ 45 นาที แน่นอนว่าจากกังหวะลูกเตะมุมก็ไม่มีอะไรน่าลุ้น จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0


นาทีที่ 48 กลัดบัคก็เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกโยนข้างๆที่ดูไม่มีอะไรแต่กองหลังเนิร์นเเบร์กสกัดบอลว่าว บอลไปเข้าทางอรานโก้ที่ซัดจ่อๆแต่เชเฟอร์ก็ยังไวผวามาบล็อกได้ทั้ง ได้หายใจหืดหาดกันหน่อยสำหรับแฟนบอลทั้ง 2 ทีม

นาทีที่ 60 เจ้าถิ่นก็มีโอกาสบ้างเมื่อธิโมธี ชานด์เลอร์รับบอลมาจากเอสส์วีนก่อนจะยิงมุมแคบแต่ก็ยังติดเซฟของสเตเก้น เริ่มมีจังหวะได้ลุ้นมาบ้างแล้วหลังทั้งคู่พยายามเร่งเกมให้เร็วขึ้น

เจ้าบ้านแม้ว่าจะได้โอกาสจบสกอร์หลายครั้งในเกมนี้แต่ส่วนมากก็เป็นการยิงไกลที่แทบจะหวังผลไม่ได้เลย ขณะที่กลัดบัคเป็นฝ่ายได้ครองบอลมากกว่าอย่างเห็นได้ชัดก็จริงแต่การเข้าทำแต่ละครั้งก็ดูจะไม่ได้สร้างความหนักใจให้กับเกมรับของเนิร์นแบร์กสักเท่าไหร่นัก

เหลืออีก 10 นาทีจะหมดเวลารูปเกมยังเป็นเหมือนเดมคือเนิร์นแบร์กเน้นตั้งรับแล้วรอสวนกลับแต่จะสวนก็ไม่ได้เพราะกลัดบัคก็ดูไม่ได้โหมบุกขึ้นมาแต่อย่างใดสงสัยจะเสมอกันแล้วกระมังคู่นี้

นาทีที่ 87 บุนยากูตัวสำรองของเจ้าถิ่นที่เพิ่งเปลี่นลงมาก็ปลุกคนดูทั้งสนามเมื่อรับลูกจ่ายของเอสส์วีนบริเวณจุดโทษก่อนจะซัดเต็มๆเข้ากลางประตูไปเป็นประตูชัยให้เนิร์นแบร์กเล่นในบ้านเอาชนะกลัดบัคไป 1-0 เป็นชัยชนะ 3 นัดรวดเขยิบขึ้นมาที่ 9 แล้วส่วนทีมเยือนหยุดสถิติไม่แพ้ใครในทุกรายการไว้ที่12 นัดแต่ยังรั้งอันดับ 3 เท่าเดิมตามจ่าฝูงดอร์ทมุนด์อยู่ 8 แต้ม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
เนิร์นแบร์ก : ราฟาเอล เชเฟอร์, ฟิลิปป์ โวลสชีด, โอมินิค มาโรห์, อดัม ลูเซ็ค, มาร์คุส เฟอุลเนอร์, เยนส์ เฮเกเลอร์(บุนยากู น.84), ดาเนี่ยล ดีเดวิ่(โคเฮน น.79), ทิมมี่ ซิมอนส์, อเล็กซานเดอร์ เอสส์วีน, ธิโมธี แชนด์เลอร์(อิกเลอร์ น.69), โธมาส เพ็คการ์ธ

กลัดบัค : มาร์ค อังเดร เตร์ สเตเก้น, ดานเต้, มาร์ติน สตรานเซิล, ฟิลิป เดมส์, โทนี่ ยานท์ชเก้, โรมัน นอยสตาเตอร์, ฮาวาร์ด นอร์เวียธ(บรูเวอร์ส น.90), ฆวน อรานโก้, มาร์โก้ รอยซ์, อิกอร์ เด การ์มาโก้(เวนด์ท น.81), ไมค์ ฮานเค่

ไฮไลท์แมตช์ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ VS แมนฯ ยูไนเต็ด - ผีบุกสอยไก่ 3-1 จี้เรือ 2 แต้ม 12bet 05/03/2555



แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาศัยการจบสกอร์ที่เฉียบคมกว่า บุกเอาชนะท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไปอย่างท่วมท้น 3-1 ในเกมพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคา ที่ผ่านมา



วันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม 2555 


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส 1 : 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 






บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้บังเกิดขึ้นที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์สต้อนรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยปีนี้มีลุ้นกันถึงตำแหน่งแชมป์เลย

เจ้าบ้านจัดตัวทีเด็ดอย่างโมดริชที่เคยมีข่าวกับแมนฯยูไนเต็ดมาตลอดช่วงซัมเมอร์ลงปั้นเกมในแดนกลาง แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่พวกเขาไม่มีปาร์คเกอร์ที่ติดโทษแบนและเบลปีกตัวสำคัญที่ไม่สามารถฟิตทันเกมนี้ได้

แมนฯยูไนเต็ดได้ตัวหลักอย่างรูนี่ย์กลับมาสู่ทีม หลังหายจากอาการป่วยเป็นปลิดทิ้งแล้ว โดยแดนกลางยังคงเป็นสโคลส์จับคู่กับคาร์ริคและก็มียังประจำการทางกราบซ้าย หลังจากเกมที่แล้วเงียบๆไปหน่อย ต้องดูว่าปีกพี่หนุ่มจะทำได้ดีขึ้นหรือไม่ในเกมนี้


10 นาทีแรกไปนั้น เกมของทั้งสองทีมเหมือนจะลองเชิงใส่กันอยู่ แม้ว่าแมนฯยูไนเต็ดจะได้ครองบอลในช่วงต้นๆ แต่แทบจะผ่านแนวรับของสเปอร์สให้ไปถึงหน้าประตูไม่ได้เลย ก่อนที่จะสลับกันครองไปๆมาๆ รอดูท่าที หาจังหวะกันไป

นาทีที่ 19 ก่อความผิดพลาดเล็กน้อยแล้วเกือบจะส่งผลซะแล้วสำหรับเด เกอา เมื่อเขาเคลียร์บอลยาวออกไปไม่ดี โดนซานโดรดักได้ ก่อนที่จะจะไหลบอลต่อให้อเดบายอร์เลี้ยงจี้เข้าหากองหลังแมนฯยูไนเต็ด ก่อนที่จะบรรจงยิงไปเสาสอง แต่บอลมันไม่ห่าง เด เกอาเลยล้มตัวปัดทิ้งออกไปได้

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ตอนนี้สเปอร์สติดเครื่อง เปิดเกมรุกขึงใส่แมนฯยูไนเต็ดแบบเบ็ดเสร็จ ชนิดที่ทั้งเวลเบ็คและรูนี่ย์ต้องลงไปช่วยในเกมรับหมด ก่อนที่จะมาได้ลุ้นจากฟรีคิกของกาบูลที่ยิงไปแฉลบกำแพง ซึ่งจากลูกนี้โจนส์ก็ไปโดนใบเหลืองเข้าด้วย ในการเข้าข้างหลังใส่ซาฮา

เกมนี้กลางกับหน้าของ "ปีศาจแดง" ไม่กระดิกทำงานเลยสักนิด เกมรับก็ดูจะวุ่นๆ แล้วพอต้านเอาไว้ได้ จะบุกสวนคืนบอลก็ไม่รู้ว่าจะไปขึ้นกับใคร เพราะลงไปช่วยกันในแนวรับหมด ถ้ายังไม่รีบแก้เกม งานนี้มีหวังพังคาเล้าไก่แน่

นาทีที่ 37 เสียวไข่กันหมดเลยสำหรับแฟนบอลแมนฯยูไนเต็ด จากจังหวะที่เลนน่อนสลับลากไปลากหลอกโจนส์จนก้นคะมำ ก่อนที่จะจ่ายเข้ากลาง บอลขลุกขลิกก่อนที่ซาฮาจะวิ่งมาบวกเน้นๆ แต่บอลดันพุ่งไปติดตัวของอเดบายอร์ที่ยืนอยู่หน้าประตู หัวหอกโตโกเลยพยายามประคองบอลแล้วดีดส่งผ่านเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้ เพราะจังหวะที่เขาเอาบอลลงใช้ท่อนแขนแต่งอยู่นิดหน่อยด้วยนั่นเอง


นาทีที่ 45 เกมบุกไม่ค่อยดี แต่อาศัยความเด็ดขาดบวกความผิดพลาดของแนวรับสเปอร์สเอาเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อยังเปิดบอลเตะมุมโค้งเข้ามาสวย รูนี่ย์สะบัดการประกบของวอล์คเกอร์ที่หลุดไปนิดหนึง สอดตัวโหม่งสะบัดส่งบอลพุ่งเข้าไปกระทบตาข่าย ฟรีเดลล์ได้แต่เซง "ปีศาจแดง" ชิงนำไปก่อนแล้ว 1-0

นาทีที่ 52 สุ่มเสี่ยงจะเสียประตูตีเสมอเลยสำหรับแมนฯยูไนเต็ด เมื่อสเปอร์สมาได้ลุ้นจากลูกยิงของลิเวอร์มอร์ซึ่งบอลพุ่งไปแฉลบน่องซาฮาทำให้เปลี่ยนทิศไปนิดหนึง แต่เด เกอาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ล้มตัวปัดบอลเอาไว้ได้ ตามด้วยอีแวนส์ที่พุ่งเข้ามาสกัดบอลทิ้งออกหลังไป

อีก 6 นาทีต่อมา ดูแล้วเทคนิคการปั่นฟรีคิกเยี่ยมอยู่เหมือนกันสำหรับแบ็คอย่างเอก็อตโต้ ที่รับหน้าที่ซํดบอลข้ามกำแพง บอลปั่นกำลังดี แต่เหมือนจะเบาไปนิด เลยไม่ฮุคปลายเช็ดคานบนออกหลังไป

นาทีที่ 60 พลาดกันสุดๆเลยสำหรับแผงหลังของสเปอร์ส ที่ไปยืนเหม่อกันแล้วไม่ยอมดูนานี่ที่ได้บอลที่เพื่อนทุ่มมาให้ ลากเข้าไปจ่ายยัดเข้ากลาง บอลทะลุถึงหน้าประตู วอล์คเกอร์พยายามเข้าสกัด แต่มันไม่ขาด เข้าทางของยังที่กระโดดวอลเล่ย์ส่งบอลผ่านบรรดานักเตะที่ยืนออกันหน้าประตูเข้าไปเสียบเสาสอง กลายเป็นแมนฯยูไนเต็ดที่ทิ้งห่าง 2-0 ทั้งที่เกมไม่ได้ดีกว่าเลยสักนิด


นาทีที่ 69 พลาดอีกแล้วจริงๆสำหรับกองหลังของสเปอร์ส ที่ไม่ยอมเข้าบีบกดดันในจังหวะที่ยังได้บอลมาจากเอฟร่าทางด้านข้าง มีโอกาสเลี้ยงตัดเข้ากลาง แตะแล้วแตะอีก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเข้ามาบีบ พี่แกเลยจัดการกดสูตรถนัด ยิงปั่นไซด์ส่งบอลพุ่งโค้งหนีมือของฟรีเดลที่พุ่งยังไงก็ไม่ทัน เสียบสามเหลี่ยมสวยงาม แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 3-0 งานมหาหินจริงๆสำหรับสเปอร์ส

เกมวันนี้สเปอร์สครองบอลได้มากกว่าทีมเยือนอยู่แทบจะตลอด เพียงแต่บอลสุดท้ายของพวกเขาขาดความคมไป ทำให้สุดท้ายกลายเป็นต้องมาตามห่างถึง 3 ลูกแบบนี้ แถมดูไปดูมาตอนนี้เริ่มจะเล่นกันแบบตันๆโรยๆไปแล้วด้วย

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เหมือนจะเริ่มท้อกันแล้วสำหรับสเปอร์ส เพราะเหลือเวลาไม่มาก แถมยังตามห่างอยู่ถึง 3-0 ทำให้เข้าใจได้อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าได้ประตูตีไข่แตกเร็วหน่อยก็อาจจะมีลุ้นกันขึ้นมาบ้าง

นาทีที่ 88 ดูแล้วเหมือนจะบอกเรดแนปป์ว่าน่าจะส่งเขาลงมาเร็วกว่านี้สำหรับเดโฟที่เพิ่งจะลงมาได้ไม่นาน ก็มาทำประตูตีไข่แตกได้ เมื่อกิ๊กส์จ่ายบอลพลาดไปเข้าเท้าของเดโฟที่เลี้ยงจี้เข้าหาเฟอร์ดินานด์ ก่อนที่จะปั่นบอลพุ่งเข้าไปเสียบตาข่ายชนิดที่เด เกอาไม่ทันจะได้ขยับ เพราะโดนปราการหลังปากเป็ดบังอยู่ สเปอร์สมีฮึดขึ้นมาบ้าง ตามมา 3-1

ช่วงเวลาที่เหลือก็มีลุ้นเสียวๆกันไป แล้วสุดท้ายไม่มีการทำประตูเกิดขึ้น จบ 90 นาทีแมนฯยูไนเต็ดแม้ว่าฟอร์มจะน่าเขกกบาล แต่ก็เอาชนะสเปอร์สไป 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส : แบรด ฟรีเดลล์, เล็ดลี่ย์ คิง, ยูเนส กาบูล, เบนอต์ อัสซู เอก็อตโต้, ไคล์ วอล์คเกอร์, เจ็ค ลิเวอร์มอร์, ซานโดร(ครันชาร์ น.80), ลูก้า โมดริช, แอร่อน เลนน่อน(โรส น.85), หลุยส์ ซาฮา(เดโฟ น.80), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เกอา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอฟร่า, ฟีล โจนส์, พอล สโคลส์(กิ๊กส์ น.61), ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอชลี่ย์ ยัง, นานี่(ปาร์ค น.80), เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค


ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคืนวันอาทิตย์
นิวคาสเซิ่ล เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1
ฟูแล่ม ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 5-0
สเปอร์ แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 1-3

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สุดยอดแมตช์ตลอดกาล