วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิพอังกฤษ
เชลซี 3-0 โบลตัน
เชลซี ซึ่งตอนนี้หล่นลงไปอยู่ที่ 5 ของตาราง รับการมาเยือนของโบลตัน วันเดอร์เรอร์ส เกมนี้เจ้าบ้านต้องการสามแต้มเต็มเท่านั้น เพื่อต่อลมหายใจของอังเดร วิลลาส โบแาช เทรนเนอร์หนุ่มชาวโปรตุกีส
เกมนี้โบอาสตัดสินใจดร็อปตอร์เรสที่ยังคงทำประตูไม่ได้อยู่เหมือนเดิมและส่งดร็อกบายืนหัวหอกเดี่ยวแทน ต้องดูว่าดาวยิงไอวอรี่ โคสต์จะช่วยกู้สถานการณ์ของทีมได้หรือไม่
ด้านแนวรับเจ้าถิ่นคงหวังว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น เพราะจะไม่มีเทอร์รี่กัปตันทีมหัวใจสำคัญถึง 6 สัปดาห์ ต้องพึ่งคู่หูในตำแหน่งเซ็นเตอร์จับใหม่อย่างลูอิซกับเคฮิลล์
ผ่านช่วง 10 นาทีแรก กองหลังของโบลตันวันนี้ยืนกันเป็นหลวมๆน่าดู มีหลายจังหวะต้องช่วยกันตามแก้จนหัวหมุน ซึ่งถือว่ายังโชคดีที่ช๊อตหลุดของแลมพาร์ดและดร็อกบาไปโดนสกัดในจังหวะสุดท้ายได้ก่อน
เกมดำเนินไปเรื่อยจนตอนนี้เข้านาทีที่ 20 แล้ว แต่โอกาสยิงของเชลซีก็ยังไม่ได้จะแจ้งอะไรมาก ซึ่งดูแล้วอาจจะมีส่วนมาจากการที่มาต้าแทบจะไม่ได้ปั้นเกมตามที่เขาถนัดเลย มิติในเกมบุกของเชลซีเลยอาจจะดูน้อยไปหน่อย
นาทีที่ 29 ดูๆไปแล้วเหมือนเกมของเชลซีจะได้ลุ้นอยู่กับคนเดียวนี่แหละ เมื่อสเตอร์ริดจ์ได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะหักเข้าในตามสูตรเพื่ออัดด้วยอีซ้าย บอลพุ่งโค้งไปเสาสอง แต่นั่นก็ไม่ผ่านมือของบ็อกดานที่พุ่งปัดเอาไว้ได้ทัน
หลังจากตันๆอยู่พักใหญ่ ตอนนี้เชลซีเหมือนจะเห็นช่องของโบลตันกว้างขึ้นมาบ้าง เลยจัดเกมบุกต่อเนื่อง ขึงใส่โบลตัน แต่นอกจากจังหวะของสเตอร์ริดจ์ก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่เรียกว่าใกล้เคียงเท่าไหร่เลยในลูกอื่นๆ
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ใช่ว่าโบลตันนั้นจะถูกบุกกดดันอยู่ฝ่ายเดียว พวกเขาเองก็มีโอกาสสวนเหมือนกัน เพียงแต่จังหวะที่เซ็ตบอลขึ้นไป ดูแล้วไม่ค่อยละเอียดสักเท่าไหร่ที่จะไปให้ถึงจังหวะเข้าทำ
นาทีที่ 41 พลาดโอกาสไปเลยสำหรับเชลซี ที่พวกเขาอุตส่าห์จะได้ลุ้นประตูในจังหวะแลมพาร์ดแทงบอลทะลุช่องไปหน้าประตู ดร็อกบากำลังจะเข้าทำตามถนัด แต่อีวาโนวิชที่สอดขึ้นมาเหมือนจะไม่เห็นเพื่อน พุ่งเข้าหาบอลพร้อมกัน สุดท้ายพอจะหลบก็ไม่ทัน ตัวชนกันจนเป็นโบลตันที่เก็บบอลได้ไป จังหวะนี้ทำเอาดร็อกบาได้แต่นอนยิ้มแห้งๆไม่รู้จะทำยังไงเลย
จบ 45 นาทีแรก เชลซีดูแล้วมีงานอีกเยอะให้ต้องกลับไปขบคิดกันในช่วงพักครึ่ง ไม่งั้นแล้วอับราโมวิชที่นั่งดูอยู่บนแสตนด์อาจจะกริ้วขึ้นมาก็ได้
เริ่มครึ่งหลังมาได้แค่ 3 นาที ลูอิซก็เล่นเติมไปยิงซะตอร์เรสถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว เมื่อเขาตัดบอลจากเอ็นก๊อกที่ไปงึกงักยืนรอบอลที่เพื่อนจ่ายมาให้อยู่ ก่อนที่จะลุยเข้าไปเปิดให้เพื่อน สุดท้ายบอลมาเข้าทางเขา ล็อกก่อนหนึ่งจังหวะแล้วปั่นด้วยขวาในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งโค้งได้ทั้งน้ำหนักและทิศทางไปเสียบเสาสองสมบูรณ์แบบ เชลซีนำ 1-0 ยิ้มออกสักทีทั้งโบอาสและอับราโมวิช
นาทีที่ 51 จริงๆแล้วน่าจะทำได้ดีกว่านี้สักหน่อยสำหรับโคเกอร์ เมื่อเขาได้บอลตรงกลาง เลยพยายามจิ้มต่อไปให้กับเอ็นก๊อกในเขตโทษ บอลไปติดขากองหลังเด้งกลับมาเข้าทางโคเกอร์ที่สวนตูมเดียว แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไป ทั้งที่จังหวะนี้เช็กได้แต่ยืนมองเท่านั้นแล้ว
อีก 5 นาทีต่อมา น่าจะได้ประตูนำห่างออกไปจริงๆสำหรับเชลซี เริ่มตั้งแต่โอกาสของลูอิซที่เติมขึ้นไปโหม่งลูกตั้งเตะ แต่ติดตรงที่บอลมันดันไปเช็ดเสาเหลี่ยมนอกออก พอจังหวะของดร็อกบาที่สอดขึ้นไปยิงลูกแทงทะลุช่องของมาต้าก็สะกิดหลุดออกไปอีก
นาทีที่ 61 นำห่างจนได้สำหรับเชลซี เมื่อได้เตะมุมหลายต่อหลายครั้ง สุดท้ายก็ทำประตูจนได้ เมื่อดร็อกบาเทคตัวขึ้นโหม่งแบบเน้นๆ สะบัดพุ่งผ่านตัวบ็อกดานเข้าไปไม่มีเหลือ "สิงห์ไฮโซ" ทิ้ง 2-0
อีก 5 นาทีต่อมา ดูแล้วน่าจะรุ่งแน่นอนสำหรับแข้งจิ๋วจากแดนปลาดิบรายนี้ เพราะจัดการกระชากบอลหนีอีวาโนวิชไปได้ แถมยังแตะหลบผ่านเคฮิลล์ที่พยายามพุ่งเข้าเสียบสกัดไปอีกขั้น เสียอย่างเดียวจังหวะจ่ายเขาดันไปติดโคลซะนี่
นาทีที่ 76 หลังจากทำประตูในเกมนี้ได้ไป ดร็อบกาก็ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกแบบไม่มีทางเลือก เพราะดันเจ็บเองในจังหวะที่ไปเตะตุนกาย เชลซีเปลี่ยนเอาตอร์เรสลงไปเล่นแทน ทีนี้ก็มาลุ้นกันว่าหัวหอกสแปนิชจะทำประตูได้หรือไม่
อีก 3 นาทีต่อมา แฟนเชลซีชื่นมื่นกันเต็มที่ไปเลย เมื่อขวัญใจของพวกเขาอย่างแลมพาร์ดกลับมาทำประตูได้อีกครั้ง ในจังหวะจ่ายของมาต้าที่โยนบอลแม่นอย่างกับจับวางไปให้แลมพาร์ดที่เสาสอง ตั้งเท้ายิงให้ตรงกรอบก็พอ เชลซีทิ้ง 3-0
ช่วงเวลาที่เหลือด้วยเกมที่ขาดไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรมากนอกจากการที่แฟนบอลนั่งลุ้นให้บอลไปถึงตอร์เรสและให้หัวหอกสแปนิชยิงให้ได้เสียที แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เกิดขึ้น จบ 90 นาทีเป็นเชลซีที่คว้าชัยชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 ดีดหนีอาร์เซนอล 3 คะแนนทวงอันดับที่ 4 กลับมาแบบชั่วคราวก่อน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 7, ดาวิด ลูอิซ 7, แกรี่ เคฮิลล์ 6.5, แอชลี่ย์ โคล 6.5, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช 6.5, มิคาเอล เอสเซียง 6.5, รามิเรส 6(โอบี มิเกล น.88), แฟรงค์ แลมพาร์ด 8, ฆวน มาต้า 6.5, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา 8 (ตอร์เรส 6 น.76), ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ 7.5(กาลู 6 น.80)
โบลตัน : อดัม บ็อกดาน 6.5, เดวิด วีเทอร์ 6, ทิม รีม 6, ซามูเอล ริคเก็ตส์ 6, เกรตาร์ สไตนส์สัน 6, ไนเจล รีโอ โคเกอร์ 5.5, ฟาบริซ มูอัมบ้า 5.5, เรียว อิยาอิชิ 6.5, ดาร์เรน แพลตลี่ย์ 6, ตุนกาย ซานลี่ 6.5(อีเกิ้ลส์ 6 น.75), ดาวิด เอ็นก๊อก 6(ซอร์เดลล์ 6 น.66)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น