วันอังคารที่ 17 เมษายน 2555
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
บาเยิร์น มิวนิค 2-1 เรอัล มาดริด
Bayern Munchen vs Real Madrid (2:1) by larrsson
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย บาเยิร์น มิวนิค เปิดอัลลิอันซ์ อารีน่า รับการมาเยือนของเรอัล มาดริด จ่าฝูง ลาลีกา สเปน ซึ่งทีมเสือใต้มีสถิติที่เกือบเพอร์เฟคในการพบกับมาดริด คือชนะ 8 เสมอ 1 ยังไม่เคยปราชัยต่อราชันชุดขาวเลย
แค่ 7 นาที ทั้งสองทีมไม่มีเกียร์หนึ่ง เปิดมาก็จัดเต็มกันตั้งแต่วินาทีแรก ผลัดกันรุกรับ บอลย้ายจากอีกฝั่งไปอีกฝั่งในเวลาแค่ไม่กี่วินาที ก่อนที่มาดริดจะได้โอกาสแรกจากจังหวะที่เบนเซม่ามีโอกาสหลุดไปตะบันบริเวณเส้นเขตโทษ แต่ติดเซฟของนอยเออร์ที่ดีดตัวปัดทิ้งไปได้
นาทีที่ 15 หวิดจะมีเรื่องกันซะแล้ว สำหรับนักเตะของทั้งสองฝ่ายในจังหวะที่บาเยิร์นต่อบอลกันเนียนตา ก่อนที่ริเบรี่จะพยายามแตะหนีรามอส ก่อนที่จะทิ้งตัวลงในกรอบเขตโทษ แต่ดูจากภาพช้าแล้วแทบจะไม่มีการปะทะกัน ทำให้กองหลังของมาดริดฉุนขาดจะเข้าไปเอาเรื่องริเบรี่ จนทำให้เว็บบ์ต้องเข้าไปปรามกันให้เย็น
อีก 2 นาทีต่อมา น่าสงสัยคาซิญาสจริงๆ เพราะในจังหวะเตะมุมของบาเยิร์น กองหลังของมาดริดเคลียร์บอลไม่ขาด รามอสไปสกัดแล้วโดนผู้เล่นของบาเยิร์น จนทำให้เหมือนกับตั้งให้ริเบรี่วิ่งมาบวกเต็มตีนยังระยะแค่ราวๆ 10 หลา บอลพุ่งตุงตาข่าย สุดปัญหาที่นายทวารทีมชาติสเปนจะทำอะไรได้ ทำให้บาเยิ์นขึ้นนำไปก่อนแล้ว 1-0
นอกจากจะเป็นรองด้านสกอร์ที่โดนนำออกไปก่อนแล้ว มาดริดยังท่าไม่ค่อยดี เพราะเกมของพวกเขาดูจะด้อยกว่าบาเยิร์นลงไปแบบถนัดตา ผู้เล่นแนวรุกในแดนหน้าแทบจะไม่ได้มีโอกาสสร้างสรรค์เกม พอจะบุกจะสวนก็โดนกองหลังของเจ้าบ้านที่วันนี้แน่นปึ้กยืนดักเอาไว้ได้หมด
ผ่านช่วงครึ่งชั่วโมงไปสักหน่อย ตอนนี้เกมของมาดริดดูจะตื่นตาตื่นใจขึ้นมาบ้าง หลังจากเงียบไปพักใหญ่ ส่วนมากโอกาสจะเป็นของโรนัลโด้ที่ได้ซัดฟรีคิกและพาบอลไปลองเองทีสองที แต่ล้วนแล้วแต่ห่างไกลกับความเป็นจริงที่จะตีเสมอให้ได้อยู่
นาทีที่ 40 ทำเอาต้องออกแรงเหนื่อยปัดทิ้งออกหลังเหมือนกันสำหรับคาซิญาส ในจังหวะทีบาเยิร์นฉวยโอกาสแทงบอลทะลุแนวรับของมาดริดให้กับโกเมซทะลุฉีกขึ้นไปทางซ้าย ก่อนที่จะบิดตัวซัดเต็มข้อทันที บอลพุ่งเหมือนจะเสียบเสยคานเข้าไปอยู่แล้ว แต่คาซิญาสก็ดีดตัวปัดกึ่งทุบทิ้งออกไป
จบ 45 นาทีแรกของเกมการแข่งขัน บาเยิร์นกุมความได้เปรียบเอาไว้ด้วยการออกนำไปก่อน 1-0 แต่ต้องระวังการแก้เกมของมูริญโญ่ในช่วงพักครึ่งเอาไว้ให้มาก เพราะถ้ามาดริดตีเสมอได้ขึ้นมา เจ้าบ้านยุ่งแน่
ครึ่งหลัง เริ่มจากจังหวะที่โรันลโด้หลุดเข้าไปได้ซัดโล่งๆในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่เหมือนจะยิงฝืนๆเลยไปติดเซฟของนอยเออร์ แต่บอลเด้งไปเข้าทางโอซีล แปะต่อให้เบนเซม่าที่เติมขึ้นมาทางขวา ปาดบอลกลับไปเสาไกลใหม่ แม้ว่าบอลกำลังจะออก แต่โรนัลโด้ก็ตามไปตบกลับมาให้โอซีลได้แปบอลเข้าไปตุงตาข่ายโล่งๆ มาดริดตามตีเสมอเป็น 1-1 จนได้ งานเข้าแล้วสำหรับบาเยิร์นในนาที 53
นาทีที่ 61 ดูเหมือนจะผิดหวังอยู่พอสมควรสำหรับชไวน์สไตเกอร์ หลังจากโดนเปลี่ยน เพราะบาเยิร์นต้องการส่งมุลเลอร์ที่ชั่วโมงนี้น่าจะคาดหวังประตูได้มากกว่าลงไปเล่นแทน
ตอนนี้บาเยิร์นพยายามที่จะขยับระดับเกมของพวกเขาให้เพิ่มมากขึ้น หลังจากเฉื่อยไปนิดจนโดนตีเสมอ แต่ปัญหาคือแนวรุกของพวกเขายังไม่สามารถสร้างความอันตรายและกดดันกองหลังของมาดริดได้เหมือนอย่างในครึ่งแรก
ได้ทั้งเกมรุกและรับผสานไปในตัวสำหรับมาดริด เมื่อจัดการส่งมาร์เซโล่ลงไปเล่นแทนที่โอซีลซึ่งเป็นผู้ทำประตูตีเสมอให้กับทีม เนื่องด้วยน่าจะมองเกมที่จะเจอกับบาร์เซโลน่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วย สำหรับเกมในลา ลีกา
นาทีที่ 72 ดูเหมือนว่าวันนี้อาจจะไม่ใช่วันของเขาก็ได้สำหรับโกเมซ เพราะมีโอกาสทองถึงสองครั้ง จังหวะแรกรามอสสกัดไม่ดี เหมือนไปกึ่งๆตั้งให้ได้ซัด แต่บอลมันกระดอนไปนิดเลยเหินข้ามคานไป ก่อนที่จะมาโฉบตัดไปซัดได้อีกลูก แต่ที่หมายเดิมคือหลังประตูอีกดอก
นาทีที่ 79 ดูเหมือนผลเสมอก็น่าจะพอใจเป็นที่สุดแล้วสำหรับมาดริด เมื่อส่งเอากราเนโร่ลงไปเล่นแทนดิ มาเรีย เพื่อที่จะพักปีกอาร์เจนไตน์ตัวนี้เอาไว้ก่อนและดูเหมือนว่าการเติมผู้เล่นที่เล่นเกมรับได้ดีกว่าน่าจะเหมาะสำหรับเวลานี้
นาทีที่ 87 ลุกฮือกันทั้งสนามสำหรับแฟนบอลของบาเยิร์น เมื่อโกเมซพยายามจะพุ่งเข้าหาบอลในกรอบเขตโทษ แล้วเจอรามอสกับโคเอ็นเทราเข้าแพ็คคู่นล้มลงไป แต่ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร แม้เจ้าตัวจะโวยวายอย่างหนัก แต่เมื่อดูจากภาพช้าแล้วจะให้ก็คงยาก เพราะโกเมซไม่ถึงบอลเลย
โคตรดราม่าไปเลย เพราะในอีก 3 นาทีต่อมา บาเยิร์นมาทำประตูชัยจนได้ จากจังหวะที่ลาห์มกระชากบอลหนีโคเอ็นเทราที่เข้าพรวด ก่อนที่จะลากไปเปิดเข้ากลางให้โกเมซได้เข้าชาร์จตุงตาข่าย บาเยิร์นขึ้นนำอีกครั้ง
ช่วงท้ายเกมถือว่าพกพระรอดมาเลยสำหรับมาร์เซโล่ที่ออกลูกเกเรไปเข้าบอลหนักใส่โกเมซชนิดที่ให้ใบแดงก็ไม่น่าเกลียด จนทำให้ผู้เล่นบาเยิร์นไม่พอใจอย่างแรง เพราะผู้ตัดสินให้แค่เหลืองเท่านั้น
ก่อนที่บาเยิร์นจะเอาชนะมาดริดไปแบบสุดระทึกด้วยสกอร์ 2-1 แต่ยังมีเลกสองให้ทีมเยือนได้ลุ้นอีก เพราะพวกเขามีอเวย์โกลตุนเอาไว้หนึ่งลูก
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิค : มานูเอล นอยเออร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, เจอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบ้า, ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์(มุลเลอร์ น.61), หลุยส์ กุสตาโว่ ดิแอส, ฟร็องค์ ริเบรี่, อาร์เยน ร็อบเบน, มาริโอ โกเมซ, โทนี่ โครส
เรอัล มาดริด : อีเคร์ คาซิญาส, แซร์คิโอ้ รามอส, เปเป้, ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา, อัลวาโร่ อาร์เบลัว, ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, อังเกล ดิ มาเรีย (กราเนโร่ น.79), คาริม เบนเซม่า(อิกวาอิน น.84), เมซุต โอซีล (มาร์เซโล่ น.69)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น