ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์
วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555
เซาธ์แฮมป์ตัน 2 - 3 มิลล์วอลล์
สนาม :เซนต์ แมรีส์วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555
เซาธ์แฮมป์ตัน 2 - 3 มิลล์วอลล์
เซาธ์แฮมป์ตัน เปิดเซนต์ แมรี่ส์ ปะทะ มิลล์วอลล์ คู่แข่งจากแชมเปี้ยนชิพ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 นัดรีเพลย์ หลังจากทั้งคู่เสมอกัน 1-1 ที่บ้านมิลล์วอลล์ ด้านไนเจล แอ็ดกิ้นส์ กุนซือของนักบุญแดนใต้ขาด ดาเนี่ยล ฟ็อกซ์ แบ็คซ้ายติดโทษแบน 1 นัด ทำให้ แดน ฮาร์ดิ้ง ได้ลงเล่นแทน ส่วนมิลล์วอลล์ส่ง แฮร์รี่ เคน ดาวรุ่งที่ยืมมาจากท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เป็นกองหน้าตัวหลัก
เกมครึ่งแรก ผ่านไปเพียง 2 นาที เจ้าถิ่นได้ลุ้นก่อน สตีฟ เดอ ริดเดอร์ ซัดไกลด้วยเท้าซ้ายระยะไกล 20 หลาเข้าหน้าต่าง
นาที 17 เป็นฝั่งมิลล์วอลล์ได้ประตูนำ 1-0 เลียม ทร็อตเตอร์ แผลงฤทธิ์ยิงเท้าซ้ายระยะไกล 20 หลาตุงตาข่าย
นาที 35 เซาธ์แฮมป์ตัน ตีเสมอ 1-1 เฟรเซอร์ ริชาร์ดสัน ผ่านบอลจากฝั่งขวาให้ อดลัม ลัลลาน่า ซัดเท้าซ้ายระยะ 12 หลาตุงตาข่าย จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1
เริ่มครึ่งหลัง มาถึงนาที 60 ทีมเยือนบุกอย่างต่อเนื่อง สกอตต์ บาร์รอน โยนบอลมาเข้าหัว ดานี่ เอ็นเกสซ็อง โหม่ง 6 หลาเข้าข้างตาข่าย และนาที 70อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์เซาธ์แฮมป์ตัน ซัดเท้าขวาระยะ 25 หลาติดเซฟเดวิด ฟอร์ด นายด่านทีมเยือน
และ แล้วนาที 77 เซาธ์แฮมป์ตัน พลิกสถานการณ์ขึ้นนำ 2-1 ริชาร์ด แลมเบิร์ต ผู้นำดาวซัลโวแชมเปี้ยนชิพที่เป็นตัวสำรองนัดนี้ยิงเท้าขวาระยะ 18 หลาเข้าไปอย่างสวยงาม
แต่นาที 79 มิลล์วอลล์ ตีเสมอเป็น 2-2 เจมส์ เฮนรี่ โยนบอลจากฝั่งขวาให้ ดานี่ เอ็นเกสซ็อง โหม่ง 6 หลาตุงตาข่าย
เกม ทำท่าว่าจะต้องหาผู้ชนะด้วยการต่อเวลาพิเศษแต่แล้วกลับ เป็น มิลล์วอลล์ ที่ได้ประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก เลียม ฟีนี่ย์ จบเกม มิลล์วอลล์ บุกเฉือนเก็บชัยเหนือ เซาธ์แฮมป์ตัน แบบสุดมันส์ 3-2 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เซาธ์แฮมป์ตัน: บาร์ตอสซ์ เบียลคอฟสกี้ - เฟรเซอร์ ริชาร์ดสัน, อารอน มาร์ติน, โชเซ่ ฟอนเต้, แดน ฮาร์ดิ้ง - สตีฟ เดอ ริดเดอร์, ริชาร์ด แช็ปโลว์, ดีน แฮมมอนด์ - อดัม ลัลลาน่า, ทาดานาริ ลี, กูลี่ โด ปราโด้
สำรอง: เคลวิน เดวิส (ผู้รักษาประตู) - ราดี้ จาอิดี้, เบน รีฟส์, แจ็ค สตีเฟ่นส์, เจมส์ วอร์ด-พราวส์, ลี บาร์นาร์ด, ริชาร์ด แลมเบิร์ต
มิลล์วอลล์: เดวิด ฟอร์ด - อลัน ดันน์, ดาร์เรน วอร์ด, สกอตต์ บาร์รอน, โทนี่ เคร็ก - ไรอัน เมสัน, ดานี่ เอ็นเกสซ็อง, เลียม ทร็อตเตอร์, เจมส์ เฮนรี่, จอช ไรท์ - แฮร์รี่ เคน
สำรอง: ไรอัน ออลซ็อป (ผู้รักษาประตู) - จอห์น มาร์กิส, คริส แฮ็กเก็ตต์, เลียม ฟีนี่ย์, แจ็ค สมิธ, คอนเนอร์ แม็คลาเรน
ผู้ตัดสิน: ดีน ไวท์สโตน
เชฟฯ เว้นส์เดย์ 0 -3 แบล็กพูล
สนาม :ฮิลล์สโบโร่
บดกันไม่ลงในเกมแรก เกมนี้ เจ้าถิ่น เว้นส์เดย์ยังคงสภาพทีมชุดเดิมเนื่องจากมิเกล เยร่า กองหลังสแปนิชติดคัพไท เช่นเดียวกับจอห์น บอสต็อค กองกลางที่ยืมมาจากสเปอร์ส และไมค์ โจนส์ ที่ย้ายมาจากบิวรี่ ด้านแบล็กพูล ทีมเยือน นัดนี้ขาดเอียน อีแว็ตต์ กองหลังซึ่งสะสมใบเหลืองครบสิบใบจนถูกแบนสองเกมเป็นนัดสุดท้าย แต่ก็ได้ โลมาน่า เทรซอร์ ลัวลัว คีย์แมนตัวกลั่นหายเจ็บกลับมา รวมถึงนายทวาร แม็ตธิว กิลค์ส
เริ่มต้นมาได้สามนาที เจ้าบ้านก็มีลุ้นเมื่อไรอัน โลว์ฉวยความผิดพลาดของกองหลังแบล็คพูลซึ่งจับบอลหลุดเท้าลากเข้าไปยิงระยะ 18 หลาแต่ถูกกิลค์สเซฟได้
นาที ที่ 7 ทีมเยือนก็ได้ประตูทันทีตั้งแต่โอกาสบุกหนแรกเมื่อลัวลัวจ่ายบอลจากกราบซ้าย เข้ามาตรงกลางให้แม็ตต์ ฟิลลิปส์ง้างไกจากหน้าเขตโทษส่งบอลพุ่งเรียดหนีมือของสตีเฟ่น บายวอเตอร์เข้าเสียบมุมพาอาคันตุกะขึ้นนำ 1-0
เกม ของแบล็กพูลน่ากลัวขึ้นมาทันที และนาทีที่ 14 เควิน ฟิลลิปส์ก็ชิ่งบอลจากแดนกลางคืนให้ลัวลัวควบขึ้นกราบซ้ายก่อนยิงปั่นหน้าเขต โทษตุงตาข่ายที่เสาไกลสุดงาม ทีมเยือนหนีห่าง 2-0
ผ่านมาถึงนาทีที่ 27 คริส เซ็ดจ์วิคของเจ้าบ้านก็โดนจดชื่อเมื่อเข้าเสียบโธมัส อินซ์อันตราย
เกมโดยส่วนใหญ่ยังเป็นแบล็กพูลที่เหนือกว่า กระทั่งนาทีที่ 34 จากลูกเตะมุมด้านซ้ายเว้นส์เดย์ ก็น่าจะตีเสมอได้เมื่อร็อบ โจนส์ ได้โขกเต็มหน้าผากระยะเผาขนที่เสาไกล แต่กิลค์ส เซฟได้เหลือเชื่อ จบครึ่งแรกเจ้าถิ่นตามหลัง 0-2
ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยนเรด้า จอห์นสันออกให้โฆเซ่ เซเมโด้ลงไปแทน แต่เกมยังเป็นรองทีมเยือนเหมือนเดิม
และ นาที 54 ในจังหวะที่เว้นส์เดย์ ต่อบอลกันพลาดในแดนกลาง ลูโดวิช ซิลแวสตร์ก็ฉกไปลากเข้าเขตโทษด้านซ้ายก่อนยิงปั่นจาก 16 หลาเสียบเสาไกลเพิ่มสกอร์ให้แบล็กพูลทะยานนำ 3-0
ช่วงที่เหลือเว้นส์เดย์แทบจะหมดกำลังใจกันแล้ว กระทั่งจบเกมจึงพ่ายคารังไปแบบหายห่วง 0-3 ทำให้แบล็กพูลได้ผ่านเข้ารอบห้าไปเยือนเอฟเวอร์ตันต่อไป
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เชฟฯ เว้นส์เดย์: สตีเฟ่น บายวอเตอร์ - จอน อ็อตเซโมบอร์, ร็อบ โจนส์, แดนนี่ แบ็ธ, เรด้า จอห์นสัน - เลียม พาลเมอร์, คริส ไลน์ส, คริส เซ็ดจ์วิค, จูเลี่ยน เบนเน็ตต์ - คลินตัน มอร์ริสัน, ไรอัน โลว์
สำรอง: นิคกี้ วีเวอร์ (ผู้รักษาประตู) - ลูอิส บั๊กซ์ตัน, โชเซ่ เซเมโด้, ดาวิด พรัตตัน, คริส โอเกรดี้, มาร์ค บีเวอร์ส, แกรี่ เมดีน
แบล็คพูล: แม็ทธิว กิลค์ส - นีล เอิร์ดลี่ย์, อเล็กซ์ แบ็ปติสต์,
แดน นี่ วิลสัน, โรเบิร์ต แฮร์ริส - ลูโดวิช ซิลแวสตร์, อังเคล มาร์ติเนซ, แม็ตต์ ฟิลลิปส์ - โลมาน่า เทรซอร์ ลัวลัว, โธมัส อินซ์, เควิน ฟิลลิปส์
สำรอง: มาร์ค ฮัลสเต็ด (ผู้รักษาประตู) - แกรี่ เทย์เลอร์ เฟล็ทเชอร์, เคราร์โด้ บรูน่า, คริส บาแช่ม, จอห์น เฟล็ค, นูฮา ดิคโก้
ผู้ตัดสิน: แอนดี้ เดอร์โซ่
ฟุตบอล เดเอฟเบ โพคาล รอบ 8 ทีมสุดท้าย
วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555
โฮลสไตน์ คีล 0 - 4 ดอร์ทมุนด์
วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ 2555
โฮลสไตน์ คีล 0 - 4 ดอร์ทมุนด์
สนาม :โฮลสไตน์ สตาดิโอน
เกมเดเอฟเบ โพคาล รอบก่อนรองชนะเลิศ เจ้าถิ่นจากลีกเรกิโอนาลลิกา นอร์ด เจองานหนักพบกับ "เสือเหลือง" โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จ่าฝูงบุนเดสลีกา ของกุนซือเจอร์เกน คลอปส์ ที่ขนผู้เล่นแนวรุกลงสนามเต็มสูบ โดยมี โรเบิร์ต เลวานโดวสกี และ ชินจิ คากาวะ ยืนค้ำในแดนหน้า
ดอร์ทมุนด์ เล่นได้ดีกว่าในช่วง 10 นาทีแรก และก็ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 จาก โรเบิร์ต เลวานโดวสกี กองหน้าของทีมที่วิ่งขึ้นมาซัดจากเสาสองบอลผ่านมือผู้รักษาประตู มอร์เทน เจนเซน เข้าไป
นาที 18 บลาซีโควสกี เลี้ยงจี้สุดเส้นหลัง ก่อนตบเข้ากลางให้คากาวะ กดเต็มข้อตุงตาข่ายให้ "เสือเหลือง" นำอีกรอบเป็น 2-0 แม้เจ้าบ้านฮึดสู้บ้างแต่ทำอะไรไม่ได้ จบครึ่งแรก ตามหลัง 0-2
โฮลสไตน์ คีล ตั้งเกมไม่ได้เลยและหวิดโดนฝังแต่หัววัน มิทเชลล์ ลันเกรัค เปิดบอลยาวหลุดมาถึง คางาวะ หลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลข้ามหัว มอร์เท่น เยนเซ่น ไปตกใส่ตาข่ายบนน่าเสียดาย
รูปเกมตกเป็นของ เสือเหลือง ข้างเดียว แต่นาที 39 เจ้าบ้านมาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะหวังผล ราฟาเอล คาซิออร์ อาสาปั่นบอลผ่านกำแพงมาได้ แต่ไปตรงตัว ลันเกรัค ล้มตัวตะครุบรับบอลไว้อยู่หมัด
ครึ่งหลัง เกมของดอร์ทมุนด์ ชักแผ่วปล่อยให้โฮลสไตน์ คีล ได้บุกอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีสกอร์ไล่ตาม ส่วนนาที 73 ดอร์ทมุนด์ เกือบได้ประตูที่สาม จังหวะมะรุมมะตุ้มหน้าเขตโทษ และเป็น คากาวะ ฉวยโอกาสยิงจ่อๆไม่เกิน 3 หลา แต่ไปติดบล็อคของ เจอร์เกนเซน
นาที 69 คล็อปป์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัว 2 คนรวด ส่ง ลูคัส บาร์ริออส และ เควิน โกรส ครอยท์ซ ลงไปแทน เลวานดอฟสกี้ และ บลาสซีคอฟสกี้ ตามลำดับ
นาที 78 ดอร์ทมุนด์ มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 เปริซิค ตักบอลจากกราบขวา เข้าเขตโทษให้ ลูคัส บาร์ริออส หัวหอกตัวสำรองของทีมวิ่งมาซัดตุงตาข่าย
นาที 87 เปริซิค ยิงประตูปิดกล่องให้ "เสือเหลือง" บุกมาถล่ม โฮลสไตน์ คีลไปแบบขาดลอย 4-0 ผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศ ได้เป็นทีมแรก
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โฮลสไตน์ คีล : มอร์เท่น เยนเซ่น - พาทริค แฮร์มันน์, อารอน แบร์เซิ่ล, คริสเตียน เยอร์เกนเซ่น, ดาน พาทริค พ็อกเกินแบร์ก - สตีฟ มุลเลอร์, ราฟาเอล คาซิออร์ - โซเฟียน ชาเฮด (ยาค็อบ ซัคส์ น.81), ฟีเต้อ ซีโกร่า, ยาโรสลาฟ ลินด์เนอร์ (ฟาเบียน เว็ทเทอร์ น.85)- มาร์ค ไฮเดอร์ (ทิม วึล์ฟฟ์ น.83)
สำรองไม่ได้ใช้ : นิคลาส ยาคุช, มาร์โค สตีล, เควิน ชูลซ์, คาร์สเท่น ฟิชเชอร์
ดอร์ทมุนด์ : มิทเชลล์ ลันเกรัค - ลูคัส พิสเช็ค, เนเว่น ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - โมริทซ์ ไลท์เนอร์, เซบาสเตียน เคห์ล - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (เควิน โกรสส์ครอยท์ซ น.69), ชินจิ คางาวะ (อิลคาย กุนโดกัน น.82) , อิวาน เพริซิช - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (ลูคัส บาร์ริออส น.69)
สำรองไม่ได้ใช้ : โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, เฟลิเป้ ซานตาน่า, คริส เลอเว่อ, อันโตนิโอ ดา ซิลวา
ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ซเวเยอร์
รูนเหน็บซัวเรซน่าโดนไล่เตะปาร์เกอร์
ขณะเดียวกัน แกรี่ เนวิลล์ อดีตปราการหลัง "ผีแดง" ที่ทำหน้าที่วิจารณ์การแข่งขันทางสำนักข่าวสกาย สปอร์ตส์ แสดงความรู้สึกว่า ซัวเรซ สมควรโดนใบแดงเช่นกัน อย่าง ไรก็ตาม เคนนี่ ดัลกลิช กุนซือ "เดอะ เร้ดส์" ออกมาตอบโต้ว่า "ทำไมคุณไม่ทวิตต์ถามเวย์น กลับไปล่ะ? ผมไม่มีความเห็นในสิ่งที่พวกเขาทวิตต์กันหรอกนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผมไม่เห็นมัน หากแกรี่ เนวิลล์ หรือเวย์น มายืนอยู่ตรงนั้นแล้วถามผม ผมก็อาจตอบพวกเขาได้ แต่ผมไม่คิดว่า คุณสามารถคุยกับพวกเขาได้ ผมคิดว่า ผมจะยื่นเรื่องขอแก้ไขมาตรา 5 หน่อยล่ะ"
~♥ I LOVE NBA .¸¸.•´¯`»♥♥ I LOVE 12BET ~♥
รับโบนัสพิเศษเพิ่ม 12% หากหมายเลขบิลเดิมพัน 2 ตัว คือ 12
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น