วันอังคารที่ 24 มกราคม 2555
คาร์ดิฟฟ์ 1 - 0 คริสตัล พาเลซ
(รวม 2 นัดเสมอ 1 - 1, คาร์ดิ๊ฟฟ์ชนะจุดโทษ 3-1)
สนาม: คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม
"บลูเบิร์ดส์" คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ทีมอันดับ 3 ของตารางคะแนนแชมเปี้ยนชิพ ฟอร์มในลีกสุดยอดทีเดียว 5 เกมหลังสุดไร้พ่าย ชนะ 3 เสมอ 2 นัด แต่ในถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ พลาดท่าปราชัยให้กับ คริสตัล พาเลซ มาก่อน 0-1 ทำให้ต้องเน้นกันหนักหน่อย นัดนี้ได้ตัว รูดี้ เกสเตเด้ หายเจ็บข้อเท้า และ เควิน แม็คนอห์ตัน หายเจ็บน่อง กลับมาเป็นสำรอง โดยหน้าเป้าเลือกใช้ เคนนี่ มิลเลอร์ หัวหอกทีมชาติสกอตแลนด์ ยืนเป็นตัวเป้าเพียงคนเดียว พร้อมอัดแดนกลางแน่นถึงห้าราย ทางด้าน "ดิ อีเกิ้ลส์" คริสตัล พาเลซ ฟอร์มในลีกไม่ดีเอาซะเลย 3 เกมหลังสุดไม่ชนะใคร แต่ในถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เก็บชัยมาได้ก่อน 1-0
เกมนี้ไม่มี โจนาธาน วิลเลี่ยมส์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ขาหักพักยาว รวมไปถึง ลี ฮิลล์ส และ ดีน โมซี่ย์ ที่เดี้ยงทั้งหมด และ มุสตาฟา ดุมบูย่า ที่ติดคัพ-ไท ลงเล่นรายการนี้ไม่ได้ แต่ได้ ฌอน สแกนเนลล์ พ้นโทษแบนกลับมามีชื่อเป็นสำรอง ในแนวรุกเรียก คริส มาร์ติน กลับลงมาล่าตาข่ายร่วมกับ เกล็นน์ เมอร์เรย์ พร้อมได้ วิลฟรีด ซาฮา ยืนเป็นหน้าต่ำ โดยมี ดาร์เรน อัมโบรส ทำเกมทางริมเส้นกราบขวา และเป็นตัวส่องไกลจากแถวสอง
ออกสตาร์ทครึ่งแรกได้แค่สองนาที เจ้าบ้านได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ เบน เทอร์เนอร์ โหม่งเต็มๆ แต่ไม่ผ่านมือของ ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ นายทวารชาวอาร์เจนไตน์ของคริสตัล พาเลซ จากนั้นสามนาที พาเลซ ได้ลุ้นบ้างจากการซัดของ ดาร์เรน อัมโบรส บอลเหินข้ามคานไป อย่างไรก็ตาม บลูเบิร์ดส์ มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจนได้ในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ ดอน คาววี่ เปิดจากสุดเส้นหลังด้านขวาเข้ามาที่เสาแรก แอนโธนี่ การ์ดเนอร์ ฮีโร่ในนัดแรกของพาเลซ โหม่งสกัดไม่ดีบอลเข้าประตูตัวเองไป สงเคราะห์ให้ คาร์ดิฟฟ์ นำเร็ว 1-0 เรียกเสียงเชียร์จากแฟนๆของเจ้าบ้านได้กระหึ่มทีเดียว พอได้ประตูนำ เจ้าบ้านได้ใจรุกขึ้นมาอีกครั้ง ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม ลากมาทางด้านขวาแล้วม้วนเข้ากลาง ก่อนจะซัดด้วยซ้าย เล่นเอา สเปโรนี่ ไม่กล้ารับต้องทุบทิ้งออกมา ก่อนที่ แพทริค แม็คคาร์ธี่ย์ จะช่วยเคลร์ทิ้งออกมาได้ ในนาทีที่ 11 เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 22 คาร์ดิ๊ฟฟ์ ได้ลุ้นต่อเนื่องจากจังหวะที่ เคนนี่ มิลเลอร์ โหนตัวขึ้นโหม่งแต่ไม่ผ่านมือของ สเปโรนี่ นายทวารพาเลซ เจ้าถิ่นบุกมาเป็นชุดๆ อารอน กุนนาร์สสัน ได้โอกาสโขกอีกครั้งบอลไม่เข้ากรอบในนาทีที่ 29
คาร์ดิฟฟ์ บุกหนักหน่วงจริงๆ อารอน กุนนาร์สสัน จ่ายบอลทะลุแนวรับของพาเลซ ไปให้ เคนนี่ มิลเลอร์ วิ่งสอดขึ้นมาตวัดยิงด้วยซ้ายบอลผ่าน สเปโรนี่ ไปแล้ว แต่หลุดเสาสองไปเฉียดฉิวในนาทีที่ 39 ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก บลูเบิร์ดส์ น่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อ เคนนี่ มิลเลอร์ จับบอลลงด้วยซ้ายแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายทันทีจากบริเวณริมกรอบเขตโทษบอลไป กระแทกเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย หมดครึ่งแรก คาร์ดิ๊ฟฟ์ นำก่อน 1-0 กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลังได้สามนาที พาเลซ ได้ลุ้นก่อน อัมโบรส เปิดฟรีคิกให้กับ แพทริค แม็คคาร์ธี่ย์ สะบัดโหม่งบอลข้ามคานไป เจ้าถิ่นได้ลุ้นเหมือนกันในนาทีที่ 50 วิตติ้งแฮม เลี้ยงเข้ามายิงเรียดบอลหลุดเสาไป จากนั้นสองนาที พาเลซ สวนขึ้นมา คริส มาร์ติน เจอช่องว่างจากริมกรอบเขตโทษ แต่ซัดข้ามคานไป
มาถึงนาทีที่ 56 คาร์ดิ๊ฟฟ์ ได้โอกาสเมื่อ วิตติ้งแฮม ยิงโค้งบอลเข้ากรอบด้วย แต่ สเปโรนี่ นายทวารพาเลซ ปัดข้ามคานไปได้ ผ่านมา 76 นาที พาเลซ ได้ลุ้นจากจังหวะที่ ฌอน สแกนเนลล์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาผ่านบอลให้กับ วิลฟรีด ซาฮา หลุดไปซัดหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย กระเถิบมาถึงนาทีที่ 77 พาเลซ ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ แพทริค แม็คคาร์ธี่ย์ กองหลังกัปตันทีมไปเข้าบอลทางด้านหลัง เคนนี่ มิลเลอร์ หัวหอกเจ้าถิ่น เลยทำให้ แม็คคาร์ธี่ย์ โดนใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป ทำให้ทีมเยือนต้องเปลี่ยนเอา พอล แม็คเชน ลงมาช่วยเกมรับแล้วถอด ดาร์เรน อัมโบรส ปีกขวาออกมา
ช่วงที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม คาร์ดิฟฟ์ เปิดบ้านเอาชนะ พาเลซ ที่เหลือแค่ 10 คนไปได้ 1-0 รวมผลสองนัดเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที ช่วงต่อเวลาพิเศษในครึ่งเวลาแรกเป็น คาร์ดิ๊ฟฟ์ ที่โหมบุกอย่างหนักจวบจนนาทีที่ 100 เกือบได้ประตูที่สองเมื่อ ฟิลิป คิสส์ แข้งเจ้าถิ่นได้โหม่งโล่งๆ ในกรอบเขตโทษจากการเคลีร์บอลไม่ขาดของผู้เล่นพาเลซ แต่บอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย และการต่อเวลาพิเศษในครึ่งแรกก็จบลงที่ผลสกอร์เดิม ช่วงต่อเวลาพิเศษในครึ่งหลังยังคงเป็นคาร์ดิ๊ฟฟ์ที่โหมบุก แต่ฝ่ายเดียว นาทีที่ 110เกือบมาได้ประตูที่สองของเกมอีกครั้งจากจังหวะวอลเล่ย์ด้วยเท้าขวาของ ฟิลิป คิสส์ ในกรอบเขตโทษระยะ 14 หลาของพาเลซ บอลพุ่งทะยานผ่านมือ ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ นายด่านดิ อีเกิ้ลส์ แต่บอลโชคยังเข้าข้างฝั่งทีมเยือนบอลชนคานหลุดออกหลังไปแบบใจหายใจคว่ำ ถัดมานาทีที่ 114 รูดี้ เกสเตเด้ แข้งเจ้าถิ่นได้ขึ้นโขกโล่งๆ จากการโยนเข้ามาทางด้านข้างแต่บอบโดนไม่เต็มหัวไปเข้ามือ สเปโรนี่ นายด่านพาเลซรับไว้ได้สบาย
เสียงสัญญานนกหวีดยาวจาก ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ ดังขึ้นเมื่อครบ 120 นาทีต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษและเป็น คาร์ดิ๊ฟฟ์ที่แม่นกว่าชนะด้วยผลรวมจุดโทษ 3-1 ส่งผลให้คาร์ดิ๊ฟฟ์เข้าไปยืนรอในรอบชิงชนะเลิศวันที่ 26 ก.พ. ณ สนามเวมบลีย์ โดยจะรอพบผู้ชนะระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนฯ ซิตี้ ที่จะฟาดแข้งกันคืนนี้
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
คาร์ดิฟฟ์: ทอม ฮีตัน - ดาร์ซี่ เบล็ค, แอนโธนี่ เจอร์ราร์ด, เบน เทอร์เนอร์, แอนดรูว์ เทย์เลอร์ - ดอน ดาววี่, อารอน กุนนาร์สสัน, ปีเตอร์ วิตติ้งแฮม, สตีเฟ่น แม็คเฟล, เคร็ก คอนเวย์ - เคนนี่ มิลเลอร์
สำรอง: เดวิด มาร์แชลล์ (ผู้รักษาประตู) - เควิน แม็คนอห์ตัน, ฟิลิป คิสส์, รูดี้ เกสเตเด้, โจ รัลล์ส, โรเบิร์ต เอิร์นชอว์, โจ เมสัน
พาเลซ: ฮูเลี่ยน สเปโรนี่ - นาธาเนี่ยล ไคลน์, แพทริค แม็คคาร์ธี่ย์, แอนโธนี่ การ์ดเนอร์, โจนาธาน พาร์ - ดาร์เรน อัมโบรส, ไมล์ เยดินัค, คากิโช่ ดิ๊คกาชอย - วิลฟรีด ซาฮา - เกล็นน์ เมอร์เรย์, คริส มาร์ติน
สำรอง: ลูอิส ไพรซ์ (ผู้รักษาประตู) - พอล แม็คเชน, เดวิด ไรท์, โอเว่น การ์แวน, แคลวิน แอนดรูว์, ฌอน สแกนเนลล์, เจอร์เมน อีสเตอร์
ผู้ตัดสิน: ฮาวเวิร์ด เว็บบ์
* ˚ღ。* ˛˚ 。Gong Xi Fa Cai 。˚ ˚ღ。* ˛˚
โปรโมชั่นฉลองตรุษจีน เพียงแค่ทายผลสกอร์ 1-2
ลงทุน12บาท อาจได้เพิ่มถึง 12,120บาท
♥♥..โชคลาภ มั่งคั่ง ร่ำรวย มั่งมี ศรีสุข ตลอดปีและตลอดไป..♥♥
รหัสรับโบนัส 12TH11100 ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท
สมัครกับเราคลิ๊กที่แบนเนอร์นี้ เหมือนสมัครกับเว็บโดยตรง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น