Blogger Widgets
Sporty Magazine official website | Members area : Register | Sign in

ไฮไลท์แมตช์ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส VS แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด Promere League - รถด่วน,ยังคนละตุงช่วยผีอัดกุหลาบ 2-0 ทิ้งเรือ 5 แต้ม 12bet 03/04/2555

วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

Share this history on :


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก้าวขาข้างนึงขึ้นไปจับถ้วยพรีเมียร์ลีกไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังบุกเอาชนะแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ได้ถึง อีสู้ด พาร์ค 2-0 จากประตูของอันโตนิโอ วาเลนเซีย ปีกชิงคันเซง และ แอชลีย์ ยัง โดยนำห่างแมนฯซิตี้ออกไปถึง 5 แต้ม


วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 2555


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 






เกมนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสำคัญมากเพียงใด เพราะถ้าหากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดสามารถเก็บชัยชนะได้ พวกเขาจะมีคะแนนหนีห่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ไปถึง 5 แต้มบนหัวตารางพรีเมียร์ ลีก

เช่นเดียวกันกับทางแบล็คเบิร์นที่ยังไงก็ต้องพยายามเก็บคะแนนให้ได้ เพื่อเพิ่มโอกาสในการหนีตกชั้นให้พ้นในฤดูกาลนี้

ทั้งกองเชียร์ กองแช่ง ก็อาจจะต้องลุ้นกันเต็มที่ว่าเด เกอาจะหลอนมาจากเมื่อเกมแรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดหรือไม่ หลังจากเขาทำผิดพลาดจนเป็นเหตุให้ทีมพ่ายคาบ้านมา

ปีศาจจแดงางสองศูนย์หน้าอย่างรูนี่ย์และเอร์นานเดซลงล่าตาข่าย เพื่อจะทำลายสถิติที่แทบจะไม่ชนะในอีวู้ด ปาร์คเลย เพราะล่าสุดต้องย้อนไปถึงปี 2008 กันทีเดียวานแบล็คเบิร์นวันนี้ไม่มีกลัวจ่าฝูงแต่อย่างใด ใช้แผนกองหน้าสองตัว ส่งทั้งยาคูบูและฮอยเล็ตต์ลงสนาม


เริ่มเกมมาได้ 6 นาที รูนี่ย์ก็โชว์จังหวะวางบอลสวยๆยาวขึ้นไปข้างหน้า กองหลังแบล็คเบิร์นสกัดไม่ขาด มาถึงชิชาริโต้ที่จ้องบอลเขม็งแล้วตวัดยิงด้วยซ้าย แต่มีโอลส์สันวิ่งเข้ามากัน ทำให้เตะออกหลังไป แถมตัวเองเจ็บด้วย

นาทีที่ 11 นึกว่าหายไปซะแล้วสำหรับจังหวะนี้ที่วาเลนเซียเปิดบอลเร็วจากด้านข้างมาจุดนัดพบที่เสาแรก เอร์นานเดซพุ่งเข้าปาดหน้าตามสูตร แต่บอลมันไปชนเสา แล้วก็โดนมือของโรบินสันที่ล้มลงไปแล้ว ก่อนจะขลุกขลิกคว้าบอลเอาไว้ได้โดยที่ยังไม่ข้ามเส้นประตูเข้าไป

นาทีที่ 17 ยังตื่นตัวได้ดีสำหรับเด เกอา เพราะฮอยเล็ตต์เล่นฉวยโอกาส ลองปั่นไซด์จากระยะไกล บอลพุ่งโค้งวาดจะเสียบเสาแรก แต่เด เกอายังบินไปปัดทิ้งออกหลังได้ทัน

เกมนี้เหมือนจะมีอาการเกร็งไม่ต่างกันของทั้งสองทีม เพราะต้องการชัยชนะเป็นอย่างมาก แม้แมนฯยูไนเต็ดจะภาษีดีกว่า แต่อย่างที่สถิติชี้ไว้ว่าพวกเขามาเยือนที่นี่ทีไรลำบากทั้งครั้ง ส่วนแบล็คเบิร์นยังไงก็ขอมีแต้มในเกมนี้ เลยเน้นเอาฐานชัวร์ไว้ก่อน เกมรุกค่อยหาโอกาสไปเรื่อยๆ

นาทีที่ 34 น่าจะเป็นจังหวะทำเกมที่สวยที่สุดของแมนฯยูไนเต็ดในเกมนี้เลย เมื่อพวกเขาโยกบอลจากซ้าย ถ่ายออกไปขวาในจังหวะสวนกลับ ก่อนที่วาเลนเซียจะเปิดบอลเข้ากลาง แรงไปนิด แต่ก็มีโจนส์ที่สอดไปทางเสาสอง ถึงอย่างนั้นก็โหม่งได้ไม่ถนัดเหมือนสกัดให้เจ้าบ้าน อดีตต้นสังกัดเขาเลย

อีก 3 นาทีต่อมา ก่ะเล่นงานให้หง๋อไปเลยสำหรับเอ็นซองซี่ เพราะจังหวะไม่มีอะไรที่โรบินสันเตะฟรีคิกขึ้นมา แต่เขาที่เบียดอยู่กับโจนส์ตรงกลางสนามกลับใช้แขนเหวี่ยงอดีตเพื่อนร่วมทีมชนิดที่หน้าคว่ำคะมำลงกับพื้น

นาทีที่ 41 แมนฯยูไนเต็ดโวยกันเต็มที่เลย ในจังหวะที่พวกเขาถ่ายบอลจนถ่างช่องในแนวรับของแบล็คเบิร์นได้สำเร็จ ก่อนที่คาร์ริคจะเข้าไปตวัดเปิดบอลในกรอบเขตโทษ แล้วแฮนลี่ย์พุ่งตัวเข้าบล็อกเหมือนจะติดแฮนด์ แต่เมื่อดูจากภาพช้าแล้วก็ไม่น่าให้ เพราะเก็บแขนแนบลำตัวแบบเต็มที่ที่สุดแล้ว

ก่อนหมดเวลา แมนฯยูไนเต็ดเกือบจะพังซะแล้ว เพราะพวกเขามาโดนแบล็คเบิร์นกดดันเอาคืน เริ่มจากจังหวะที่โอลส์สสันได้วอลเล่ย์แถวสอง บอลพุ่งลอดดากกองหลัง กำลังจะเข้าไปเสียบตาข่าย แต่เด เกอาบินมาปัดเอาไว้ได้ ก่อนที่จะมาดีดตัวเซฟด้วยปลายนิ้วจากลูกโหม่งของฉอนลี่ย์ต่อเนื่อง รอดหวุดหวิดเลยสำหรับทีมเยือน ก่อนที่เว็บบ์จะเป่าหมดครึ่งแรก


นาทีที่ 55 จังหวะฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษของแมนฯยูไนเต็ด รูนี่ย์เป็นคนสั่งหาร แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของโรบินสันที่วันนี้ดูจะขยับเขยื้อนเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นใจไปหมดทุกจังหวะ


อีก 4 นาทีต่อมา เกือบจะโดนด่าเละเทะแล้วสำหรับคาร์ริค ที่เหมือนเสียสมาธิ ไปจ่ายกลับหลังพลาดเข้าเท้ายาคูบู จนเกือบจะโดนเล่นงานเอา แต่ลูกยิงจังหวะสุดท้ายหลุดกรอบออกไป รอดตัวเหมือนกัน

นาทีที่ 61 ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่วันของเขาสำหรับเอร์นานเดซที่วันนี้เล่นไม่ค่อยจะออก ก่อนที่แมนฯยูไนเต็ดจะต้ส่งเวลเบ็คลงไปเล่นแทนเขา ต้องดูว่าเกมรุกจะมีมิติอะไรมากขึ้นหรือไม่

เป็นช่วงเวลาที่ทำผลงานได้ดีทีเดียวสำหรับแบล็คเบิร์น เพราะสามารถทำเกมกดดันทีมเยือนแบบต่อเนื่องไม่ให้ได้หยุดพักหายใจ รวมทั้งจังหวะฟรีคิกของพีเดอร์เซ่นที่ซัดฝ่ากำแพงของแมนฯยูไนเต็ดไปได้ แถมเด เกอายังทำให้แค่ปัดๆบอลจนกระฉอกออกมา ยังดีที่มีเฟอร์ดินานด์ที่ตามมาเคลียร์ทิ้งไปได้ก่อน

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย ตอนนี้สลับกลับมาเป็นแมนฯยูไนเต็ดที่ได้กดดันคืนบ้าง เพราะมีโอกาสเปิดเตะมุมหลายครั้งติดต่อกัน แต่ยังไม่เข้าเป้าเลยสักที ดูแล้วมีแววกดดันเพิ่มขึ้นแน่ ถ้าหากเวลาเหลือน้อยลงกว่านี้

นาทีที่ 77 ต้องชมการตัดสินใจของโรบินสันเลย ในจังหวะที่แมนฯยูไนเต็ดเจาะหาช่องได้ กิ๊กส์ถ่ายออกให้รูนี่ย์ในกรอบเขตโทษด้านข้าง ก่อนที่จะตวัดเข้ามาตรงกลาง แต่โรบินสันพุ่งออกมาคว้าเอาไว้ได้แบบเฉียบสุดๆ

เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนฯยูไนเต็ดยังคงพยายามเดินหน้าทำเกมรุกต่อไป แต่จริงๆเกมนี้คงต้องบอกว่าผลัดกันรุกรับซะมากกว่า เพียงแต่ช่วงท้ายเกมนี้เป็นแมนฯยูไนเต็ดที่บุกกดดันช่วงหลังอย่างหนัก

นาทีที่ 81 โยนมาหลายทีไม่เคยจะเข้าเป้า วาเลนเซียเลยเหลืออดได้บอลทางริมเส้น ก่อนที่จะจี้เข้าหากองหลังแล้วซัดด้วยขวา ส่งบอลปั่นไซด์ก้อยพุ่งโค้งผ่านมือของโรบินสันไปเสียบเสาไกลสวยสุดๆ แมนฯยูไนเต็ดนำแล้ว 1-0

อีก 4 นาทีต่อมา แมนฯยูไนเต็ดมาทิ้งห่างการันตีชัยชนะ จากลูกยิงสุดสวยของยัง ที่เพิ่งจะถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง โดยเขาได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่จะยึดยักหลอกจะจ่ายแล้วตวัดตัวยิงทันที บอลพุ่งผ่านมือโรบินสันเช็ดเสาแรกเข้าไปอย่างสวย แมนฯยูไนเต็ดทิ้ง 2-0 งานนี้ไม่พลาดแน่แล้ว

จบ 90 นาที เป็นแมนฯยูไนเต็ดที่สุขสมหวังเอาชนะแบล็คเบิร์นไปด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้พวกเขามีคะแนนฉีกหนีแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในอันดับที่ 2 ไปเป็น 5 แต้มเข้าให้แล้วในตอนนี้

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม 


แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน, สก็อตต์ แดนน์, แกรนท์ แฮนลี่ย์, มาร์ติน โอลส์สัน, แบรดลี่ย์ ออร์, สตีเฟ่น เอ็นซองซี่, เจสัน โลว์, มาร์คุส โอลส์สัน, เดวิด ฮอยเล็ตต์, ยาคูบู อเย็กเบนี่, มอร์เท่น กัมส์ป พีเดอร์เซ่น

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดาวิด เด เกอา, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอฟร่า, ราฟาเอล, พอล สโคลส์(ยัง น.80), ไมเคิ่ล คาร์ริค, ฟีล โจนส์(กิ๊กส์ น.63), เวย์น รูนี่ย์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ(เวลเบ็ค น.61)
Thank you for visited me, Have a question ? Contact on : youremail@gmail.com.
Please leave your comment below. Thank you and hope you enjoyed...

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น