Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ค้นหาบล็อกนี้

คลังไฮไลท์แมตช์

ม้าขาวแผ่วปลาย!ไมนซ์10ตัวเปิดบ้านรัวแซง3-1

วันเสาร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554


ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน
วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2554
ไมนซ์ 3    -    1 สตุ๊ตการ์ท
        "ม้าขาว" สตุ๊ตการ์ท พลาดการทำอันดับขึ้นรองจ่าฝูงอย่างน่าเสียดาย หลังบุกยิงประตูนำ ไมนซ์ เจ้าบ้าน ไปก่อน 1-0 แต่ออกอาการแผ่วปลายถูก ไมนซ์ ฮึดยิงรัวแซงชัย 3-1 เกมนี้เจ้าบ้านเหลือผู้เล่น 10 คนโดย ออยเก้น โพลันสกี้ ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ในศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา 


สนาม : โคเฟซ อารีน่า

        ไมนซ์ ทีมในโซนท้ายตารางคะแนน ที่ไม่ชนะมาแล้วถึง 9 เกมซ้อน เปิดบ้านปะทะ สตุ๊ตการ์ท ในบุนเดสลีกา เยอรมัน นัดที่ 12
        โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ไมนซ์ส่ง ออยเก้น โพลันสกี้ กับ เอลคิน โซโต้ กัปตันทีมเป็นตัวหลักแดนกลาง ส่วน บรูโน่ ลับบาเดีย เทรนเนอร์สตุ๊ตการ์ทส่ง คาเคา ดาวยิงทีมชาติเยอรมันเชื้อสายบราซิเลียน กัปตันทีมนำทัพ
        เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 6 นาที ม้าขาวทักทายน่ากลัว เมื่อ คาเคา ผ่านบอลให้ ชินจิ โอกาซากิ ยิงเท้าขวาจากนอกกรอบเขตโทษข้ามคาน
        นาที 19 เจ้าถิ่นได้บอล ออยเก้น โพลันสกี้ ผ่านบอลให้ อันเดรียส อีวานชิตซ์ ซัดเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย
        นาที 26 สตุ๊ตการ์ทเกือบได้ประตู จากจังหวะที่ ชินจิ โอกาซากิ ทำทางให้ ทามาส ไฮจ์นัล ยิงเท้าซ้ายระยะไกล เข้าข้างประตู
        ท้ายเกมครึ่งแรก นาที 37 นิโกไล มุลเลอร์ โหม่งตั้งให้ อันเดรียส อีวานชิตซ์ ซัลโวเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปติด สเวน อุลไรช์ เซฟได้เยี่ยม จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
        เข้าสู่ครึ่งหลัง นาที 50 สตุ๊ตการ์ทได้ประตูนำ 1-0 มาร์ติน ฮาร์นิค โยนบอลให้ คาเคา ซัดเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษเข้าประตูไป
        อย่างไรก็ตาม ไมนซ์ ตีเสมอ 1-1 เอลคิน โซโต้ มิดฟิลด์ กัปตันทีมโยนบอลมาเข้าหัว แอนโธนี่ อูจาห์ โหม่งเผาขนตุงตาข่ายนาที 53
        และแล้วนาที 60 เจ้าถิ่นพลิกสถานการณ์กลับมานำ 2-1 มาซ่า ทำฟาวล์ นิโกไล มุลเลอร์ ในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าให้ ไมนซ์ ได้ลูกจุดโทษทันที และเป็น อันเดรียส อีวานชิตซ์ สังหารจุดโทษเท้าซ้ายเข้าประตูไป
        นาที 64 ไมนซ์ นำห่าง 3-1 จากจังหวะโต้กลับเร็ว อันเดรียส อีวานชิตซ์ โหม่งตั้งให้ แอนโธนี่ อูจาห์  ซัลโวเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไป
        จากนั้นทีมม้าขาวบุกหนัก เพื่อทำประตูเพิ่มให้ได้ วิลเลี่ยม ควิสท์ มิดฟิลด์ยิงเท้าขวาระยะไกลติด คริสเตียน เวทโคล่ เซฟไว้ได้ นาที 75
        นาทีที่ 83 เจ้าบ้านมาเหลือผู้เล่น 10 คนโดย ออยเก้น โพลันสกี้ ถูกใบแดงไล่ออกโดยตรงจบเกม ไมนซ์ 05 ถล่ม สตุ๊ตการ์ท ขาดลอย 3-1 แต่หลังเกมแข้งม้าขาวถูกไล่ออกเหมือนกันโดย เฟรเดริโก้ โรดริเกซ ไม่พอคำตัดสินและเข้าไปประท้วงเลยถูกใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง

สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

เทพโด้กด2!ราชันบุกเชือดลียงคาถิ่น2-0

วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี
วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2554
ลียง (ฝรั่งเศส) 0 - 2 เรอัล มาดริด (สเปน) 
        ฟอร์มเทพไม่เลิก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดคนเดียว 2 ลูก ช่วยให้ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด บุกมาเอาชนะ ลียง ได้ถึงถิ่น 2-0 พร้อมทั้งซิวชัย 4 นัดรวดการันตีเข้ารอบเรียบร้อย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
สนาม : สต๊าด เดอ แชร์กล็องด์

        การพบกันระหว่างสองทีมดังที่เจอกันจนเบื่อไปข้าง คราวนี้ ลียง เปิดรังพบ เรอัล มาดริด หลังบุกพ่ายเละ 0-4 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน เริ่มเกมได้ไม่ถึง 10 นาที ทีมเยือนเกือบบุกนำเร็วเมื่อ คาริม เบนเซม่า ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ทว่าติดซูเปอร์เซฟ อูโก้ โยริส ปัดออกเส้นหลังได้เยี่ยม
        ยังคงเป็น เรอัล เดินหน้าบุกซะส่วนใหญ่ กระทั่งนาที 23 โยอันน์ กูร์กกุฟฟ์ ไปทำฟาวล์ เบนเซม่า เสียฟรีคิกระยะอันตรายหน้าเขตโทษ และเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดแหวกช่องว่างกำแพงหายวาบเข้าตุงตาข่าย 1-0
        สถานการณ์ยังเหมือนเดิม ลียงได้แต่ตั้งรับแถมเกือบโดนอีกลูกจาก เมซุต โอซิล แต่ไม่ผ่านมือ โยริส กระทั่งนาที 35 เจ้าถิ่นเพิ่งจะมีโอกาสลุ้นหนแรก มูอามาดู ดาโบ เติมขึ้นมาเปิดจากซ้ายออกเสาไกลให้ จิมมี่ บริย็องด์ ยิงไปตรงตัว อีเกร์ กาซิยาส
        ถัดมาได้ครู่เดียว เรมี่ การ์ด กุนซือลียงพบข่าวร้ายเมื่อ เดยัน ลอฟเรน กองหลังโครแอตบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยนเอา บาการี่ โกเน่ ลงไปแทน และหมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด บุกมานำ 1-0
        เล่นต่อครึ่งหลังไม่ทันไร ลียงเกือบตีเสมอจาก บริย็องด์ ลุยมาทางขวาเปิดลึกเข้าทางปืน คิม คัลล์สตรอม อัดเปรี้ยงด้วยซ้ายทว่าไม่เข้าเป้าหลุดเสาไปไกล
        แต่ยังคงเป็น เรอัล ที่ครองบอลมากกว่าจนกระทั่งนาที 69 มาได้จุดโทษเมื่อ โรนัลโด้ ลุยเข้าเขตโทษพลิกหนี โยริส ก่อนโดน มูอามาดู ดาโบ ขวางทางพุ่งชนล้มลงไปกอง และเป็นยอดแข้งโปรตุกีส ลุกขึ้นมาสังหารเองไม่พลาด 2-0 และเป็นสกอร์ครบร้อยในสีเสื้อ "ราชันชุดขาว" ด้วย
        ช่วงเวลาที่เหลือ ทีมเยือนเน้นครองเกมรักษาสกอร์ ขณะที่ ลียง ก็เหมือนถอดใจเร่งไม่ขึ้นแล้ว จบเกม เรอัล มาดริด บุกชนะสบาย 2-0 ซิวชัย 4 นัดรวดในกลุ่มดี พร้อมการันตีเข้ารอบเรียบร้อย


สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

เรือใบแล่นฉิ่วบุกถลุงบียาร์เรอัลไม่ไว้หน้า3-0

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2554
บียาร์เรอัล (สเปน) 0 - 3แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ) 
        ยาย่า ตูเร่ โชว์ฟอร์มเก่งหลังซัดคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ บุกไปชนะ บียาร์เรอัล ถึงบ้าน 3-0 ใน ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
สนาม : เอสตาดิโอ เอล มาดริกัล, กาสเตย่อน

        เกมสำคัญของกลุ่ม เอ ที่ เอสตาดิโอ เอล มาดริกัล, กาสเตย่อน เจ้าถิ่น "เยลโล่ซับมารีน" ที่ยังไม่มีสักแต้มรับมือ "เรือใบสีฟ้า" ที่ต้องการ 3 แต้มเพื่อการเข้ารอบ เจ้าถิ่นขาดหอกหลักต้องส่ง โฆเซลู เล่นหน้าเป้า ส่วนทีมเยือนวาง มาริโอ บาโลเตลลี่ เป็นหอกเดี่ยว
        เริ่ม เกมมา บียาร์เรอัล มีโอกาสทักทายทีมเยือนก่อนเลยเมื่อ โจนาธาน เด กูซมัน จ่ายบอลตัดจากขวาเข้ากลาง เอร์นาน เปเรซ ตั้งป้อมกดด้วยขวาจากระยะ 30 หลา บอลพุ่งจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ โจ ฮาร์ท พุ่งเซฟติดหนึบ
        เกม ยังอยู่กันที่กลางสนามเป็นส่วนใหญ่ ครบครึ่งชั่วโมง แมนฯ ซิตี้ ออกนำจนได้เมื่อ ดาบิด ซิลบา เลื้อยพาบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนไหลให้ ยาย่า ตูเร่ ลากแหลกนักเตะเจ้าถิ่นเข้ามาทิ่มด้วยขวาเสียบโคนเสาสองเป็น 1-0
        ทีม เยือนยังคงมีลุ้นอย่างต่อเนื่อง และเกือบได้ประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ ซามีร์ นาสรี่ กระชากเข้ามาส่องด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ ทว่ายังไม่ผ่านมือ ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารเจ้าถิ่นบินปัดออกหลัง
        นาทีสุดท้าย ของครึ่งแรก "เรือใบสีฟ้า" นำห่างเมื่อมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ มาริโอ บาโลเตลลี่ โดน มาเตโอ มูซัคคิโอ กระแทกล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ดาวยิงทีมชาติอิตาลีจะลุกขึ้นมาสังหารเองไม่เหลือเป็น 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว
        กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังถึง หนึ่งชั่วโมงของเกมทีมเยือนมามีลุ้นก่อนเลยจากจังหวะที่ "ซูเปอร์มาริโอ"  รับบอลที่ระยะ 30 หลาก่อนพลิกเข้าขวาแล้วตะบันเต็มเท้าบอลพุ่งวาบเฉี่ยวสามเหลี่ยมบนนิดเดียว แบบได้ลุ้น
        หลังจากนั้นไม่นาน "ซิตี้" มีลุ้นอีกรอบจากจังหวะที่ ยาย่า ตูเร่ แย่งบอลได้กลางสนามก่อนแทงให้ ซามีร์ นาสรี่ ที่นอกกรอบเขตโทษก่อนกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ลากเข้ามาปั่นโค้งจากหน้ากรอบเขตโทษหลุดเสาสองออกหลัง
        กระทั่ง นาที 71 ทำนบเจ้าถิ่นก็แตกอีกครั้งเมื่อ ซามีร์ นาสรี่ แทงบอลให้ บาโลเตลลี่ ที่ริมเส้นฝั่งซ้ายก่อน "บาโล" ตบเข้ากลางทันทีมาถึง ยาย่า ตูเร่ เลี้ยงหลบตัวสุดท้ายของเจ้าบ้านแล้วแปเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาดเป็น 3-0
        ช่วงเวลาที่เหลือ "ซิตี้" ครองเกมเอาไว้ได้หมดแล้ว ขณะที่เจ้าถิ่นก็ไม่เอาแล้ว และเล่นเรื่อยๆ รอเวลาหมด สุดท้ายไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม บียาร์เรอัล 3-0 แซง นาโปลี ขึ้นรองฝูงของกลุ่ม

สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

ผีลุ้นเหนื่อย!ก่อนเปิดรังเชือดโอเตลุล2-0

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี
วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน 2554
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 2-0 โอเตลุล กาลาติ (โรมาเนีย) 
        "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้ตามเป้าหลังเปิดบ้านเอาชนะ โอเตลุล กาลาติ 2-0 โดยได้ประตูจาก อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ เวย์น รูนี่ย์ เก็บเพิ่มอีกสามแต้ม ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

        แมนฯ ยูไนเต็ดเจ้าบ้านมี 5 คะแนนจาก 3 เกมที่ผ่านมา เกมนี้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จับเวย์น รูนี่ย์ ลงมาเล่นกองกลางแล้วให้ ไมเคิ่ล โอเว่น จับคู่กับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วนทีมเยือนที่แพ้มารวด 3 นัด ยังจัดชุดใหญ่ลงสนามนำโดย คอร์เนล ราปา, โลนัต เนกู และ เซอร์กิอู คอสติน กัปตันทีม
        เริ่มเกมมาได้แค่ 8 นาทีเจ้าถิ่นที่ครองบอลได้มากกว่าก็มาได้ประตูออกนำ เบอร์บาตอฟ ฉีกตัวมารับบอลทางฝั่งขวาก่อนจ่ายให้ ฟิล โจนส์ ที่เล่นแบ็กขวาเติมขึ้นมาเปิดไปที่หน้าประตูให้โอเว่น ชาร์จ แต่ไม่โดนบอลเลยไปถึง อันโตนิโอ วาเลนเซีย แปจ่อที่เสาสองเข้าไป "ปีศาจแดง" นำก่อน 1-0
        ผ่านไปแค่ 10 นาทีเท่านั้น เจ้าถิ่นก็ต้องถอด ไมเคิ่ล โอเว่น ที่มีอาการเจ็บออกจากสนาม โดยเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ส่ง  ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ลงไปเล่นแทน
        หลังจากนั้น เกมส่วนใหญ่ก้ยังเป็นของเจ้าถิ่น แต่"ปีศาจแดง" ก็ได้แตาครองบอลยังหาโอกาสเจ้าะแผงหลังเข้าไปยิงเน้นไม่ได้จะมีก็จาก ฟิล โจนส์ ที่รับบอลจากวาเลนเซีย ก่อนกระชากเข้าปยิงด้วยซ้ายแต่ก็ยังไปติดบล็อกของกองหลังทีมเยือนในนาทีที่ 33
        ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 10 นาทีแมนฯ ยูไนเต็ด เกือบโดนตีเสมอเมื่อ นานี่ จ่ายบอลคืนหลังให้ริโอ เฟอร์ดินานด์ พลาดจนโดน โลนัต เนกู ฉกพาบอลเข้าไปยิงทางซ้ายของเขตโทษ บอลแฉลบขาเฟอร์ดินานด์ แต่ เด เคอา ยังไวปัดทิ้งออกไปได้ทัน ทำใหจบครึ่งแรก เจ้าบ้านยังนำอยู่ 1-0
        กลับ ลงมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังได้ไม่กี่นาที แมนฯ ยูไนเต็ด มีลุ้นทันทีเมื่อ ฟิลโจนส์ พาบอลขึ้นมาทางขวาแล้วจ่ายมาให้ ชิชารืโต้ ครองบอลแล้วไหลให้ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ วิ่งสอดหลุดเข้าไปยิงทางซ้ายของเขตโทษแ แต่มุมแคบและ บรานโก้ กราโฮวัค ก็ยังออกมาบล็อกได้ทันเวลา
        ผ่าน 10 นาทีของครึ่งหลังเป็นทีมเยือนที่เริ่มได้บุกกดดันเจ้าถิ่นบ้าง และมีโอกาสจากลูกเตะมุมของโซริน ฟรุนซ่า ที่โยนไปให้ คริสเตียน ซาร์กี โขกที่เสาสองแต่ เด เคอา ยังรับไว้ได้ไม่พลาด
        แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะได้ประตูที่สองในนาทีที่ 58 จากการทำชิ่งกันระหว่าง อันแดร์สัน กับ เบอร์บาตอฟ ให้มิดฟิลด์แซมบ้าหลุดเข้าไปยิงทางซ้ายของเขตโทษ บอลผ่านนายทวารที่ออกมาบล็อกกำลงจะเข้าประตู แต่ เซอร์กิอู คอสติน กัปตันทีมวิ่งมาสกัดทิ้งไปได้ทัน
        "ปีศาจแดง" พลาดโอกาสได้ประตูที่สองไปอีกครั้งในนาทีที่ 75 เมื่อ ราปา จ่ายบอลคืนหลังพลาดไปให้ เบอร์บาตอฟ ฉกบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายแต่มุมค่อนข้างน้อยและเบอร์บาตอฟก็ยิงไม่ค่อยดีบอล เข้าด้านข้างตาข่ายเท่านั้น
 นาทีที่ 87 เจ้าถิ่นมาได้ประตูเพิ่มจากจังหวะที่ เวย์น รูนี่ย์ ได้ซัดนอกกรอบตรงกลางประตู ลูกพุ่งแรงก่อนจะโดนกองหลังทีมเยือนสกัดเปลี่ยนทางเข้าประตู ทำให้ "ปีศาจแดง" หนีห่างไปเป็น 2-0
        หลังจากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เหนือกว่าก็เน้นครองบอลประคองเกมไปเรื่อยๆ ไม่ได้เดินหน้าบุกกดันมากเท่าไร กระทั่งจบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บชัยเหนือ โอเตลุล กาลาติ 2-0 ทำให้มีแต้มเพิ่มเป็น 8 แต้ม โอกาสเข้ารอบสูงทีเดียว


สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

เมสซี่แฮตทริก!บาร์ซ่าถล่มวิคตอเรียไม่ยั้ง4-0

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช.
วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2554

วิคตอเรีย พิลเซ่น (สาธารณรัฐเช็ก) 0    -    4 บาร์เซโลน่า (สเปน)
        ลิโอเนล เมสซี่ โชว์ฟอร์มเทพอีกครั้งหลังกดคนเดียวสามตุงช่วย "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยกพลไล่ถล่ม วิคตอเรีย พิลเซ่น ยับเยิน 4-0 ผ่านเข้ารอบน็อคเอ๊าต์ได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ เอซี มิลาน คู่แข่งกลุ่มเอช ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอช. เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา

สนาม : เอเดน สเตเดี้ยม (ปราก, สาธารณรัฐเช็ก)

        บาร์เซโลน่า ยอดทีมแห่งลา ลีกา สเปน บุกมาเยือนถิ่นของ วิคตอเรีย พิลเซ่น ที่สาธารณรัฐเช็ก โดย
พาเวล เวอร์บา กุนซือเจ้าถิ่นขาด มาเร็ค เช็ก นายทวารมือ 1 บาดเจ็บหัวเข่า ทำให้ โรมัน พาฟลิค เฝ้าเสาแทน ขณะที่ บาร์ซ่านำทัพโดย ลิโอเนล เมสซี่, เชส ฟาเบรกาส แต่พัก ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรส อิเนียสต้า นั่งสำรอง
        เกมครึ่งแรก นาที 17 เจ้าถิ่นมีลุ้นเมื่อ ฟรานติเซ็ค รายโตรัล โยนบอลแม่นยำให้ ดาเนียล โกลาร์ ซัดเท้าขวาในกรอบเขตโทษ บอลถากเสาออกไป
        ขณะเดียวกัน มาริยัน ชีซอฟสกี้ เซนเตอร์ฮาล์ฟพิลเซ่นโดนใบแดง หลังจากทำฟาวล์ ลิโอเนล เมสซี่ อย่างน่าเกลียดในกรอบเขตโทษนาที 22 ผู้ตัดสินเป่าให้ บาร์ซ่า ได้ลูกจุดโทษ เมสซี่ รับหน้าที่สังหารจุดโทษตุงตาข่าย บาร์เซโลน่า นำ 1-0
        สามนาทีต่อมา เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวสำรอง ส่ง ฟรานติเช็ค เซวินสกี้ ลงเล่นแทน มาเร็ก บากอส จากนั้นนาที 31 เซร์คิโอ บุกเก็ตส์ ได้บอลจ่ายให้ เมสซี่ ซัดเท้าซ้ายจากนอกกรอบเขตโทษไปติด พาฟลิค เซฟอยู่หมัด
        เข้าสู่ช่วงท้ายเกมครึ่งแรก ดาเนียล อัลเวส จ่ายบอลให้ อาเดรียโน่ ซัลโวเท้าขวาในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายไปติด พาฟลิค นาที 43
        และแล้วความพยายามของบาร์ซ่าเป็นผลนำห่าง 2-0 อาเดรียโน่ จ่ายบอลให้ ลิโอเนล เมสซี่ ยิงเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษตุงตาข่าย นาที 45 จบครึ่งแรก บาร์เซโลน่า นำห่าง 2-0
     มาต่อกันในครึ่งเวลาหลังจวบจน นาทีที่ 55 ฟาเบรกาส ได้บอลโยนให้ ติอาโก้ อัลคานตาร่า โขกเผาขนติด โรมัน พาฟลิค พลาดได้ประตูนำห่างอย่างน่าเสียดาย
     เจ้าถิ่นสบโอกาสจะทำประตูนาทีที่  67 เมื่อ ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ โยนบอลให้ มิลาน ปีเตอร์เซล่า ยิงเท้าขวา เข้าข้างประตู
     บาร์ซ่าน่าได้ลูกที่สาม เมื่อ เมสซี่ โยนให้ ติอาโก้ อัลคานตาร่า โหม่งชนคานอย่างจังนาที 67
     จากนั้นนาที 72 บาร์ซ่าโลน่าได้ประตูที่สาม นำห่าง 3-0 จนได้ อิซัค กูเอนก้า โยนบอลแม่นยำมาเข้าหัว เชส ฟาเบรกาส ขึ้นโขกตุงตาข่ายไม่เหลือซาก
     เกมผ่านมาถึงช่วงทดเจ็บนาทีที่ 92 บาร์ซ่าได้ประตูปิดกล่อง 4-0 โดย เมสซี่ ที่รับบอลจาก เคราร์ด ปีเก้ ซัดเข้าไปอีกตุงและนับเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้อีกด้วย จบเกม บาร์เซโลน่า บุกมาชนะ วิคตอเรีย พิลเซ่น แบบถล่มเละ 4-0 ส่งผลให้ บาร์ซ่า ผ่านเข้ารอบน็อคเอ๊าต์ได้สำเร็จ เช่นเดียวกับ เอซี มิลาน คู่แข่งกลุ่มเอช  

สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

ปืนกระสุนด้าน!เปิดบ้านเจ๊าโอแอ็มจืด0-0

ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก 
รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอฟ.
วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน 2554
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 0    -    0 โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส)
        "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เกิดอาการลำกล้องฝืดเสียแล้วหลังเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอ "โอแอ็ม" โอลิมปิก มาร์กเซย ไปแบบจืดสนิท 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ. เมื่อคืนวันอังคารที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม (ลอนดอน, อังกฤษ)  

        อาร์เซน่อล ที่กำลังท็อปฟอร์ เปิดเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม พบ โอลิมปิก มาร์กเซย รองแชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 หลังจาก ปืนใหญ่ บุกไปชนะ มาร์กเซย 1-0 ที่สต๊าด  เวโลโดรม ในการเล่นนัดที่ 3
        อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสที่นำทัพคว้าชัยชนะ 5 นัดรวดในทุกรายการส่ง คาร์ล เยนกินสัน เล่นแบ็กขวา พาร์ค ชู-ย็อง กองหน้าเกาหลีใต้ลงตัวจริง แต่ใส่ชื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่เพิ่งทำแฮท-ทริค นัดบุกต้อน เชลซี 5-3 เป็นตัวสำรอง ทางด้าน ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์มาร์กเซย นำทีมชนะ 3 เกมซ้อนในการลงเล่นทุกรายการ ซึ่งเขาส่ง มาติเยอ วัลบูเอน่า, โลอิก เรมี่ นำทัพกาน่า
        เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียงนาทีเดียว มาติเยอ วัลบูเอน่า หนีการประกบของ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ก่อนทำชิ่งให้ อังเดร อายิว เปเล่ ปีกซ้ายทีมชาติกาน่าเลี้ยงบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย และจ่ายให้ จอร์แดน อายิว เปเล่ น้องชายตอกส้น ถากเสาออกไป
        นาทีที่ 4 "โอแอ็ม" มีลุ้นอย่างต่อเนื่อง โลอิก เรมี่ ผ่านบอลมาเข้าทาง อังเดร อายิว ซัดที่เสาแรก เข้าข้างตาข่าย
        ขณะที่เจ้าถิ่นตอบโต้ได้น่ากลัว นาทีที่ 9 แชร์วินโญ่ ผ่านบอลทางฝั่งขวาให้ ธีโอ วัลค็อตต์ ซัด ในกรอบเขตโทษฝั่งขวาติด สตีฟ ม็องด็องด้า นายทวารปัดบอลออกเส้นหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
        นาที 15 แชร์วินโญ่ ได้บอลหลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษติด สตีฟ ม็องด็องด้า และหกนาทีต่อมา วัลบูเอน่า ดาวเตะโอแอ็มสบโอกาสยิงไกลมากกว่า 30 หลาไปติด วอจเซียค เซคเซสนี่
        นาที 23 มาร์กเซยบุกขึ้นมาอีกครั้ง เบอนัวต์ เชย์รู ชิ่งบอลให้ โลอิก เรมี่ ยิงเผาขนถากเสาไม่กี่หลา
        เข้าสู่นาที 40 มิเกล อาร์เตต้า มิดฟิลด์อาร์เซน่อลสังหารฟรีคิกระยะ 23 หลา บอลพุ่งเข้าข้างตาข่าย จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
        มาถึงครึ่งหลัง อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมปืนใหญ่ส่ง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เล่นแทน พาร์ค ชู-ย็อง นาที 61 และ โทมัส โรซิคกี้ ได้ลงมาเล่นแทน อารอน แรมซี่ย์ นาที 65
        นาทีที่ 76 ปืนโตเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ได้ซัดเต็มเท้าหน้าประตูติด ม็องด็องด้า ที่โชว์ป้องกันเอาไว้ได้
        เวลาที่เหลืออยู่ นักเตะทั้งสองทีมยังทำอะไรไม่ถนัดและไม่มีทีมใดทำประตูได้ จบเกม อาร์เซน่อลเปิดบ้านทำได้เพียงเสมอ โอลิมปิก มาร์กเซย 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม


สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!! 
รหัสรับโบนัส  12TH11100  ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สุดยอดแมตช์ตลอดกาล