วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2555
ฟุตบอล เดเอฟเบ โพคาลรอบชิงชนะเลิศ
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 3-1 บาเยิร์น มิวนิค
ณ สนาม โอลิมเพียสตาดิโอน ในเบอร์ลิน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์ยุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุด ลงสนามเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค รองแชมป์ซึ่งมีคิวลงหวดยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในวันที่ 19 พค.นี้กับเชลซี
เสือเหลือง ส่งผู้เล่นส่วนใหญ่จากเกมถล่ม ไฟร์บวร์ก 4-0 ลงตัวจริงนำโดย ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ชินจิ คางาวะ และ เควิน โกรสครอยท์ซ ตามลำดับ ขณะที่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วน จุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือบาเยิร์นส่ง อาร์เยน ร็อบเบน, ฟร้องค์ ริเบรี่, มาริโอ โกเมซ ดาวซัลโวประจำทีมนำทัพ
แฟนๆยังไม่เข้าที่นั่งกันเต็มดีเลย แค่ 3 นาทีเท่านั้น ดอร์ทมุนด์ก็มาได้ประตูนำไปก่อนจากจังหวะที่ขึ้นเกมขึ้นมาแล้วเป็นหลุยส์ กุสตาโว่ที่สกัดบอลไปแต่ส่งคืนหลังไม่ดีคูบาถึงบอลก่อนนอยเออร์ที่พยายามจะออกมากันก่อนตบเข้ากลางให้กับคากาวะแปเข้าประตูโล่งๆ เสือเหลืองนำ 1-0
ห้านาทีต่อมา เป็นโอกาสของบาเยิร์นบ้างเมื่อร็อบเบนพาบอลขึ้นมาก่อนจะไหลทะลุช่องไปให้กับโกเมซหลุดเข้าไปแต่จังหวะยิงมีไวเดนเฟลเลอร์ถลาออกมาบล็อกได้ทันบอลออกหลังไป จังหวะนี้ไวเดนเฟลเลอร์เหมือนจะโดนขาของโกเมซเข้าที่ท้องในจังหวะสุดท้ายต้องปฐมพยาบาลกันซักพักก่อนจะกลับมาเล่นต่อได้
หลังเสียประตูเกมส่วนใหญ่ก็เป็นเสือใต้ที่ได้ครองบอลมากกว่าแต่ก็ยังเจาะเกมรับเสือใต้ไม่ได้ เกมนี้การโจมตีทางริมเส้นที่เป็นจุดเด่นของบาเยิร์นยังไม่ค่อยได้สร้างความหนักใจให้กับดอร์ทมุนด์ซักเท่าไหร่นักทั้งร็อบเบนและริเบรี่ยังเงียบๆทั้งคู่
ความเคลื่อนไหวบนที่นั่งเกมนี้มีเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันกุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาชมเกมนี้ด้วยไม่รู้ว่าเป้าหมายจะเป็นชินจิ คากาวะหรือเปล่า
บาเยิร์นมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ครูสแทงบอลทะลุไปให้กับโกเมซแตะบอลได้ก่อนไวเดนเฟลเลอร์ที่พยายามออกมากันแต่ดันไปเป็นการรวบหัวหอกร่างใหญ่เข้าให้ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษแต่โชคดีที่ให้แค่ใบเหลืองกับโกล์ดอร์ทมุนด์ และก็เป็นร็อบเบนที่รับหน้าที่สังหารไม่พลาดยิงเสียบมุมขวาเข้าไป เสือใต้ตีเสมอเป็น 1-1 แล้ว ในนาทีที่ 24
นาทีที่ 32 ริเบรี่ก็หลอกพิสซ์เซ็คจนหลังหักก่อนจะตวัดมาหน้าประตูให้กับลาห์มเติมขึ้นมาก่อนจะได้จังหวะยิงแต่ฮุมเมิลส์ก็ยังบล็อกไว้ได้ เกือบไปดอกนี้สำหรับดอร์ทมุนด์ 2 นาทีต่อมาไวเดนเฟลเลอร์ก็เล่นต่อไม่ไหวเจอร์เก้น คล็อปป์เลยต้องเปลี่ยนมิทเชลล์ ลังเกรัคลงมาเฝ้าเสาแทน
นาทีที่ 40 ดอร์ทมุนด์ก็มาได้ลูกจุดโทษเหมือนกันเมื่อบาดสตูเบอร์ไปโดนโกรสครอยซ์ล็อกหลบแล้วไปเกี่ยวขาล้มลง ฮุมเมิลส์รับหน้าที่ยิงแปไปทางขวาของตัวเองนอยเออร์พุ่งปัดไว้ได้แต่โดนไม่เต็มบอลเข้าประตูไป แชมป์บุนเดสลีกาฤดูกาลล่าสุดออกนำอีกครั้ง 2-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 เลวานดอฟสกี้ก็โหม่งเช็ดให้กับคากาวะก่อนที่เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติญี่ปุ่นจะแทงทะลุช่องกลับไปให้กับเลวานดอฟสกี้ที่วิ่งสอดขึ้นมายิงสวนตัวนอยเออร์เข้าประตูไป จบครึ่งแรกดอร์ทมุนด์เล่นกันอย่างมั่นใจขึ้นนำบาเยิร์น มิวนิคไป 3-1 ต้องรอดูครึ่งหลังว่าเสือใต้จะแก้เกมอย่างไร
ครึ่งหลังบาเยิร์นเปลี่ยตัวส่งมุลเลอร์ลงมาแทนกุสตาโว่หวังเปิดเกมรุกเต็มที่
เกมในครึ่งหลังไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงทั้ง 2 ทีมเปิดเกมรุกแลกกันนาทีที่ 50 ลังเกรัคก็ออกมาตัดบอลไกลมากบอลไปเข้าเท้าของร็อบเบนแต่ดีที่ลูกจ่ายไปให้กับโกเมซโดนฮุมเมิลส์สกัดไว้ได้ก่อนไม่งั้นมีเสียวกว่านี้แน่ๆ
นาทีที่ 58 ดอร์ทมุนด์ก็มาได้ประตูทิ้งห่างออกไปอีกจากจังหวะทีเกมเปิดเหลือเกินแล้วกองหลังเสือใต้ดันขึ้นมาสูงโกรสครอยซ์ได้บอลก่อนจะหักเข้าขวาแล้วจ่ายทะลุไปให้กับเลวานดอฟสกี้ยิงด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไป สกอร์ขยับเป็น 4-1 แล้ว
หลังนำห่างเกมของบาเยิร์นก็ยังไม่ดีขึ้นและเป็นดอร์ทมุนด์ที่เป็นฝ่ายผ่านบอลกันไปมาให้ผู้เล่นเสือใต้วิ่งหาบอลกันไม่เจอทีเดียวต้องบอกว่าเกมนี้ดอร์ทมุนด์เล่นได้โหดมาก ให้บอลทีมเวิร์กเนียนตาสุดๆ
แม้สกอร์จะขาดแต่เกมยังสนุกเหมือนเดิมนาทีที่ 67 เลวานดอฟสกี้ก็ได้โอกาสยิงอีกครั้งแต่ครั้งนี้นอยเออร์เซฟไว้ได้ก่อนจะสวนกลับเร็วทันทีและก็เป็นริเบรี่ลากบอลขึ้นมาทางซ้ายก่อนจะเปิดให้กับโกเมซได้โหม่งเต็มๆแต่บอลดันไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
นาที่ที่ 74 แฟนบอลบาเยิร์นก็เริ่มมีความหวังอีกครั้งเมื่อริเบรี่ได้ยึกยักอยู่หน้ากรอบเขตโทษกองหลังดอร์ทมุนด์ไม่ยอมมาบล็อกสตาร์เฟร้นช์แมนเลยตัดสินใจซัดทันทีบอลพุ่งเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม เสือใต้ไล่มาห่าง 4-2
จากนั้นนาทีที่ 82 ดอร์ทมุนด์ก็มาได้ประตูย้ำชัยชนะเมื่อสวนกลับขึ้นมาและก็เป็นคากาวะจ่ายบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษนอยเออร์ออกมาเร็วตะครุบบอลไว้ได้แต่บอลดันหลุดมือไปเข้าเท้าของเลวานดอฟสกี้ซัดเข้าไปง่ายๆ จบเกมดอร์ทมุนด์คว้าแชมป์เดเอฟเบโพคาลสมัยที่ 3 ของสโมสรได้สำเร็จถล่มบาเยิร์น มิวนิค 5-2 และเป็นการซิวดับเบิ้ลแชมป์ด้วยหลังคว้าบุนเดสลีกามาได้แล้วก่อนหน้านี้
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ - ลูคัส พิสเช็ค, เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - อิลคาย กุนโดกัน, เซบาสเตียน เคห์ล (กัปตันทีม) - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ชินจิ คางาวะ, เควิน โกรสครอยท์ซ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์ - ฟิลิปป์ ลาห์ม (กัปตันทีม), เยโรม บัวเต็ง, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ดาวิด อลาบา - บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ลุยซ์ กุสตาโว่ - อาร์เยน ร็อบเบน, โทนี่ โครส, ฟร้องค์ ริเบรี่ - มาริโอ โกเมซ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น