ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม อี
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2554
เชลซี (อังกฤษ) 3 - 0 บาเลนเซีย (สเปน)
รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย กลุ่ม อี
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม 2554
เชลซี (อังกฤษ) 3 - 0 บาเลนเซีย (สเปน)
ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ตะบันคนเดียวสองตุง ช่วย "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ได้เฮลั่นสังเวียนหลังเปิดบ้านไล่อัด "ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย 3-0 เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมขึ้นไปเป็นทีมนำกลุ่มผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นผลสำเร็จ ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มอี. เมื่อคืนวันอังคารที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซีปรับทีมหนึ่งจุดจากเกมบุกถล่มนิวคาสเซิ่ล 3-0 ในลีกโดย ดร็อปแฟร้งค์ แลมพาร์ดที่ยิงลูกโทษพลาดไปนั่งเป็นตัวสำรองให้ราอูล เมยเรเลสออกสตาร์ตเป็นตัวจริง
ด้านบาเลนเซียที่พักนักเตะมากถึงห้ารายในเกมเฉือนชนะเอสปันญ่อลได้ 2-1 หันกลับมาใช้งานตัวหลักอย่างดาบิด อัลเบลด้า , โซฟียาน เฟกูลี่ , บิคตอร์ รูอิซ , โรเบร์โต้ โซลดาโด้ และโชนาสครบครัน
โดยในเกมนี้ซึ่งทั้งคู่มีแต้มเท่ากัน สิงห์บลูส์จำเป็นต้องชนะเพื่อเข้ารอบ หรือไม่ก็เสมอด้วยสกอร์ 0-0 เท่านั้น ขณะที่ทีมตราค้างคาวต้องเจ๊าแบบมีสกอร์หากไม่อาจบุกมาเก็บสามแต้มได้
เกมเริ่มต้นโดยบาเลนเซียเป็นฝ่ายเขี่ยบอล แต่นาทีที่ 2 เชลซีเกือบนำเร็วเมื่อดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์เข้าแย่งบอลได้ในแดนทีมเยือนแล้วจ่ายจากกราบขวาเข้ากลางให้ดิดิเยร์ ดร็อกบาสะกิดมาหน้าเขตโทษโดยมีเมยเรเลสวิ่งเข้ากดจาก 25 หลา แต่ไม่ผ่านมือดีเอโก้ อัลเวส
อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาแฟนเจ้าบ้านก็ได้เฮอยู่ดีจากจังหวะที่สเตอร์ริดจ์สาดบอลยาวจากกราบขวามาเสาไกลให้ฆวน มาต้าจ่ายเข้ากลางโดยมีดร็อกบาแต่งเข้าเท้าซ้ายแล้วตะบันจาก 12 หลาเสียบเสาไกลอย่างเด็ดขาดพาสิงห์บลูส์ออกนำ 1-0
เริ่มเขี่ยบอลกันใหม่มาถึงนาทีที่ 5 ทีมตราค้างคาวก็น่าจะทวงคืนได้จากการวางบอลยาวแถวกลางสนามเข้าเขตโทษด้านซ้ายโดยมีโชนาสสปีดตามไปเกี่ยวลงพื้นชนิดไม่ล้ำหน้า แต่จังหวะซัลโวระยะสี่หลาส่งบอลไปชนเสาแรกอย่างน่าเสียดาย
เกมของทีมเยือนเริ่มน่ากลัวขึ้นมาทันที และนาทีที่ 10 ดาบิด อัลเบลด้ากัปตันทีมบาเลนเซียก็มีพื้นที่กระหน่ำจากหน้าเขตโทษเต็มข้อ ดีที่ว่าปีเตอร์ เช็กพุ่งปัดพ้นกรอบได้อย่างเหลือเชื่อ
เกมโดยรวมยังสูสี แต่นาทีที่ 22 ทีมเยือนก็พลาดง่ายๆในจังหวะโดนโต้เมื่อดร็อกบาพาบอลลุยขึ้นทางซ้ายแล้วไหลตามช่องเข้าเขตโทษโดยรามิเรซถูกบิคตอร์ รูอิซเข้าถึงบอลก่อน แต่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมค้างคาวบังไม่ดีปล่อยให้กองกลางแซมบ้าวิ่งแซงเข้าซัดจากแปดหลาพาเชลซีนำ 2-0
สถานการณ์บีบให้อาคันตุกะต้องเดินหน้าสถานเดียว ขณะที่เจ้าถิ่นสบายกว่าเยอะ เล่นเกมรับรอโต้กลับได้ และนาทีที่ 28 ก็เกือบเพิ่มสกอร์ได้อีกจากการแทงบอลแถวกลางสนามของเมยเรเลสที่ดร็อกบาจ่าย ต่อไปที่มาต้าแล้วไหลขึ้นกราบขวาให้สเตอร์ริดจ์ลากเข้าเขตโทษไปล็อคหลบกอง หลังก่อนเข่นยัดใส่เสาแรกถูกดีเอโก้ อัลเวสปัดได้
ท้ายครึ่งแรก ทีมจากลาลีกากัดฟันโหมบุกชุดใหญ่ แต่ไม่อาจทลายแนวรับที่แข็งแกร่งของเชลซีได้ ครบ 45 นาทีสิงห์บลูส์จึงนำไปก่อนแบบหายห่วง 2-0
กลับสู่ครึ่งหลัง ทีมค้างคาวเดินหน้าบุกทันที แต่ยังไม่มีพิษสง และนาทีที่ 54 ก็โดนโต้อีกเมื่อสเตอร์ริดจ์ได้บอกวางยาวควบเข้าเขตโทษด้านขวาไปกดใส่เสาแรก แต่ดีเอโก้ อัลเวสดักได้
ในที่สุดนาทีที่ 55 ทีมเยือนก็แก้เกมโดยเปลี่ยนกองหน้าอาริทซ์ อาดูริซลงไปแทนฆอร์ดี้ อัลบา และน่าจะตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 63 จากโอกาสซัลโวของเฟกูลี่ระยะ 18 หลา แต่เช็กโชว์ซูเปอร์เซฟปัดได้อย่างเหนียวหนึบ
เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวบ้างนาทีที่ 65 โดยส่งจอห์น โอบี มิเกลลงเล่นแทนรามิเรซเน้นแผงกลางให้แน่นขึ้น ขณะที่บาเลนเซียใช้งานปาโบล เอร์นานเดซแทนเฟกูลี่
ถัดมาอีกสามนาที ออริโอล โรเมอูโดนจดชื่อในจังหวะทำฟาวล์เอร์นานเดซ แต่นาทีที่ 69 โทนี่ คอสต้าก็ได้ใบเหลืองข้อหารวบมาต้า
จากนั้นในนาทีที่ 73 เจ้าบ้านก็โต้ด้วยลูกยาวจากแดนตัวเองโดยสเตอร์ริดจ์โยนบอลจากกราบขวาขนาน เส้นขึ้นหน้าให้ดร็อกบาเบียดชนะตัวประกบหลุดเข้าเขตโทษไปซัดระยะแปดหลา แต่กลับส่งบอลหลุดเสาไกลไปอย่างไม่น่าเชื่อ
กระนั้น นาทีที่ 76 ดร็อกบาไม่พลาดเป็นซ้ำสองเมื่อมาต้าแทงบอลทะลุช่องให้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปซัดผ่านนายทวารทีมเยือนได้สำเร็จเพิ่มสกอร์เป็น 3-0
ช่วงที่เหลือ ทีมจากแดนกระทิงดุยังไร้น้ำยาเหมือนเดิม จบเกมจึงบุกมาพ่าย 3-0 ส่งผลให้เชลซีผ่านเข้ารอบเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม ขณะที่บาเลนเซียตกรอบไปเล่นถ้วยยูโรปาลีก
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
เชลซีปรับทีมหนึ่งจุดจากเกมบุกถล่มนิวคาสเซิ่ล 3-0 ในลีกโดย ดร็อปแฟร้งค์ แลมพาร์ดที่ยิงลูกโทษพลาดไปนั่งเป็นตัวสำรองให้ราอูล เมยเรเลสออกสตาร์ตเป็นตัวจริง
ด้านบาเลนเซียที่พักนักเตะมากถึงห้ารายในเกมเฉือนชนะเอสปันญ่อลได้ 2-1 หันกลับมาใช้งานตัวหลักอย่างดาบิด อัลเบลด้า , โซฟียาน เฟกูลี่ , บิคตอร์ รูอิซ , โรเบร์โต้ โซลดาโด้ และโชนาสครบครัน
โดยในเกมนี้ซึ่งทั้งคู่มีแต้มเท่ากัน สิงห์บลูส์จำเป็นต้องชนะเพื่อเข้ารอบ หรือไม่ก็เสมอด้วยสกอร์ 0-0 เท่านั้น ขณะที่ทีมตราค้างคาวต้องเจ๊าแบบมีสกอร์หากไม่อาจบุกมาเก็บสามแต้มได้
เกมเริ่มต้นโดยบาเลนเซียเป็นฝ่ายเขี่ยบอล แต่นาทีที่ 2 เชลซีเกือบนำเร็วเมื่อดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์เข้าแย่งบอลได้ในแดนทีมเยือนแล้วจ่ายจากกราบขวาเข้ากลางให้ดิดิเยร์ ดร็อกบาสะกิดมาหน้าเขตโทษโดยมีเมยเรเลสวิ่งเข้ากดจาก 25 หลา แต่ไม่ผ่านมือดีเอโก้ อัลเวส
อย่างไรก็ดี นาทีต่อมาแฟนเจ้าบ้านก็ได้เฮอยู่ดีจากจังหวะที่สเตอร์ริดจ์สาดบอลยาวจากกราบขวามาเสาไกลให้ฆวน มาต้าจ่ายเข้ากลางโดยมีดร็อกบาแต่งเข้าเท้าซ้ายแล้วตะบันจาก 12 หลาเสียบเสาไกลอย่างเด็ดขาดพาสิงห์บลูส์ออกนำ 1-0
เริ่มเขี่ยบอลกันใหม่มาถึงนาทีที่ 5 ทีมตราค้างคาวก็น่าจะทวงคืนได้จากการวางบอลยาวแถวกลางสนามเข้าเขตโทษด้านซ้ายโดยมีโชนาสสปีดตามไปเกี่ยวลงพื้นชนิดไม่ล้ำหน้า แต่จังหวะซัลโวระยะสี่หลาส่งบอลไปชนเสาแรกอย่างน่าเสียดาย
เกมของทีมเยือนเริ่มน่ากลัวขึ้นมาทันที และนาทีที่ 10 ดาบิด อัลเบลด้ากัปตันทีมบาเลนเซียก็มีพื้นที่กระหน่ำจากหน้าเขตโทษเต็มข้อ ดีที่ว่าปีเตอร์ เช็กพุ่งปัดพ้นกรอบได้อย่างเหลือเชื่อ
เกมโดยรวมยังสูสี แต่นาทีที่ 22 ทีมเยือนก็พลาดง่ายๆในจังหวะโดนโต้เมื่อดร็อกบาพาบอลลุยขึ้นทางซ้ายแล้วไหลตามช่องเข้าเขตโทษโดยรามิเรซถูกบิคตอร์ รูอิซเข้าถึงบอลก่อน แต่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีมค้างคาวบังไม่ดีปล่อยให้กองกลางแซมบ้าวิ่งแซงเข้าซัดจากแปดหลาพาเชลซีนำ 2-0
สถานการณ์บีบให้อาคันตุกะต้องเดินหน้าสถานเดียว ขณะที่เจ้าถิ่นสบายกว่าเยอะ เล่นเกมรับรอโต้กลับได้ และนาทีที่ 28 ก็เกือบเพิ่มสกอร์ได้อีกจากการแทงบอลแถวกลางสนามของเมยเรเลสที่ดร็อกบาจ่าย ต่อไปที่มาต้าแล้วไหลขึ้นกราบขวาให้สเตอร์ริดจ์ลากเข้าเขตโทษไปล็อคหลบกอง หลังก่อนเข่นยัดใส่เสาแรกถูกดีเอโก้ อัลเวสปัดได้
ท้ายครึ่งแรก ทีมจากลาลีกากัดฟันโหมบุกชุดใหญ่ แต่ไม่อาจทลายแนวรับที่แข็งแกร่งของเชลซีได้ ครบ 45 นาทีสิงห์บลูส์จึงนำไปก่อนแบบหายห่วง 2-0
กลับสู่ครึ่งหลัง ทีมค้างคาวเดินหน้าบุกทันที แต่ยังไม่มีพิษสง และนาทีที่ 54 ก็โดนโต้อีกเมื่อสเตอร์ริดจ์ได้บอกวางยาวควบเข้าเขตโทษด้านขวาไปกดใส่เสาแรก แต่ดีเอโก้ อัลเวสดักได้
ในที่สุดนาทีที่ 55 ทีมเยือนก็แก้เกมโดยเปลี่ยนกองหน้าอาริทซ์ อาดูริซลงไปแทนฆอร์ดี้ อัลบา และน่าจะตีไข่แตกได้ในนาทีที่ 63 จากโอกาสซัลโวของเฟกูลี่ระยะ 18 หลา แต่เช็กโชว์ซูเปอร์เซฟปัดได้อย่างเหนียวหนึบ
เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวบ้างนาทีที่ 65 โดยส่งจอห์น โอบี มิเกลลงเล่นแทนรามิเรซเน้นแผงกลางให้แน่นขึ้น ขณะที่บาเลนเซียใช้งานปาโบล เอร์นานเดซแทนเฟกูลี่
ถัดมาอีกสามนาที ออริโอล โรเมอูโดนจดชื่อในจังหวะทำฟาวล์เอร์นานเดซ แต่นาทีที่ 69 โทนี่ คอสต้าก็ได้ใบเหลืองข้อหารวบมาต้า
จากนั้นในนาทีที่ 73 เจ้าบ้านก็โต้ด้วยลูกยาวจากแดนตัวเองโดยสเตอร์ริดจ์โยนบอลจากกราบขวาขนาน เส้นขึ้นหน้าให้ดร็อกบาเบียดชนะตัวประกบหลุดเข้าเขตโทษไปซัดระยะแปดหลา แต่กลับส่งบอลหลุดเสาไกลไปอย่างไม่น่าเชื่อ
กระนั้น นาทีที่ 76 ดร็อกบาไม่พลาดเป็นซ้ำสองเมื่อมาต้าแทงบอลทะลุช่องให้หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านซ้ายไปซัดผ่านนายทวารทีมเยือนได้สำเร็จเพิ่มสกอร์เป็น 3-0
ช่วงที่เหลือ ทีมจากแดนกระทิงดุยังไร้น้ำยาเหมือนเดิม จบเกมจึงบุกมาพ่าย 3-0 ส่งผลให้เชลซีผ่านเข้ารอบเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม ขณะที่บาเลนเซียตกรอบไปเล่นถ้วยยูโรปาลีก
สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!!
รหัสรับโบนัส 12TH11100 ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น