Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ไฮไลท์แมตช์ เชลซี VS สโต๊ค ซิตี้ Premier League - สิงห์หืดดร็อกยิงบดปั้นหม้อ 10 คน 1-0 12bet 11/03/2555

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2555

Share this history on :




เชลซี ต้องออกแรงเหนื่อยหนักกว่าจะเก็บสามแต้มเต็มในแสตมฟอร์ด บริดจ์ กว่าจะบดสโต๊ค ซิตี้ ที่เหลือ 10 คน ได้ 1-0 จากประตูชัยของดิดิเยร์ ดร็อกบา เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา


วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม 2555


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เชลซี 1-0 สโต๊ค ซิตี้










นี่เป็นเกมแรกของเชลซีในเวทีพรีเมียร์ ลีก หลังจากปลดโบอาสออกไปและแต่งตั้วดิ มัตเตโอขึ้นคุมทัพชั่วคราวแทน ต้องดูว่าจะได้ผลการแข่งสมใจแฟนบอลหรือไม่

วันนี้ดิ มัตเตโอเลือกส่งแข้งตัวเก๋าอย่างดร็อกบา, แลมพาร์ดและโคลลงเล่นพร้อมเพรียงและดร็อปตอร์เรสเอาไว้ที่ข้างสนาม

แต่ที่น่าแปลกใจอยู่นิดๆก็คือเขาเลือกจะเก็บมาต้าเอาไว้เป็นตัวสำรอง ทั้งที่แข้งสแปนิชถือว่าเป็นตัวขับเคลื่อนให้ทีมมาโดยตลอด

เริ่มเกมมา เชลซีก็เปิดเกมบุกใส่ทีมเยือนอย่างสโต๊คแทบจะทันที เพราะแน่นอนว่าพวกเขาต้องการ 3 คะแนนในเกมนี้เป็นอย่างมากจากช่วงเวลาสุดยากลำบากของทีม

นาทีที่ 8 ได้ลุ้นเหมือนกันสำหรับจังหวะเติมเกมขึ้นสูงของเคฮิลล์ที่แตะๆลากๆไปเรื่อยจนเข้านะยะแล้วกดด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งทะแยงแวหกอากาศ แต่ก็ไปติดเซฟของเบโกวิชที่ทุบออกหลังไปได้

นาทีที่ 17 อุตส่าห์ได้มีจังหวะขึ้นไปลุ้นประตูจากความผิดพลาดของเทอร์รี่ที่ดันไปสะดุดขาจนล้มลง ทำให้วอลเตอร์สได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่ก็ไปยิงติดบล็อกของเคฮิลล์ที่ตามมากันได้สวย แม้จะได้ซ้ำดาบสองก็หวดแป้กออกหลังไป

นาทีที่ 25 งี่เง่าโดยแท้จริงๆสำหรับฟูลเลอร์ทั้งที่มีประสบการณ์มากกว่าใครหลายคนในทีม แต่คุมอารมณ์ไม่อยู่ในจังหวะที่อีวาโนวิชเข้าสกัดแล้วไปสะกิดโดนเขาจนตัวเอียง แต่จังหวะเอาเท้าลงกลับเจตนาย่ำไปที่ต้นขาของแบ็คเชลซีแบบเต็มๆ ผู้ตัดสินเห็นชัดแจกใบแดงให้แบบไม่ต้องมีอุทธรณ์ งานงอกแล้วสำหรับสโต๊ค

เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงเต็ม ตอนนีและต่อไปเรื่อยๆเกมทั้งหมดน่าจะตกเป็นของเชลซี เนื่องจากมีผู้เล่นเยอะกว่าหนึ่งคน รวมทั้งการที่ได้เล่นในบ้าน ตอนนี้ทุกอย่างเข้าทาง "สิงห์ไฮโซ" หมดแล้ว

นาทีที่ 32 มีฟ้องเหมือนกันสำหรับเทอร์รี่ เพราะจังหวะเตะมุมเขาโดนตอด โดนดึงอยู่แทบจะตลอดเวลาจนผู้ตัดสินต้องมาเคลียร์ ก่อนที่เจ้าตัวจะเป็นคนโหม่งลุ้นประตูให้กับทีม แต่บอลดันเด้งไปชนคานซะนี่

อีก 5 นาทีต่อมา ถือว่าตัดสินใจรวดเร็วจริงๆสำหรับดิ มัตเตโอ เมื่อตัดสินใจถอดรามิเรสออกแล้วส่งมาต้าซึ่งเป็นตัวรุกเต็มข้อลงสนามแทน เพื่อโอาสในการทำประตูที่มากขึ้นกับจำนวนนักเตะที่มากกว่าในตอนนี้

นาทีที่ 40 มีคานเป็นมารผจญอีกแล้วสำหรับเชลซี เมื่ออีวาโนวิชที่เติมสูงอุตส่าห์ได้ยืนตั้งป้อมยิงแบบเน้นในกรอบเขตโทษแล้ว แต่เหมือนจะช้อนใต้ลูกไปนิด ทำให้บอลมันเหินชนคานพุ่งออกหลังไป

ช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่มีการทำประตูเกิดขึ้น สุดท้ายเกมยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0 ต้องไปลุ้นกันต่อในครึ่งหลัง

แม้ว่าตัวผู้เล่นจะมากกว่าและไปแก้เกมกันมาแล้วในช่วงพักครึ่ง แต่ตอนนี้เชลซีก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของสโต๊คที่เล่นกันได้อย่างเหนียวแน่นไปได้เลย ดูแล้วถ้ายิ่งเวลาผ่านความกดดันอาจจะเพิ่มขึ้นเองก็ได้สำหรับเจ้าบ้าน

นาทีที่ 60 กลายเป็นว่าสองจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดในเกมนี้ของเชลซีเป็นของสองกองหลังอย่างเคฮิลล์ที่ลุ้นไปในครึ่งแรกและคราวนี้ก็เป็นเทอร์รี่ที่เติมขึ้นสูงไปกดเน้นๆ บอลพุ่งโคตรแรง แต่มันดันเลี้ยวปลายพุ่งหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 66 นึกว่าจะใส่สกอร์ไปแล้วสำหรับเชลซี เมื่อดร็อกบาจัดการปั่นฟรีคิกบอลพุ่งโค้งโคตรสวย แต่เป็นเบโกวิชที่พุ่งสุดตัวบินไปปัดทิ้งออกหลังได้อย่างเหลือเชื่อ น่าเสียดายแทนเจ้าบ้านจริงๆ

อีก 2 นาทีต่อมา ในที่สุดก็ทำได้เสียทีสำหรับดร็อกบา เมื่อมาต้าโชว์จังหวะยอดเยี่ยมม้วนหนีกองหลังหน้าประตู ก่อนที่จะจิ้มต่อไปให้กับดร็อกบาพลิกตัวในกรอบเขตโทษ แตะหนีเบโกวิชอีกรอบแล้วแปบอลเข้าไปตุงตาข่าย ลีลาเด็ดขาดจริงๆ เชลซีขึ้นนำไปแล้ว 1-0

ทุกอย่างมันบีบบังคับทีมเยือนทั้งหมดเลยจริงๆ เพราะนอกจากผู้เล่นน้อยกว่าแล้วยังมามีสกอร์ตามหลัง ทำให้พวกเขาต้องขยับทำเกมรุกบ้าง หากหวังที่จะคว้าแต้มออกไปในวันนี้

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ตอนนี้สโต๊คฮึดกลับขึ้นมาสู่กันอย่างเต็มที่อีกครั้งและได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกเรื่อยๆด้วย ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะสามารถทำได้หรือไม่กับเวลาที่เหลืออยู่นี้

นาทีที่ 87 น่าจะทิ้งห่างไปแล้วสำหรับเชลซี แต่เหมือนวันนี้จะติดๆขัดๆน่าดู รวมทั้งจังหวะที่มาต้าปั่นฟรีคิกสุดสวย บอลพุ่งโค้งได้ที่ แต่ดันไปชนเสาเด้งออกมาซะได้ หลายช๊อตเลยวันนี้

จบ 90 นาทีเป็นเชลซีที่แม้จะหืดจับไปหน่อย แต่ก็สามารถคว้าสามคะแนนด้วยชัยชนะเหนือสโต๊คไป 1-0 ถือว่าทำได้โอเคเลยสำหรับดิ มัตเตโอ

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 


เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี่, แกรี่ เคฮิลล์, แอชลี่ย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช(ลูอิซ น.45), จอห์น โอบี มิเกล (สเตอร์ริดจ์ น.67), ราอูล เมเรเลส(มาต้า น.38), ซาโลมอง กาลู, รามิเรส, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , แฟรงค์ แลมพาร์ด

สโต๊ค ซิตี้ : แอสเมียร์ เบโกวิช, โรเบิร์ต ฮูธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ค วิลสัน (อัพสัน น.51), แอนดี้ วิลกินสัน, ซาลีฟ ดิเยา (ปาลาซิออส น.51), ดีน ไวท์เฮด, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ , ไรอัน ช๊อตตัน, โจนาธาน วอลเตอร์ส, เคนวิน โจนส์(เจอโรม น.60)
Thank you for visited me, Have a question ? Contact on : youremail@gmail.com.
Please leave your comment below. Thank you and hope you enjoyed...

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น