Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ค้นหาบล็อกนี้

คลังไฮไลท์แมตช์

ต้อนรับท่านสู่เดือนมิถุนายน เตรียมพร้อมมันส์ไปกับEuro2012

วันอาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555


ต้อนรับท่านสู่เดือนมิถุนายน เตรียมพร้อมมันส์ไปกับEuro2012
วิเคราะห์เกมส์พร้อมลุ้นเงิน เพียงแต่วิเคราะห์ว่าทีมไหนจะได้แชมป์ Euro 2012
หากคุณทายถูก รับส่วนแบ่งจากเรา มากกว่า 150,000 บาททันที อย่าพลาด ความสนุกที่คุณชื่นชอบได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ
http://staticpage.99383899.com/Promotion/Casino/th/casino_sign_up_bonus.html

ไฮไลท์แมตช์ อังกฤษ VS เบลเยี่ยม Friendly Match - เวลเบ็คประเดิมตุง! สิงโตเชือดเบลเยี่ยม 1-0 12bet 03/06/2555



อังกฤษหวิดเอาตัวไม่รอดในเกมอุ่นเครื่องที่เวมบลีย์รังของตนเอง แต่ยังดีที่ได้แดนนี่ เว็ลเบ็ค ที่ทำประตูแรกในนามทีมชาติช่วยให้เฉือนชนะเบลเยี่ยมไปหวุดหวิด 1-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 มิถุนยายน ที่ผ่านมา



วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 


ฟุตบอลอุ่นเครื่องทีมชาติ
อังกฤษ 1-0 เบลเยี่ยม 





รอย ฮอดจ์สัน ตัดสินใจดรอปเวนย์ รูนีย์ไว้ทีม้านั่งสำรอง โดยใช้งานแอชลีย์ ยัง และแดนนี่ เว็ลเบ็ค ประสานงานกันในแนวรุก ส่วนกองกลางเป็นสกอตต์ ปาร์เกอร์ และสตีเว่น เจอร์ราร์ด


ด้านเบลเยี่ยมก็มีสตาร์หลายคนที่เล่นกันในพรีเมียร์ชิพ นำโดยมารูยาน เฟลไลนี่ กองกลางหัวฟูของเอฟเวอร์ตัน หรือมุสซ่า เดมเบเล่ จอมพลิ้วของฟูแล่ม และเพลย์เมคเกอร์ เอด็อง อาซาร์ ที่เป็นสมาชิกใหม่ของเชลซี

ต้นเกมเกมของทั้งสองทีมก็ยังไม่ได้มีอะไรชัดเจนมากเท่าไหร่เพราะปรับกันอยู่ แต่แชมเบอร์เลนนี่แอบเสียหน้าเล็กน้อย เพราะจังหวะที่เพื่อนครอสบอลจากด้านข้างเข้าไปหน้าประตู มีเขาวิ่งมาเดี่ยวๆคนเดียวได้โอกาสยิงเน้น แต่เท้าหลักดันลื่น บอลเลยสอยโด่งข้ามคานไปไกล

นาทีที่ 17 ดูแล้วไม่น่าเล่นเลยจังหวะนี้ เพราะเคฮิลล์วิ่งเข้าไปสอดเอาตัวบังเมอร์เท่นส์ที่จะเข้าฉกบอลได้อยู่แล้ว แต่เขาดันไปใช้มือผลักแข้งเชลซีจนเข้าไปบวกกับฮาร์ทเต็มๆ ก่อนจะเอาบอลไปแปเข้าประตูเฉย แต่กรรมการเห็นชัดเจน เลยวิ่งเข้าไปแจกใบเหลืองให้ทันที

หลังจากปฐมพยายามกันอยู่พักหนึ่ง ดูแล้วอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ฮอดจ์สันเลยตัดสินใจเปลี่ยนเอาเคฮิลล์ออกทันที แล้วส่งเลสค็อตต์ลงไปเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คแทน

ผ่านมาถึงนาทีที่ 25 หน่อยๆ แม้ว่าชื่อเสียงจะดูด้อยกว่า แต่ถ้าดูตัวผู้เล่นกันจริงๆแล้วน่ากลัวอย่างแรงเลยสำหรับนักเตะของเบลเยี่ยมที่วันนี้ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ขึงใส่เจ้าถิ่นได้แล้วเช่นเดียวกัน

นาทีที่ 31 เรื่องอนาคตไว้ค่อยว่าแต่ตอนนี้ขอทำเพื่อชาติก่อน สำหรับโคลที่ประกบอาซาร์ซึ่งพลิ้วเหลือเกินไม่อยู่ เลยไปเข้าสกัดช้าเสียบโดนขาของอาซาร์เข้าเต็มๆ แต่ก็ถือว่าเป็นลูกหนักในเกมไม่มีปัญหาอะไร

อีก 5 นาทีต่อมา เล่นแย่กว่า แต่นำหน้าตาเฉยเลยสำหรับอังกฤษ เมื่อพวกเขาฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของเด็มเบเล่ที่ดันไปเสียบอลตรงกลางสนาม ก่อนที่ยังจะพาบอลดึงจังหวะแล้วไหลต่อไปให้กับเวลเบ็คหลุดเข้าไปตักบอลข้ามตัวผู้รักษาประตูอย่างเฉียบขาด อังกฤษนำแล้ว 1-0 และนี่ก็เป็นประตูแรกในนามทีมชาติของหัวหอกจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วย

ช่วงท้ายครึ่งแรก บุกกดดันเป็นกับเขาเหมือนกันสำหรับอังกฤษ เพราะพวกเขามีโอกาสลุ้นประตูติดๆกันถึงสองครั้ง แต่ก็ยังไม่ผ่านบล็อกของเบลเยี่ยมที่ยืนกันหนาแน่นดีเหลือเกิน

จบ 45 นาทีแรก เป็นอังกฤษที่ทำประตูนำไปก่อน 1-0 ต้องดูว่ารูปแบบเกมของพวกเขาจะเหมือนเดิมหรือไม่ในช่วงครึ่งหลัง

ครึ่งหลังนาทีที่ 53 ได้ลงเล่นเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆเขาสักทีสำหรับรูนี่ยืที่เปลี่ยนแทนเวลเบ็คผุ้ทำประตูเดียวในเกมนี้ออกไปพักข้างสนาม

ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มของเกมไป แม้ว่าเบลเยี่ยมจะมีปัญหาเรื่องการเจาะเข้าไปหาโอกาสทำประตูอยู่ แต่ด้วยการที่พวกเขาสามารถเก็บบอล ครองเกมได้ต่อเนื่อง เลยทำให้โอกาสค่อยๆขยับเพิ่มความน่ากลัวขึ้น เสียดายแต่จังหวะของเฟลไลนี่ที่ได้แตะเข้าไปในเขตโทษแล้ว แต่จังหวะยิงดันบดไปหน่อย

ครึ่งทางของครึ่งหลังมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกครั้งสำหรับอังกฤษ เมื่อพวกเขาส่งวัลค็อตต์และเดโฟลงไปเล่นแทนยังที่ดูแล้วเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บอยู่หน่อยๆ พร้อมกับทางแชมเบอร์เลนที่ถือว่าทำได้ไม่เลวเหมือนกันสำหรับเกมแรกในนามทีมชาติ

นาทีที่ 73 ได้ลงเล่นสมใจอยากแล้วสำหรับลูกากูเมื่อเขาถูกเปลี่ยนแทนที่ของเมอร์เท่นส์ เพียงแต่อาจจะไม่ถึงจุดที่เจ้าตัวหวังเอาไว้ เพราะก่อนเกมบ่นว่าอยากจะดวลกับเคฮิลล์และเทอร์รี่เพื่อนร่วมทีมเชลซี แต่ดันโดนเปลี่ยนตัวออกไปซะก่อน

อีก 3 นาทีต่อมา ไม่ได้เจอกับสองเซ้นเตอร์ก็มาดวลกับเพื่อนที่เล่นแบ็คก็ได้สำหรับลูกากูได้โอกาสสับไกเน้นๆในกรอบเขตโทษ แต่ไปติดบล็อกของโคลที่พุ่งกันแบบเต็มตัว ไม่งั้นฮาร์ทอาจจะงานเข้าเลยก็ได้

นาทีที่ 78 หวิดเสียประตูเลยสำหรับอังกฤษ เมื่อเจอลูกยิงลูกนี้ของยิลเล่ที่วิ่งมาตะบันเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงชนิดที่กล้องตามไม่ทัน ฮาร์ทก็ได้แต่ยืนมอง แต่บอลมันดันชนเสาเหลี่ยมนอก แฉลบออกไป

นาทีที่ 82 เกมช่วงหลังมานี้ไวและสนุกขึ้นอย่างแรง เมื่ออังกฤษใช้เกมสวนกลับจ่ายบอลไปถึงเดโฟในเขตโทษที่แตะออกขวา แล้วจัดการยิงทันที บอลพุ่งผ่านหน้าของมินญอร์เล่ต์ที่ได้แต่มองไปแล้วเหมือนกัน แต่ดันชนเสาจังเบอร์เด้งออกมาซะงั้น

ช่วงเวลาที่เหลือก็มีการโต้กันไปกันมาแบบแลกหมัด แต่สุดท้ายก็ไม่มีการทำประตูเพิ่มเติม อังกฤษเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้เหมือนกับสกอร์เมื่อเกมอุ่นเครื่องในนัดแรก 1-0

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์(เลสค็อตต์ น.19), แอชลี่ย์ โคล, เกล็น จอห์นสัน, สตีเว่น เจอราร์ด(เฮนเดอร์สัน น.83), สก็อตต์ ปาร์คเกอร์, อเล็กซ์ อ็อกเลด แชมเบอร์เลน(วัลค็อตต์ น.67), เจมส์ มิลเนอร์, แดนนี่ เวลเบ็ค(รูนี่ย์ น.54), แอชี่ย์ ยัง(เดโฟ น.67)

เบลเยี่ยม : ซิมองน์ มินญอเล่ต์, โธมัส แฟร์มาเล่น, แยน แฟร์ทองเก้น, กิลเล็ต กิลเลอเม่, ทิมมี่ ซิมงส์, มารูยาน เฟลไลนี่, เอ็กเซล วิตเซิล, รีส์ เมอร์เท่นส์(ลูกากู น.73), มุสซ่า เด็มเบเล่, เควิน มิรายาส(ชาดลี่ น.59), เอด็องน์ อาซาร์

ไฮไลท์แมตช์ ฮอลแลนด์ VS ไอร์แลนด์เหนือ Friendly Match - ดัตช์โหด! อาร์วีพีควงอเฟลลายเบิ้ลถลุงยับ 6-0 12bet 03/06/2555



โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ควงแขน อิบราฮิม อเฟลลาย ช่วยให้ยิงคนละสองประตูให้ทีมกังหันสีส้ม ฮอลแลนด์เอาชนะไอร์แลนด์เหนือ 6-0 ในเกมอุ่นเครื่องทีมชาติเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา 


วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน 2555 


ฟุตบอลอุ่นเครื่องทีมชาติ
ฮอลแลนด์ 6-0 ไอร์แลนด์เหนือ 


1-0



2-0



3-0



4-0



5-0



6-0



ฮอลแลนด์วางฟาน เพอร์ซี่ ซึ่งเลือกหมายเลขเสื้อเบอร์ 16 ไว้เป็นหน้าเป้า โดยมีคลาส แยน ฮุนเตเลาร์ เป็นตัวสำรอง ส่วนริมเส้นยังอาศัยอาร์เยน ร็อบเบน คอยป่วน โดยมีสไนจ์เดอร์ คอบบงการเกมตรงกลางสนามเหมือนเคย 


ต้นเกมมาทาง"กังหัน"ก็ขอลองส่องกันก่อนเลยจากจังหวะที่ถ่ายบอลไปมาแถวเขตโทษก่อนร็อบเบ็นจะไหลจากขวาเข้าตรงกลางให้กับสไนจ์เดอร์ได้โอกาสลองยิงดูแต่บอลก็ยังเขาเข้าซองแคมป์ไป

จากนั้นประตูขึ้นนำก็มาอย่างรวดเร็วในจังหวะที่เตะมุมเล่นสั้นมาที่ฟาน บอมเมลก่อนจะเคาะคืนไปให้กับสไนจ์เดอร์จัดการตั้งป้อมเปิดเข้าไปที่เสาสองและเป็นฟาน เพอร์ซี่ที่โฉบมาโขกมุมแคบส่งบอลผ่านมือแคมป์เข้าประตู ฮอลแลนด์นำแล้ว 1-0 ในนาทีที่ 11

อีก 4 นาทีให้หลัง"อัศวินสีส้ม"ก็ยังมาได้เพิ่มอีกประตูจนได้จากจังหวะได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 28 หลาตรงกลางๆประตู ฟาน เพอร์ซี่ขยับหลอกจะยิงแต่เป็นสไนจ์เดอร์ที่รับหน้าที่ปั่นบอลผ่านกำแพงมาก่อนจะพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม สกอร์ขยับเป็น 2-0 ในนาที 15

ฮอลแลนด์ยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่องแทบไม่เปิดโอกาสให้ไอร์แลนด์เหนือได้ลองโต้เลยแล้วก็มีลุ้นอีกครั้งจากการเลี้ยงตัดจากซ้ายเข้ามายิงของอเฟลลายแต่ก็ไม่ตรงกรอบ

ยังไม่พอนาที 29 "กังหัน"ก็มาบวกเพิ่มได้อีกประตูเป็นจังหวะที่เฟอร์กูสันดันไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษก่อนจะเป็นฟาน เพอร์ซี่รับหน้าที่สั่งหารเองเลือกยิงไปทางขวาแคมป์พุ่งผิดทาง ฮอลแลนด์ทิ้งออกไปไกลเพิ่มเป็น 3-0

ช่วงท้ายครึ่งแรกนาที 37 เจ้าบ้านยังร้อนแรงต่อเนื่องมาบวกประตูเพิ่มได้สำเร็จจากจังหวะที่ร็อบเบ็นพาบอลขึ้นมาก่อนจะจ่ายฝากไปหน้าเขตโทษที่ฟาน เพอร์ซี่แล้วดีดเข้าเขตโทษทางขวาให้กับอเฟลลายได้หลุดเข้าไปยิงส่งบอลเสียบเสาไกลหมดจด ฮอลแลนด์ชิลชิลนำ 4-0 หลังจากนั้นยังมีจังหวะอีกแต่ก็ไม่เกิดประตูทำให้จบครึ่งแรกที่สกอร์นี้

กลับมาเริ่มครึ่งหลังไปเพียงไม่เท่าไหร่เจ้าบ้านก็มาได้ประตูเพิ่มอีกครั้งจนได้จากจังหวะบอลริมเส้นจ่ายเข้าไปข้างในให้กับฟาน เพอร์ซี่แล้วเลือกจ่ายต่อย้อนกลับมาหน้าประตูถึงอเฟลลายได้ง้างเท้ายิงเน้นๆส่งบอลพุ่งโค้งเสียบเสาอย่างแม่นยำ ฮอลแลนด์ไป 5-0 แล้ว

หลังเกมนิ่งไปซักพักฮอลแลนด์ก็ยังได้ครองบอลต่อไปและเกือบจะมีเพิ่มในสกอร์บอรด์ด้วยจากจังหวะที่วิลเลียมส์เติมเกมขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษก่อนจะจ่ายเข้าไปให้กับสไนจ์เดอร์โฉบมาจับบอลทีนึงก่อนจะหันกลับมายิงแบบปั่นๆไปเสาไกลแต่บอลยังหลุดเสา

ฮอลแลนด์ยังไม่เพลารูปเกมได้โอกาสลุ้นต่อเลยจากจังหวะเตะมุมไปเสาไกล คาร์โรลล์ออกมาตัดบอลได้แล้วแต่ตะครุบไม่อยู่หลุดมาเข้าทางอเฟลลายยิงหลุดเสาเกือบได้แฮตทริก

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้ายไอร์แลนด์เหนือพยายามจะตั้งเกมแต่เจอฮอลแลนด์เล่นเกมเพรสดักบอลเอามาได้บ่อยครั้งและก็ยังเป็น"กังหัน"ที่ได้ลุ้นน่าเสียวไส้มากกว่าจากฟาน เดอร์ ฟาร์ทได้บอลตรงกลางนอกกรอบเขตโทษและสับไกยิงทันทีแต่ชนเสาอย่างจัง

และแล้วเจ้าบ้านก็มาได้ประตูที่หกเสียทีจากจังหวะเตะมุมทางซ้ายโดยอเฟลลายเปิดเข้ามาและเสาแรกและเป็นฟลาร์ที่วิ่งเข้ามาขวิดที่เสาแรกส่งบอลเข้าประตูไม่เหลือ ฮอลแลนด์ขึ้นเลข 6-0

ช่วงท้ายเกมเกือบจะมีเพิ่มอีกประตูจากการยิงไกลของฟาน เดอร์ ฟาร์ทที่เรียกว่าเน้นๆแล้วกะเข้าสามเหลี่ยมแน่แต่คาร์โรลล์ยังเยี่ยมบินปัดได้ ทำให้จมเกมฮอลแลนด์ก็เอาชนะไอร์แลนด์เหนือไปแบบโหดไส้ทะลัก 6-0

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม 
ฮอลแลนด์ : มาร์เท่น สเตเคเลนเบิร์ก, รอน ฟลาร์, จอห์น ไฮติงก้า, เจโทร วิลเลี่ยมส์ (ชาร์ส น.78), เกรกอรี่ ฟาน เดอร์ วีล, ไนเจล เด ยอง, มาร์ก ฟาน บอมเมล (ฟาน เดอร์ ฟาร์ท น.56), อิบราฮิม อเฟลลาย, อาร์เยน ร็อบเบ็น (นาร์ซิงห์ น.82), เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ (เคาท์ น.70), โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ฮุนเตลาร์ น.56)

ไอร์แลนด์เหนือ : ลี แคมป์ (คาร์โรลล์ น.45), ไมเคิ่ล ดัฟฟ์ (แม็คอาร์ดี้ น.63), ลี ฮอดสัน, เจมส์ แม็คเพ็ค, เดเนียล ลาฟเฟอร์ตี้, แซมมี่ คลินแกน (แม็คกีเวร์น น.45), แกรนท์ แม็คแคนน์ (คาร์สัน น.45), แอนดรูว์ ลิตเติ้ล (แม็คกินน์ น.55), โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, เชน เฟอร์กูสัน (ฮีลี่ น.82), วิลเลียม กริกก์ 

ไฮไลท์คลิป คลิปตัดต่อท่าดีใจฮาขั้นเทพของนักบอล 12bet 03/06/2555



สีสรรอย่างหนึ่งของวงการฟุตบอลย่อมหนีไม่พ้นท่าทางการดีใจของบรรดานักฟุตบอล บางคนทำได้น่าหมั่นไส้ แบบเธียร์รี่ อองรี อดีตกัปตันตำนานของอาร์เซน่อล หรือบางคนอาจจะนิ่งเงียบไม่ดีใจ  แต่จะเป็นอย่างไรและฮาแค่ไหนเมื่อมีคนตัดต่อระดับเทพมาทำให้การฉลองประตูเต็มไปด้วยความฮา...




ไฮไลท์คลิป โอ้จ๋อย..โดนม็อตต้าตบเกรียนผงก 12bet 03/06/2555



มาริโอ บาโลเตลลี่ ชื่อนี้ไม่ต้องบอกก็คงทราบกันดีว่ามารยาทงามแค่ไหน วันนี้มีคลิปที่ดูแล้วแฟนบอลต้องแอบสะใจกันบ้างแน่ๆ เมื่อเกรียนโอ้ที่รักไปแกล้งดึงเอาเน็คไทของ ติอาโก้ ม็อตต้า ในระหว่างการถ่ายรูปใส่สูทของทีมชาติอิตาลี่ จึงโดนอดีตมิดฟิลด์บาร์เซโลน่า โบกเข้าที่ท้ายทอยจนหน้าผงะไปทีนึง





เมื่อหลายปีก่อนคงจำกันได้ว่าเจ้าตัวเคยโดนสั่งสอนไปทีนึงแล้วที่อิตาลี่สมัยอยู่กับอินเตอร์ มิลาน จากฝีเท้าของฟรานเชสโก้ ต็อตติ กัปตันทีมโรม่า ที่หวดเข้าข้างหลังสนั่นดังฟังชัด ...แต่นิสัยแบบนี้น่าจะมีคนออกมาสั่งสอนอีกเรื่อยๆแหละนะโอ้เอ๊ย

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สุดยอดแมตช์ตลอดกาล