Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ไฮไลท์แมตช์ เรอัล มาดริด vs อาโปเอล นิโคเซีย Uefa Champions League - โด้เด็ดขาด ซัด2 ตุง อาโปเอลลิ่วรอบรอง 12BET 5/4/2555

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

Share this history on :


คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงต่อเนื่องหลังซัดคนเดียว 2 ลูก ช่วยให้ เรอัล มาดริด ถล่ม อาโปเอล นิโคเซีย 5-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับ บาเยิร์น มิวนิค ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ 4 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา

ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดสอง ฤดูกาล 2011-12

วันพุธที่ 4 เมษายน 2555
เรอัล มาดริด (สเปน) 5 - 2 อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) 

(รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด ชนะ 8-2)
สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว, มาดริด 


        "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด จ่าฝูงลา ลีกา สเปน ฟอร์มสุดยอดเหลือเกิน บุกไปขย้ำ อาโปเอล นิโคเซีย ของไซปรัส มายับเยิน 3-0 ถึงถิ่นจีเอสพี สเตเดี้ยม ในนัดแรก         เกมนี้ ทีมชุดขาวไม่มี ซามี เคดิร่า มิดฟิลด์ตัวตัดเกมทีมชาติเยอรมันมีอาการป่วย ส่วน ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ยังเดี้ยงไม่เลิก แต่ได้ เปเป้ กลับมายืนในแนวรับร่วมกับ ราฟาแอล วาราน แล้วขยับ เซร์คิโอ รามอส ไปเป็นแบ็คขวา         
         แดนกลางให้ ฮามิต อัลตินท็อป ลงมาทำเกมรุกทางด้านขวา โดยมี กาก้า บงการเกมตรงกลาง และ ด้านซ้ายเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส โดย เมซุต โอซิล มีชื่อเป็นแค่สำรองเช่นเดียวกับ ชาบี อลอนโซ่ ที่พ้นแบนกลับมา         หน้า เป้าเป็น กอนซาโล่ อิกวาอีน ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ซึ่งเพิ่งพังตาข่ายให้เรอัล ครบ 101 ประตูในนัดดับซ่าส์ โอซาซูน่า ลงมาล่าตาข่าย         ทางด้าน อาโปเอล นิโคเซีย ไม่มี ปานอส คอนสตานตินู ที่มีอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ มาร์เซโล่ โอลิเวยร่า กองหลังที่เจ็บจากเกมนัดแรก ต้องพักทั้งซีซั่น แต่ได้ตัว กุสตาโว่ มันดูก้า กองกลางจอมทัพชาวบราซิล พ้นโทษแบนกลับมา         

       ในแนวรับให้ เคลาเดียโน่ กาก้า กองหลังวัย 30 ปี ชาวบราซิเลี่ยนอีกรายที่ยืมมาจากแฮร์ธ่า เบอร์ลิน ลงมาเล่นแทนตำแหน่งของ มาร์เซโล่ โอลิเวยร่า         ก่อนเริ่มเกมนี้ได้มีพิธียืนไว้ อาลัยเป็นเวลาหนึ่งนาทีให้กับ โฆเซ่ ซาร์ราก้า อดีตกองกลางระดับตำนานของทีมที่อยู่ในชุดคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพห้าปีซ้อน ระหว่างปี 1956-60 ซึ่งเสียชีวิตด้วยวัย 81 ปี เมื่อวันอังคารที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา พร้อมทั้งผู้เล่นของเรอัลชุดปัจจุบันทุกรายได้สวมปลอกแขนดำแสดงความเคารพต่อ ซาร์ราก้าด้วย         ออกสตาร์ทครึ่งแรกไปได้แค่ 2 นาที ชุดขาว ได้ลุ้นก่อนเลย จากจังหวะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สับขาหลอกกองหลังของอโปเอล ก่อนผ่านเข้ากลาง ผู้เล่นทีมเยือนสกัดไม่ดีมาเข้าทางของ กอนซาโล่ อิกวาอีน โหม่งหลุดเสาแรกไป         

       สามนาทีต่อมา เจ้าบ้านได้ลุ้นจากจังหวะที่ กาก้า ผ่านเข้าในกองหลังของอาโปเอล สกัดไม่ดีเลยโดน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตะบันด้วยซ้ายจ่อๆ แต่ไปติดตัว อูร์โก้ ปาร์โด้ นายทวารของอาโปเอล บล็อคบอลออกหลังไปได้ทัน         เกมเป็นแบบวันเวย์ เรอัล มาดริด สนุกอยู่ข้างเดียว กาก้า จ่ายให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดด้วยขวาบอลโด่งข้ามคานไปในนาทีที่ 12         อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 26 เจ้าถิ่นได้ประตูขึ้นนำจนได้จากจังหวะที่ มาร์เซโล่ ผ่านบอลจากซ้ายเข้ากลาง กอนซาโล่ อิกวาอีน โหม่งโดนบางๆบอลมาทาง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เติมมาทางเสาสองแปด้วยขวาจ่อๆเข้าไปให้ เรอัล มาดริด นำก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 7 ของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในยูเอฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ ขึ้นมาทาบ คาริม เบนเซม่า เพื่อนร่วมทีมแล้ว         

        ครึ่ง ชั่วโมงของเกม อาโปเอล นิโคเซีย ได้ลุ้นเป็นครั้งแรกจากจังหวะที่ กุสตาโว่ มันดูก้า ผ่านบอลให้กับ เฮลิโอ ปินโต้ ซัดหลุดกรอบออกไป         ชุดขาว บดต่อเนื่องมีโอกาสอีกในนาที 35 กอนซาโล่ อิกวาอีน ไหลให้กับ ฮามิต อัลตินท็อป ตะบันหลุดเป้าไป         อย่าง ไรก็ตาม เรอัล มาดริด มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จนได้ในนาทีที่ 36 เมื่อ มาร์เซโล่ พาบอลขึ้นมาทางซ้ายไหลย้อนกลับมาให้กับ กาก้า กองกลางเพื่อนร่วมชาติชาวบราซิเลี่ยน จับแล้วปั่นโค้งด้วยขวาจากนอกกรอบเขตโทษด้านซ้ายส่งบอลเลี้ยวเสียบเสาไกล เข้าไปอย่างงดงาม         เกมรุกของเรอัล ดุดันเหลือเกินทำชิ่งกันขึ้นมาสวย ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะผ่านเข้ากลางให้กับ กาก้า ยิงโค้งด้วยขวาบอลไปชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดายในนาทีที่ 41         สี่ นาทีต่อมา เรอัล มาดริด ได้ลุ้นจากจังหวะที่ นูรี่ ซาฮิน เปิดให้กับ ราฟาแอล วาราน ซัดไม่เข้ากรอบ หมดครึ่งแรก เรอัล มาดริด นำก่อน 2-0         

        กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง เรอัล เปลี่ยนเอา มาร์เซโล่ วิเอยร่า ออกมาพักแล้วให้ โฆเซ่ กาเยฆอน ที่หายเจ็บกลับมาลงสนามแทน         ชุดขาว ยังเดินเครื่องบุกต่อ มีโอกาสในนาทีที่ 50 โรนัลโด้ ไหลเข้าในให้กับ กาก้า ซัดบอลไม่เข้ากรอบ         หลัง จากนั้นห้านาที เรอัล เปลี่ยนเอา อังเคล ดิ มาเรีย ปีกซ้ายชาวอาร์เจนไตน์ ที่กลับมาฟิตแล้ว ลงมาเล่นแทน กอนซาโล่ อิกวาอีน เพื่อนร่วมชาติ         ฮา โปเอล ยังสู้อยู่ นูโน่ โมราอิส ไหลบอลให้กับ คอนสแตนตินอส ชาราลัมบิเดส กัปตันทีมกระหน่ำยิงแต่บอลไม่ตรงกรอบ ในนาทีที่ 55         จากนั้นนาที 65 เจ้าบ้านเปลี่ยนผู้เล่นเป็นคนสุดท้ายให้ ราอูล อัลบิโอล ลงมายืนในแดนกลางแทน เอสเตบัน กราเนโร่         สอง นาทีต่อมา ทีมเยือนได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากจังหวะที่ต่อบอลกันสวยงามเป็นทอดๆตั้งแต่แดนกลาง ก่อนที่ ไอล์ตัน จะผ่านทะลุขึ้นหน้าให้กับ กุสตาโว่ มานดูก้า สอดมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนแปด้วยซ้ายผ่าน กาซียาส เข้าไป พอยิงได้ มานดูก้า โดนเปลี่ยนตัวออกทันทีให้ อัลโด้ อดอร์โน่ ลงมาเล่นแทน         

         พอ ได้ประตูไล่มา อาโปเอล มีกำลังใจมากขึ้น เกือบได้ประตูตีเสมอ เอสเตบัน โซลารี่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาไหลให้กับ คอนสแตนตินอส ชาราลัมบิเดส หวดหลุดกรอบไปในนาทีที่ 70         ห้านาทีต่อมา ชุดขาว มาได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ได้ฟรีคิกทางกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะปั่นโค้งด้วยขวาส่งบอลเลี้ยวเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามให้ เรอัล มาดริด นำขาด 3-1 เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และเป็นประตูที่ 8 ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้         ท้ายเกมนาทีที่ 80 เรอัล มาดริด มาได้ประตูนำขาด 4-1 จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย วางบอลยาวจากทางด้านขวาไปทางกราบซ้ายใกับ โฆเซ่ กาเยฆอน พักอกแล้วลากมาหวดด้วยขวาเบียดเสาแรกเข้าไป         

         สองนาทีต่อมา อาโปเอล ไล่ขึ้นมาเป็น 2-4 จากจังหวะที่ ราอูล อัลบิโอล ไปเสียบ ซัตซิอาส ตัวสำรองร่วงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ เอสเตบัน โซลารี่ รับหน้าที่ยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น         เรอัล มาบีบแย่งบอลไปได้ ก่อนที่ อังเคล ดิ มาเรีย จะพาบอลเข้าไปชิปด้วยซ้ายเข้าไปอย่างเหนือชั้นให้ ชุดขาว นำขาด 5-2 ในนาทีที่ 84         เวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้อีก จบเกม เรอัล มาดริด เปิดบ้านทุบเอาชนะ อาโปเอล นิโคเซีย ไปสบาย 5-2 รวมผลสองนัด เรอัล มาดริด เข้ารอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 8-2 โดยเกมแรกของรอบรองฯ เรอัล มาดริด จะบุกไปเยือน บาเยิร์น มิวนิค ในวันอังคารที่ 17 เมษายน นี้

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม  

เรอัล มาดริด
:
อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - เซร์คิโอ รามอส, ราฟาแอล วาราน, เปเป้, มาร์เซโล่ วิเอยร่า (โฆเซ่ กาเยฆอน น.46) - นูรี่ ซาฮิน, เอสเตบาน กราเนโร่ (ราอูล อัลบิโอล น.65) - ฮามิต อันตินท็อป, กาก้า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - กอนซาโล่ อิกวาอีน (อังเคล ดิ มาเรีย น.55) สำรองที่ไม่ได้ใช้ : อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู), คาริม เบนเซม่า, เมซุต โอซิล, ชาบี อลอนโซ่
ใบเหลือง : -

อาโปเอล นิโคเซีย : อูร์โก้ ปาร์โด้ - ซาฟวาส ปูร์ไซติเดส, เปาโล จอร์จ, เคลาเดียโน่ กาก้า, วิลเลี่ยม เบาเวนตูร่า - นูโน่ โมราอิส, เฮลิโอ ปินโต้ (มารินอส ซัตซิอาส น.78) - คอนสแตนตินอส ชาราลัมบิเดส (กัปตันทีม), มาร์ซินโญ่, กุสตาโว่ มันดูก้า (อัลโด้ อดอร์โน่ น.68) - ไอล์ตัน (เอสเตบัน โซลารี่ น.70) สำรองที่ไม่ได้ใช้ : ดิโอนิซิออส คิโอติส (ผู้รักษาประตู), มาริออส อิเลีย, เน็คตาริออส อเลซานดรู, เอลแดร์ ซูซ่า
ใบเหลือง : ซาฟวาส ปูร์ไซติเดส น.75
ผู้ตัดสิน : จานลูก้า ร็อคคี่ (อิตาลี)
Thank you for visited me, Have a question ? Contact on : youremail@gmail.com.
Please leave your comment below. Thank you and hope you enjoyed...

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น