วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์บรอมวิช 1-3 นิวคาสเซิ่ล
เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที นิวคาสเซิ่ลก็มีโอกาสลุ้นก่อนเลย จากจังหวะที่ซิสเซ่พาบอลขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่จะเปิดบอลเข้ากลาง โดนสกัดออกไปหน้าประตู แต่เป็นบาเก็บตกแถวสอง วอลเล่ย์ทีเดียว บอลตกพื้นเด้งเหมือนจะเสียบคาน แต่ฟอสเตอร์สดีดตัวปัดออกหลังได้ก่อน
เร็วมาก!ซิสเซ่สังหารไม่มีเหลือ อีกเพียงหนึ่งนาทีต่อมาหรือเป็นจังหวะที่กดดันต่อเนื่องของนิวคาสเซิ่ล พวกเขาก็มาได้ประตูขึ้นนำไปอย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่กองหลังเวสต์บรอมเคลียร์ไม่ขาด โดนนิวคาสเซิ่ลแทงบอลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่ซิสเซ่จะยืนเข้าชาร์จเหน่งๆจากลูกเปิดด้านข้าง แม้ว่าตำแหน่งจะดูเหมือนล้ำหน้าอยู่ แต่ในเมื่อผู้ตัดสินไม่เป่าก็ต้องให้ประตูไป นิวคาสเซิ่ลนำแล้ว 1-0
นาทีที่ 16 เกมห่างเร็วเลยสำหรับนิวคาสเซิ่ล เมื่อพวกเขามาได้ประตูนำห่าง ในจังหวะสวนกลับที่ซิสเซ่พลิกตัวกลางสนาม ก่อนจะไหลบอลต่อไปให้กับเบน อาร์กฟาที่ทะลุขึ้นทางขวา จี้เข้าหากองหลังแล้วแตะหลอกเข้าซ้าย ก่อนที่จะเอี้ยวตัวยิงบอลเข้าไปเสียบเสาไกล เกมห่างเลย 2-0
เข้าสู่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรก ตอนนี้ดูเหมือนว่าเกมจะนิ่งขึ้นแล้ว เพราะตอนแรกที่เวสต์บรอมเสียหลักไปจนโดนสองเม็ด มาในตอนนี้ก็เริ่มจะตั้งหลักได้มากขึ้น มีจังหวะบุกขึ้นไปบ้าง แต่โอกาสที่จะทะลวงอะไรมากมายก็ไม่ค่อยได้ ส่วนนิวคาสเซิ่ลก็เล่นกันแบบเน้นๆไป ไม่ต้องเร่งอะไรทั้งนั้น
นาทีที่ 35 งานนี้อาจจะมีไหลพร้อมกับแฮทริกของซิสเซ่เลยก็ได้ เมื่อนิวคาสเซิ่ลต่อบอลกันงามหยดขึ้นทางด้านขวา ก่อนที่เบน อาร์กฟาจะตบกลับเข้ากลาง บาร่วงไปนอนกับพื้นก่อนแล้ว แต่บอลทะลักไปถึงซิสเซ่ที่ยืนก้างมุ้งรอในกรอบเขตโทษ เอี้ยวตัวซัดบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้เฮกันสุดๆไปเลย เพราะตอนนี้เกมห่าง 3-0 ทั้งที่ยังไม่จบครึ่งแรกด้วยซ้ำ
ช่วงเวลาที่เหลือแม้ว่าเวสต์บรอมจะพยายามแค่ไหนที่จะทำประตูตีไข่แตกให้ได้ แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถทำอะไรนิวคาสเซิ่ลได้ ทำให้จบครึ่งแรกเป็นทีมเยือนที่บุกมายำก่อนเลยถึง 3-0 ขึ้นอยู่กับว่าครึ่งหลังจะยำเพิ่มหรือโดนเล่นจากยำกลายเป็นสลัดแค่นั้น
เวสต์บรอมแก้เกมด้วยการส่งบรันท์และเชน ลองลงไปเล่นแทนแอนดรูวส์กับโธมัส ส่วนนิวคาสเซิ่ลเปลี่ยนเอาโคลอชชินี่ออก ซึ่งดูแล้วแบบนี้น่าจะเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ ก่อนจะส่งซานตอนลงไปเล่นแทน
นาทีที่ 50 นึกว่าจะได้เฮกับแฮทริกซะแล้ว เมื่อซิสเซ่ที่วันนี้ตะบันไปแล้ว 2 ลูกมีโอกาสงามหยด วิ่งหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับฟอสเตอร์ แต่เจ้าตัวเหมือนจะเน้นไปหน่อย จังหวะยิงบอลเลยพุ่งตรงฟอสเตอร์ที่ขยับออกมาบล็อกเอาไว้ได้
อีก 3 นาทีต่อมา หรือจะเป็นจุกเปลี่ยนสำหรับเกมนี้ เมื่อนิวคาสเซิ่ลมาก่อความผิดพลาดกันเอง จากจังหวะเวสต์บรอมบอมบ์ยาวเข้าไปในเขตโทษ วิลเลียมสันวิ่งเบียดไปกับผู้เล่นเจ้าบ้าน ครูลเห็นท่าไม่ดีเลยจะออกมาตัดบอล กลายเป็นว่าพ่อเจ้าพระคุณวิลเลียมสันโหม่งสะกิดบอลหนีครูลที่กำลังจะยื่นมือออกไปรับลูกบอล ก่อนทีทั้งคู่จะประสานงากัน แล้วเป็นเชน ลองที่ส้มหล่นยิงบอลเข้าประตูไปแบบเบๆ เวสต์บรอมตามมา 3-1
พอได้ประตูตีไข่แตก ก็ดูเหมือนว่ากำลังใจจะเพิ่มพูนกันขึ้นมามากเลยทีเดียวสำหรับเวสต์บรอม เมื่อพวกเขาพยายามดันเกมขึ้นใส่นิวคาสเซิ่ลแบบต่อเนื่อง ช่วยกันวิ่งตั้งแต่หน้ายันหลังไม่มีหยุด ถ้าไม่โดนสวนจนเงิบก่อนก็น่าลุ้นเลย
นาทีที่ 65 ดูฟิตดีจริงๆสำหรับเบน อาร์กฟา เมื่อเขาพาบอลทะลุขึ้นกลางสนาม ผ่านผู้เล่นของเวสต์บรอมไปถึง 3 คน โดนทั้งเบียดทั้งกระแทกแต่ก็ยังไม่ล้ม ก่อนที่จะพยายามแทงบอลขึ้นหน้าให้เพื่อน แต่โดนดักเอาไว้ได้ซะก่อน
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ตอนนี้เรียกได้เลยว่าเน้นสุดๆเลยสำหรับนิวคาสเซิ่ล เพราะยังไงคงไม่อยากเสียประตูที่ 2 ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่แน่นอน ทำให้พวกเขาเน้นเกมที่ชัวร์เอาไว้ก่อน
นาทีที่ 78 เซ็งกันหมดเลยสำหรับแฟนบอลทีมเยือน เมื่อดาวยิงความหวังใหม่ของพวกเขาอย่างซิสเซ่มามีอาการบาดเจ็บจนนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะขยับได้แล้วต้องถูกหามขึ้นเปลไป ก่อนจะส่งเฟอร์กูสันลงไปเล่นแทน
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ดูแล้วไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับนิวคาสเซิ่ลที่จะบุกมาเก็บแต้มจากเวสต์บรอมไปได้ เพราะตอนนี้นำห่างอยู่ 2 ลูก แถมเกมของเจ้าบ้านก็ไม่ได้กดดันอะไรนักหนาด้วย
แม้จะมีการทดเวลายาวถึง 7 นาทีจากปัญหาบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในเกม รวมทั้งเวสต์บรอมพยายามเต็มที่แล้ว แต่ก็เท่านั้น เมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบเกม เป็นนิวคาสเซิ่ลที่บุกมาเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3-1 ขยับเพิ่มมี 50 คะแนนเท่ากับเชลซีคู่แข่งในการแย่งอันดับกันอยู่ในขณะนี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช : เบน ฟอสเตอร์, โยนาส โอลส์สัน, แกเร็ธ แม็คอูลี่ย์, เลียม ริดจ์เวลล์, บิลลี่ โจนส์, ยุสซุฟ มูลุมบู(ชาร์เนอร์ น.74), เจมส์ มอร์ริสัน, คีธ แอนดรูวส์(ลอง น.45), เจอโรม โธมัส(บรันท์ น.45), ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี้, มาร์ค-อองตวน ฟอร์จูเน่
นิวคาสเซิ่ล : ทิม ครูล, ฟาบริซิโอ้ โคลอชชินี่(ซานตอน น.45), ไมเคิ่ล วิลเลียมสัน, เจมส์ เพิร์ช, แดนนี่ ซิมป์สัน, โยฮัน กาบาย, แดนนี่ กัทธรี่, โยนาส กูเตียร์เรซ, ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา(อเมโอบี้ น.75), ปาปีส ซิสเซ่(เฟอร์กูสัน น.79), เด็มบ้า บา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น