วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม
ฟุตบอลยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-3 แอธเลติก บิลเบา
จบเกมก่อนหน้า ทีม "เรือใบสีฟ้า" เพื่อนร่วมเมืองของปีศาจแดง เป็นฝ่ายปราชัยต่อสปอร์ติ้ง ลอสบอนไปก่อนแล้ว 1-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีข่าวดีเรื่องตัวผู้เล่นเมื่ออันแดร์สันฟื้นจากการบาดเจ็บที่หัวเข่ากลับมาเป็นตัวเลือกอยู่ข้างสนามเป็นหนแรกในรอบ 4 เดือน เช่นเดียวกับพวกที่ไปรับใช้ชาติมาอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์, ไมเคิ่ล คาร์ริคและหลุยส์ นานี่ที่ได้ออกสตาร์ทด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมนี้
เกมในช่วงต้นทั้งสองฝ่ายเปิดฉากรุกเข้าใส่กันทันทีโดยแมนฯยูได้โอกาสก่อนในนาที 4 จากจังหวะที่ชิชาริโต้แทงบอลทะลุช่องให้กิ๊กส์หลุดเข้าไปซัดทางด้านซ้ายของเขตโทษแต่ติดบล็อกซาน โฆเซ่ ขณะที่นาทีถัดมาญอเรนเต้โชว์ความยอดเยี่ยมหน้าเขตโทษด้วยการใช้ความใหญ่ของร่างกายพาบอลพลิกหนีแนวรับเจ้าบ้านจนได้วางเท้ายิงหลุดเสาขวาออกไปนิดเดียว
หลังปล่อยให้บิลเบาทำเกมบุกอยู่พักใหญ่ทาง"ปีศาจแดง"ก็โชว์ความเฉียบขาดออกมาให้เห็นเมื่อในนาที 23 กิ๊กส์ทำชิ่งกับชิชาริโต้จนสุดท้ายหัวหอกจังโก้ได้หลุดเข้าไปล็อคหลบแนวรับทีมเยือนในเขตโทษแล้วกดด้วยซ้ายไปติดเซฟอิไรซอสทว่ายังมีรูนี่ย์ที่วิ่งเข้ามาซ้ำดาบสองไม่เหลือซากให้ทีมขึ้นนำ 1-0
แต่บิลเบาก็ยังโหมบุกไม่หยุดเมื่อในนาที 37 อิราโอล่ากระชากบอลขึ้นมาสุดเส้นด้านขวาก่อนล็อคหลบจี-ซองที่วิ่งเข้ามาสกัดแล้วสับไกยิงด้วยอีซ้ายไปที่โคนเสาแรกแต่เด เกอาไม่หลงรีบล้มตัวปัดบอลออกหลังประตูไปได้อย่างหวุดหวิด
แล้วบิลเบาก็มาทวงสกอร์คืนจนได้ในนาที 44 เมื่อญอเรนเต้ใช้ความหนาของร่างกายครองบอลในกรอบเขตโทษก่อนจ่ายให้เพื่อนพาบอลไปขึ้นเกมทางด้านขวาแล้วเป็นซูซาเอต้าที่เปิดกลับเข้ามาหน้าปากประตูให้"เอล เรย์ เลออน"โหม่งเต็มกบาลผ่านตัวเด เกอาเข้าไปตุงตาข่าย จบครึ่งแรกเลยเสมอกันที่ 1-1
นาทีที่ 56 คริส สมอลลิ่ง กองหลังปีศาจแดง เกิดศีรษะแตกเลือดออกไม่หยุด ทำให้ต้องเปลี่ยนเอา ไมเคิ่ล แคร์ริค ลงแทน แล้วถอย ฟิล โจนส์ กลับไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ
นาทีที่ 68 บิลเบา พลาดขึ้นนำไปอีก อิเคร์ มูเนียอิน ทำชิ่งหนึ่งสองกับเพื่อนแล้วหลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปจิ้มด้วยซ้ายติดเซฟ เด เคอา
หลังโหมอยู่นานทำนบของ "ปีศาจแดง" แตกจนได้นาที 72 เมื่อ บิลเบา ทำชิ่งสวยหน้าเขตโทษสุดท้ายเป็น อันเดร์ เอร์เรร่า ยกบอลข้ามแนวรับเจ้าบ้านให้ ออสการ์ เด มาร์กอส พลิกยิงด้วยซ้ายจังหวะแรกเสียบเสาสองสุดสวยเป็น 2-1
ซ้ำร้ายไปกว่านั้นบิลเบามาได้ประตูขึ้นนำ 3-1 การเข้าซ้ำดาบสองของ อิเคร์ มูเนียอิน แต่อีกสองนาทีต่อมาผีแดงก็มาได้ประตูตีเป็น 2-3 จากการสังหารลูกที่จุดโทษของ เวย์น รูนี่ย์ และเป็นประตูที่สองในเกมของเจ้าตัวอีกด้วย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่เหลือผีแดงโหมบุกอย่างหนักเพื่อหวังทวงประตูตีเสมอแต่ไม่เป็นผลจบเกม แอธ.บิลเบา บุกพลิกเชือด แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 กุมความได้เปรียบไว้ได้ก่อนที่จะเปิดโอกาสให้แมนฯ ยู ยกพลไปแก้ตัวในสัปดาห์หน้าต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น