ENGLISH PREMIER LEAGUE
วันอังคารที่ 3 มกราคม 2555
แมนฯ ซิตี้ 3 - 0 ลิเวอร์พูล
แมนฯ ซิตี้ 3 - 0 ลิเวอร์พูล
"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งหลังเปิดบ้าน เก็บชัยเหนือ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไปแบบสบายๆ 3-0 เก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จขยับหนี แมนฯยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ที่มีคิวลงเตะวันพรุ่งนี้เป็นสามแต้มแล้ว โดยเกมนี้ แกเร็ธ แบร์รี่ แข้งเจ้าถิ่นถูกสองใบเหลืองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 73 ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เกมนัดบิ๊กแม็ตซ์ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ ที่เพิ่งแพ้ ซันเดอร์แลนด์ มาอย่างน่าเจ็บใจหลังโดนยิงในนาทีสุดท้าย นัดนี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ มีการปรับทีมถึง 6 ตำแหน่ง โดยบรรดาตัวเก่งอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่, ดาบิด ซิลบา และ เจมส์ มิลเนอร์ กลับมามีชื่อเป็นตัวจริงเช่นเดียวกับ โคโล่ ตูเร่ ที่ได้ลงมาเล่นแทน โจลีออน เล็ตค็อตต์ นอกจากนั้นยังไม่มีชื่อ มาริโอ บาโลเตลลี่
ฟากทีมเยือน ลิเวอร์พูล ไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ ที่ล่าสุดทีมตัดสินใจไม่อุทธรณ์โทษแบน 8 นัดจากกรณีเหยียดผิว ปาทริช เอวร่า ทำให้มีผลในเกมนี้ทันที นอกจากนั้นยังดร็อป เคร็ก เบลลามี่ ที่เหมาสองประตูในเกมชนะนิวคาสเซิ่ล ไว้ข้างสนามแล้วส่ง เดร์ค เค้าท์ ลงสนามแทน เช่นเดียวกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ฟิตแล้วแต่ เคนนี่ ดัลกลิช ยังจับเป็นตัวสำรองเช่นเดิม
เริ่มเกมขึ้นมาทั้งสองทีมยังจดๆจ้องๆกันอยู่และเป็นลิเวอร์พูล ที่น่าได้ประตูก่อนในนาทีที่ 7 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แทงบอลให้ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ โจ ฮาร์ท แต่กลับยิงไปติดเซฟนายทวารมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ อย่างน่าเสียดาย
นาทีถัดมา แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสลุ้นบ้างจากการขึ้นบอลจากทางซ้ายของ ดาบิด ซิลบา ที่พาบอลถึงสุดเส้นก่อนตบเข้ากลางให้ เชโก้ แตะบอลหนี สเคอร์เทล ก่อนกดด้วยซ้าย แต่ เรน่า ยังยืนปิดมุมดีใช้เท้าสกัดบอลออกหลังไปได้
แต่แล้วนาทีที่ 10 แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ประตูก่อนจากความผิดพลาดของ เดิร์ค เค้าท์ ที่เสียบอลให้แดนตัวเองให้ เจมส์ มิลเนอร์ แตะต่อให้ ซิลบา จ่ายเร็วให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ซัดด้วยขวา บอลเหมือนไม่มีอะไรแต่กลับฮุกลอดตัว โฆเซ่ เรน่า เข้าประตูไป "เรือใบสีฟ้า" ออกนำก่อน 1-0
หลังแมนฯ ซิตี้ นำทว่าเกมของทั้งสองก็ยังไม่มีใครเหนือกว่าอย่างชัดเจนแต่จังหวะลุ้นประตู เป็นของเจ้าบ้านมากกว่า นาทีที่ 22 ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลจากฝั่งขวาให้ เอดิน เชโก้ แตะบอลหน้าจังหวะก่อนซัดด้วยซ้าย บอลไปแฉลบเกล็น จอห์นสัน เปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูยังดีที่บอลไหลออกหลังไป
2 นาทีถัดมา "หงส์แดง" มาได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ และก็เป็น ชาร์ลี อดัม ที่รับหน้าที่สังหาร ทว่า โจ ฮาร์ท ยังไวพุ่งไปทุบบอลไว้ได้ก่อนที่กองหลังจากเคลียร์ทิ้งไปทันเวลา
ผ่านถึงนาทีที่ 32 เจ้าบ้านยังบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าและมีลุ้นจากลูกเตะมุมของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่โยนเข้ามาให้ แว็งซ็องต์ ก็องปานี โขกแต่ เรน่า ยังปัดทิ้งไปได้ทัน
ก่อนที่ลูกเตะมุมในนาทีถัดมาจะนำมาสู่ประตูหนีห่าง เมื่อ ดาบิด ซิลบา โยนลูกเตะมุมเข้ามาหน้าประตูให้ ยาย่า ตูเร่ โขกตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้ หนีไปเป็น 2-0
ท้ายครึ่งแรกลิเวอร์พูล มาได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ แอนดี้ แคร์โรลล์ ได้โหม่งตั้งมาให้ เดิร์ค เค้าท์ ได้ยิงแต่ต้องชม แว็งซ็องต์ ก็องปานี พุ่งเข้ามาบล็อกไว้ได้ทันเวลาทำให้จบครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้ ยังนำ ลิเวอร์พูล อยู่ 2-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังเกมของลิเวอร์พูล เริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถหาช่องเจาะแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ เข้าไปลุ้นประตูได้เลยและ เคนนี่ ดัลกลิช ก็ทนอยู่เฉยไม่ได้ส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เคร็ก เบลลามี่ ลงมาแทน ชาร์ลี อดัม และ เดิร์ค เค้าท์ ในนาทีที่ 57
นาทีที่ 65 โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกก็มาและเป็นของ ลิเวอร์พูล จากการพาบอลขึ้นมาทางซ้ายของ เคร็ก เบลลามี่ ก่อนยิงไกลแต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป
เกมผ่านถึงนาทีที่ 73 ก็มีจุดเปลี่ยนเล็กน้อยเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 เมื่อ แกเร็ธ แบร์รี่ ไปทำฟาวล์ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ และไมค์ โจนส์ ก็ชักใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป
ทว่านาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล ก็มาเสียลูกจุดโทษเมื่อ ยาย่า ตูเร่ หลุดเข้าไปในเขตโทษทางซ้ายก่อนโดน มาร์ติน สเคอร์เทล สกัดล้มลงไป และผู้ตัดสินก็เป่าฟาวล์และชี้ไปที่จุดโทษโชคยังดีที่ สเคอร์เทล ไม่ได้ใบเหลืองหรือแดง และจากจุดโทษ เจมส์ มิลเนอร์ ก็ยังหารเข้าไปไม่พลาด แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 3-0
หลังจากนำห่างและเหลือผู้เล่นน้อยกว่า "เรือใบสีฟ้า" ก็ลงไปเน้นรับแน่นกว่าเดิมจนกระทั่งจบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านไล่อัด ลิเวอร์พูล 3-0 เก็บสามแต้มขยับหนีแมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงที่จะมีคิวแตะวันพรุ่งนี้เป็นสามแต้มแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมก้าห์ ริชาร์ดส, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โคโล่ ตูเร่, กาเอล กลีชี่, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้
สำรอง : คอสเตล พานติลิมอน, ปาโปล ซาบาเลต้า, โจลีออน เล็ตค็อตต์, อดัม จอห์นสัน, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, สเตฟาน ซาวิช, ไนเจล เดอ ยองก์
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้, เจย์ สเพียริ่ง, ชาร์ลี อดัม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เดิร์ค เค้าท์, แอนดี้ แคร์โรลล์
สำรอง : อเล็กซานเดอร์ โดนี่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มักซี่ โรดริเกซ, เจมี่ กัลลาเกอร์, จอนโจ เชลวี่ย์, มาร์ติน เคลลี่, เคร็ก เบลลามี่
ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์
สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
เกมนัดบิ๊กแม็ตซ์ระหว่าง แมนฯ ซิตี้ ที่เพิ่งแพ้ ซันเดอร์แลนด์ มาอย่างน่าเจ็บใจหลังโดนยิงในนาทีสุดท้าย นัดนี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ มีการปรับทีมถึง 6 ตำแหน่ง โดยบรรดาตัวเก่งอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่, ดาบิด ซิลบา และ เจมส์ มิลเนอร์ กลับมามีชื่อเป็นตัวจริงเช่นเดียวกับ โคโล่ ตูเร่ ที่ได้ลงมาเล่นแทน โจลีออน เล็ตค็อตต์ นอกจากนั้นยังไม่มีชื่อ มาริโอ บาโลเตลลี่
ฟากทีมเยือน ลิเวอร์พูล ไม่มี หลุยส์ ซัวเรซ ที่ล่าสุดทีมตัดสินใจไม่อุทธรณ์โทษแบน 8 นัดจากกรณีเหยียดผิว ปาทริช เอวร่า ทำให้มีผลในเกมนี้ทันที นอกจากนั้นยังดร็อป เคร็ก เบลลามี่ ที่เหมาสองประตูในเกมชนะนิวคาสเซิ่ล ไว้ข้างสนามแล้วส่ง เดร์ค เค้าท์ ลงสนามแทน เช่นเดียวกับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ที่ฟิตแล้วแต่ เคนนี่ ดัลกลิช ยังจับเป็นตัวสำรองเช่นเดิม
เริ่มเกมขึ้นมาทั้งสองทีมยังจดๆจ้องๆกันอยู่และเป็นลิเวอร์พูล ที่น่าได้ประตูก่อนในนาทีที่ 7 เมื่อ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แทงบอลให้ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ โจ ฮาร์ท แต่กลับยิงไปติดเซฟนายทวารมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ อย่างน่าเสียดาย
นาทีถัดมา แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสลุ้นบ้างจากการขึ้นบอลจากทางซ้ายของ ดาบิด ซิลบา ที่พาบอลถึงสุดเส้นก่อนตบเข้ากลางให้ เชโก้ แตะบอลหนี สเคอร์เทล ก่อนกดด้วยซ้าย แต่ เรน่า ยังยืนปิดมุมดีใช้เท้าสกัดบอลออกหลังไปได้
แต่แล้วนาทีที่ 10 แมนฯ ซิตี้ ก็ได้ประตูก่อนจากความผิดพลาดของ เดิร์ค เค้าท์ ที่เสียบอลให้แดนตัวเองให้ เจมส์ มิลเนอร์ แตะต่อให้ ซิลบา จ่ายเร็วให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ ซัดด้วยขวา บอลเหมือนไม่มีอะไรแต่กลับฮุกลอดตัว โฆเซ่ เรน่า เข้าประตูไป "เรือใบสีฟ้า" ออกนำก่อน 1-0
หลังแมนฯ ซิตี้ นำทว่าเกมของทั้งสองก็ยังไม่มีใครเหนือกว่าอย่างชัดเจนแต่จังหวะลุ้นประตู เป็นของเจ้าบ้านมากกว่า นาทีที่ 22 ดาบิด ซิลบา จ่ายบอลจากฝั่งขวาให้ เอดิน เชโก้ แตะบอลหน้าจังหวะก่อนซัดด้วยซ้าย บอลไปแฉลบเกล็น จอห์นสัน เปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูยังดีที่บอลไหลออกหลังไป
2 นาทีถัดมา "หงส์แดง" มาได้ลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ และก็เป็น ชาร์ลี อดัม ที่รับหน้าที่สังหาร ทว่า โจ ฮาร์ท ยังไวพุ่งไปทุบบอลไว้ได้ก่อนที่กองหลังจากเคลียร์ทิ้งไปทันเวลา
ผ่านถึงนาทีที่ 32 เจ้าบ้านยังบุกได้น้ำได้เนื้อกว่าและมีลุ้นจากลูกเตะมุมของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่โยนเข้ามาให้ แว็งซ็องต์ ก็องปานี โขกแต่ เรน่า ยังปัดทิ้งไปได้ทัน
ก่อนที่ลูกเตะมุมในนาทีถัดมาจะนำมาสู่ประตูหนีห่าง เมื่อ ดาบิด ซิลบา โยนลูกเตะมุมเข้ามาหน้าประตูให้ ยาย่า ตูเร่ โขกตุงตาข่าย แมนฯ ซิตี้ หนีไปเป็น 2-0
ท้ายครึ่งแรกลิเวอร์พูล มาได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ แอนดี้ แคร์โรลล์ ได้โหม่งตั้งมาให้ เดิร์ค เค้าท์ ได้ยิงแต่ต้องชม แว็งซ็องต์ ก็องปานี พุ่งเข้ามาบล็อกไว้ได้ทันเวลาทำให้จบครึ่งแรกแมนฯ ซิตี้ ยังนำ ลิเวอร์พูล อยู่ 2-0
กลับมาเล่นต่อครึ่งหลังเกมของลิเวอร์พูล เริ่มดีขึ้นแต่ก็ยังไม่สามารถหาช่องเจาะแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ เข้าไปลุ้นประตูได้เลยและ เคนนี่ ดัลกลิช ก็ทนอยู่เฉยไม่ได้ส่ง สตีเว่น เจอร์ราร์ด และ เคร็ก เบลลามี่ ลงมาแทน ชาร์ลี อดัม และ เดิร์ค เค้าท์ ในนาทีที่ 57
นาทีที่ 65 โอกาสลุ้นประตูครั้งแรกก็มาและเป็นของ ลิเวอร์พูล จากการพาบอลขึ้นมาทางซ้ายของ เคร็ก เบลลามี่ ก่อนยิงไกลแต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป
เกมผ่านถึงนาทีที่ 73 ก็มีจุดเปลี่ยนเล็กน้อยเมื่อ แมนฯ ซิตี้ ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 เมื่อ แกเร็ธ แบร์รี่ ไปทำฟาวล์ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ และไมค์ โจนส์ ก็ชักใบเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป
ทว่านาทีที่ 74 ลิเวอร์พูล ก็มาเสียลูกจุดโทษเมื่อ ยาย่า ตูเร่ หลุดเข้าไปในเขตโทษทางซ้ายก่อนโดน มาร์ติน สเคอร์เทล สกัดล้มลงไป และผู้ตัดสินก็เป่าฟาวล์และชี้ไปที่จุดโทษโชคยังดีที่ สเคอร์เทล ไม่ได้ใบเหลืองหรือแดง และจากจุดโทษ เจมส์ มิลเนอร์ ก็ยังหารเข้าไปไม่พลาด แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 3-0
หลังจากนำห่างและเหลือผู้เล่นน้อยกว่า "เรือใบสีฟ้า" ก็ลงไปเน้นรับแน่นกว่าเดิมจนกระทั่งจบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านไล่อัด ลิเวอร์พูล 3-0 เก็บสามแต้มขยับหนีแมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงที่จะมีคิวแตะวันพรุ่งนี้เป็นสามแต้มแล้ว
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ไมก้าห์ ริชาร์ดส, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โคโล่ ตูเร่, กาเอล กลีชี่, ยาย่า ตูเร่, แกเร็ธ แบร์รี่, เจมส์ มิลเนอร์, ดาบิด ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่, เอดิน เชโก้
สำรอง : คอสเตล พานติลิมอน, ปาโปล ซาบาเลต้า, โจลีออน เล็ตค็อตต์, อดัม จอห์นสัน, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ, สเตฟาน ซาวิช, ไนเจล เดอ ยองก์
ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน, ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, โฆเซ่ เอ็นริเก้, เจย์ สเพียริ่ง, ชาร์ลี อดัม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง, เดิร์ค เค้าท์, แอนดี้ แคร์โรลล์
สำรอง : อเล็กซานเดอร์ โดนี่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มักซี่ โรดริเกซ, เจมี่ กัลลาเกอร์, จอนโจ เชลวี่ย์, มาร์ติน เคลลี่, เคร็ก เบลลามี่
ผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น