ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2554
ฟูแล่ม 1 - 0 ลิเวอร์พูล
วันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2554
ฟูแล่ม 1 - 0 ลิเวอร์พูล
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เซ็งสุดๆหลัง เจย์ สเพียริ่ง โดนไล่ออกช่วงท้ายเกม แถมทีมเป็นฝ่ายแพ้ให้กับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ไปแบบฉิวเฉียด 1-0 โดย คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ เป็นฮีโร่ของเจ้าถิ่นซัดประตูชัย ทำให้ฟูแล่มอันดับพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 13 ของตาราง ขณะที่ ลิเวอร์พูล รั้งที่ 7 เหมือนเดิม ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ 5 ธ.ค. ที่ผ่านมา
สนาม : คราเวน ค็อตเทจ
เจ้าบ้านฟูแล่ม จัดการดร็อบ แอนดี้ จอห์นสัน ที่โดนใบแดงในเกมยุโรปไว้ข้างสนามแล้วส่ง มุสซ่า เดมเบเล่ จับคู่กับ บ็อบบี้ ซาโมร่า ในแดนหน้าส่วนแนวรับส่ง ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ยืนคู่ เบรเด้ ฮันเกลันด์ นอกจากนั้นยังมี แดนนี่ เมอร์ฟี่ และ ยอร์น อาเน่ รีเซ่ ลงปะทะทีมเก่า
ด้านทีมเยือน เคนนี่ ดัลกลิช ส่ง เจย์ สเพียริ่ง ลงยืนกลางแทน ลูคัส เลว่า ที่เจ็บพักยาว คู่หน้ายังใช้ หลุยซ์ ซัวเรซ คู่ แอนดี้ แคร์โรลล์ และมี เคร็ก เบลลามี่ ลงสนามอีกด้วย โดยก่อนเกมก้มีการขืนไว้อาลัยให้แกรี่ สปีด เช่นเดิมกับเกมเมื่อสุดสัปดาห์
เริ่มเกมได้แค่ 5 นาทีเจ้าบ้านได้ทักทายทันทีจากจังหวะที่ รูอิช ได้บอลทางขวาแล้วแทงทะลุช่องให้ เดมเบเล่ หลุดเข้าไปยิงแต่ติกตัว เรน่า ที่พุ่งออกมาบล็อกได้เร็ว
2 นาทีถัดมาลิเวอร์พูล มีลุ้นบ้าง ชาร์ลี อดัม ไหลบอลให้ ซัวเรซ ทางซ้ายก่อนดึงจังหวะแล้วไหลมาให้ แคร์โรลล์ แปจ่อแต่บอลตรงตัว ชวาร์เซอร์ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี
เกมของลิเวอร์พูล เริ่มดีกว่าเล็กน้อย นาทีที่ 13 ชาร์ลี อดัม ได้สบไกด้วยซ้ายหน้าเขตโทษบอลแฉลบผู้เล่นเจ้าบ้านเล็กน้อย แต่ชวาร์เซอร์ ยังล้มตัวตะครุบบอลได้ทัน
ทั้งสองทีมยังเดินเกมบุกแลกกันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 17 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ซาโมร่า เบียดแย่งบอลกับ เฮนเดอร์สัน หน้าเขตโทษก่อนบอลจะไปเข้าทาง เดมเบเล่ ซัดด้วยซ้าย แต่เรน่า ก็ยังพุ่งไปปัดทิ้งได้ทันเวลา
นาทีที่ 27 "หงส์แดง" น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดเมื่อเฮนเดอร์สัน ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนกระชากเข้าหาประตูแล้วยิงด้วยขวาบอลพุ่งผ่าน มือชวาร์เซอร์ ไปแล้ว แต่กลับชนเสากระเด็นออกมาอย่างน่าเสียดาย
รูปเกมของทีมเยือนเริ่มดีกว่าแต่กลับเป็น ฟูแล่ม ที่ได้ลุ้นประตูอีกครั้งในนาทีที่ 37 เดมเบเล่ เก้บบอลได้กลางสนามแล้วจ่ายมาให้เดมพ์ซี่ย์ เกี่ยวบอลเข้าขวาแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งส่ายแต่ เรน่า ยังไม่พลาดทุบบอลทิ้งได้ทัน หลังจากนั้นก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังลิเวอร์พูล เดินหน้ากดดันหวังประตูทันทีและมามีลุ้นในนาทีที่ 51 จากลูกเตะมุมของ อดัม ที่โยนไปที่หน้าประตู มาร์ค ชวาร์เซอร์ ทุบบอลออกไปเข้าทางเอ็นริเก้ ได้ซัดด้วยซ้ายทันทีบอลพุ่งแหวกผู้เล่นทั้งสองฝั่งแต่ติด ชวาร์เซอร์ ที่ยังพุ่งเซฟไว้ได้อย่างสวยงาม
นาทีที่ 59 ฟูแล่ม ได้ลุ้นประตูเช่นกันจากการทำเกมขึ้นมาทางซ้าย รีเซ่ จ่ายบอลย้อนมาที่หน้าประตูให้ ซาโมร่า ยิงแต่ติดบล็อกของ แอ็กเกอร์ ก่อนที่จะได้บอลสวนกลับแต่จังหวะจะหลุดเข้าไปยิงของ อดัม ถูกเซนเดอรอส เหนี่ยวล้มลงไปได้ แต่ปราการหลังสวิตเซอร์แลนด์ โดนแค่ใบเหลืองเท่านั้น และลูกยิงฟรีคิกของ เบลลามี่ ก็ติดกำแพงออกหลังไปซะอีก
เข้าสู่นาทีที่ 66 ลิเวอร์พูล ส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้เมื่อ เอ็นริเก้ จ่ายบอลให้ ซัวเรซ หลุดเข้าไปกระดกบอลหลบชวาร์เซอร์ ก่อนยิงเข้าไปแต่ ซัวเรซ ล้ำหน้าไปก่อนนิดเดียวเท่านั้น
เกมมาเกิดจุดเปลี่ยนในนาทีที่ 72 เมื่อ "หงส์แดง" ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ เจย์ สเพียริ่ง พุ่งเข้าไปเสียบคาบลูกคาบดอกใส่ เดมเบเล่ ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์ ชักใบแดงไล่ออกทันที
นาทีที่ 77 ทีมเยือนส่งสจ๊วร์ต ดาวนิ่งกับมักซี่ โรดริเกซลงไปแทนเบลลามี่กับแคร์โรลล์
นาทีที่ 80 เจ้สัวที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ ได้ปั่นในเขตโทษบอลผ่าน เรน่า นายด่านหงส์แดงที่ได้แต่ป้องกันด้วยสายตายไปแล้ว แต่เจ้ากรรมบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 82 มุสซ่า เดมเบเล่ ของเจ้าถิ่นได้โอกาสกระชากบอลจี้เข้ามาซัดบอลหลุดออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 83 หงส์แดงได้โอกาสทองจากลุยเดี่ยวเข้าไปของ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ก่อนซัดด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งส่ายเข้ากรอบแต่เป็น มาร์ค ชวาร์เซอร์ ที่ยังโชว์เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 84 ฟูแล่มมาไปประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แดนนี่ เมอร์ฟี่ ปั่นด้วยเท้าขวาตรงตัว เรน่าที่รบหลุดบอลกระดอนมาเข้าทาง เดมพ์ซี่ย์ ที่ตามเข้าซ้ำโล่งๆ ไม่เหลือซาก
นาทีที่ 88 หงส์มีโอกาสตามตีเสมออีกครั้งจากจังหวะซัดด้วยซ้ายของ ชาร์ลี อดัม แต่บอลพุ่งออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 92 หงส์แดงได้โอกาสลุ้นตีเสมอจากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษอีกครั้งและเป็น ซัวเรส ที่รับหน้าที่ปั่นไปติดกำแพงและเจ้าสัวตัดบอลโต้กลับเร็วเป็น แอนดี้ จอห์นสัน ที่กระชากบอลไปซัดไม่ตรงกรอบจบเกม ลิเวอร์พูล บุกพ่าย ฟูแล่ม 0-1 ส่งผลให้ฟูแล่มอันดับพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 13 ของตาราง ขณะที่ ลิเวอร์พูล รั้งที่ 7 เหมือนเดิม
สนาม : คราเวน ค็อตเทจ
เจ้าบ้านฟูแล่ม จัดการดร็อบ แอนดี้ จอห์นสัน ที่โดนใบแดงในเกมยุโรปไว้ข้างสนามแล้วส่ง มุสซ่า เดมเบเล่ จับคู่กับ บ็อบบี้ ซาโมร่า ในแดนหน้าส่วนแนวรับส่ง ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ยืนคู่ เบรเด้ ฮันเกลันด์ นอกจากนั้นยังมี แดนนี่ เมอร์ฟี่ และ ยอร์น อาเน่ รีเซ่ ลงปะทะทีมเก่า
ด้านทีมเยือน เคนนี่ ดัลกลิช ส่ง เจย์ สเพียริ่ง ลงยืนกลางแทน ลูคัส เลว่า ที่เจ็บพักยาว คู่หน้ายังใช้ หลุยซ์ ซัวเรซ คู่ แอนดี้ แคร์โรลล์ และมี เคร็ก เบลลามี่ ลงสนามอีกด้วย โดยก่อนเกมก้มีการขืนไว้อาลัยให้แกรี่ สปีด เช่นเดิมกับเกมเมื่อสุดสัปดาห์
เริ่มเกมได้แค่ 5 นาทีเจ้าบ้านได้ทักทายทันทีจากจังหวะที่ รูอิช ได้บอลทางขวาแล้วแทงทะลุช่องให้ เดมเบเล่ หลุดเข้าไปยิงแต่ติกตัว เรน่า ที่พุ่งออกมาบล็อกได้เร็ว
2 นาทีถัดมาลิเวอร์พูล มีลุ้นบ้าง ชาร์ลี อดัม ไหลบอลให้ ซัวเรซ ทางซ้ายก่อนดึงจังหวะแล้วไหลมาให้ แคร์โรลล์ แปจ่อแต่บอลตรงตัว ชวาร์เซอร์ ที่ยืนอยู่ตรงนั้นพอดี
เกมของลิเวอร์พูล เริ่มดีกว่าเล็กน้อย นาทีที่ 13 ชาร์ลี อดัม ได้สบไกด้วยซ้ายหน้าเขตโทษบอลแฉลบผู้เล่นเจ้าบ้านเล็กน้อย แต่ชวาร์เซอร์ ยังล้มตัวตะครุบบอลได้ทัน
ทั้งสองทีมยังเดินเกมบุกแลกกันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 17 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ ซาโมร่า เบียดแย่งบอลกับ เฮนเดอร์สัน หน้าเขตโทษก่อนบอลจะไปเข้าทาง เดมเบเล่ ซัดด้วยซ้าย แต่เรน่า ก็ยังพุ่งไปปัดทิ้งได้ทันเวลา
นาทีที่ 27 "หงส์แดง" น่าได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุดเมื่อเฮนเดอร์สัน ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนกระชากเข้าหาประตูแล้วยิงด้วยขวาบอลพุ่งผ่าน มือชวาร์เซอร์ ไปแล้ว แต่กลับชนเสากระเด็นออกมาอย่างน่าเสียดาย
รูปเกมของทีมเยือนเริ่มดีกว่าแต่กลับเป็น ฟูแล่ม ที่ได้ลุ้นประตูอีกครั้งในนาทีที่ 37 เดมเบเล่ เก้บบอลได้กลางสนามแล้วจ่ายมาให้เดมพ์ซี่ย์ เกี่ยวบอลเข้าขวาแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งส่ายแต่ เรน่า ยังไม่พลาดทุบบอลทิ้งได้ทัน หลังจากนั้นก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังลิเวอร์พูล เดินหน้ากดดันหวังประตูทันทีและมามีลุ้นในนาทีที่ 51 จากลูกเตะมุมของ อดัม ที่โยนไปที่หน้าประตู มาร์ค ชวาร์เซอร์ ทุบบอลออกไปเข้าทางเอ็นริเก้ ได้ซัดด้วยซ้ายทันทีบอลพุ่งแหวกผู้เล่นทั้งสองฝั่งแต่ติด ชวาร์เซอร์ ที่ยังพุ่งเซฟไว้ได้อย่างสวยงาม
นาทีที่ 59 ฟูแล่ม ได้ลุ้นประตูเช่นกันจากการทำเกมขึ้นมาทางซ้าย รีเซ่ จ่ายบอลย้อนมาที่หน้าประตูให้ ซาโมร่า ยิงแต่ติดบล็อกของ แอ็กเกอร์ ก่อนที่จะได้บอลสวนกลับแต่จังหวะจะหลุดเข้าไปยิงของ อดัม ถูกเซนเดอรอส เหนี่ยวล้มลงไปได้ แต่ปราการหลังสวิตเซอร์แลนด์ โดนแค่ใบเหลืองเท่านั้น และลูกยิงฟรีคิกของ เบลลามี่ ก็ติดกำแพงออกหลังไปซะอีก
เข้าสู่นาทีที่ 66 ลิเวอร์พูล ส่งบอลเข้าไปสู่ก้นตาข่ายได้เมื่อ เอ็นริเก้ จ่ายบอลให้ ซัวเรซ หลุดเข้าไปกระดกบอลหลบชวาร์เซอร์ ก่อนยิงเข้าไปแต่ ซัวเรซ ล้ำหน้าไปก่อนนิดเดียวเท่านั้น
เกมมาเกิดจุดเปลี่ยนในนาทีที่ 72 เมื่อ "หงส์แดง" ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ เจย์ สเพียริ่ง พุ่งเข้าไปเสียบคาบลูกคาบดอกใส่ เดมเบเล่ ผู้ตัดสิน เควิน เฟรนด์ ชักใบแดงไล่ออกทันที
นาทีที่ 77 ทีมเยือนส่งสจ๊วร์ต ดาวนิ่งกับมักซี่ โรดริเกซลงไปแทนเบลลามี่กับแคร์โรลล์
นาทีที่ 80 เจ้สัวที่ได้เปรียบตัวผู้เล่นเกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ คลิ้นท์ เดมพ์ซี่ย์ ได้ปั่นในเขตโทษบอลผ่าน เรน่า นายด่านหงส์แดงที่ได้แต่ป้องกันด้วยสายตายไปแล้ว แต่เจ้ากรรมบอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 82 มุสซ่า เดมเบเล่ ของเจ้าถิ่นได้โอกาสกระชากบอลจี้เข้ามาซัดบอลหลุดออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 83 หงส์แดงได้โอกาสทองจากลุยเดี่ยวเข้าไปของ สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ก่อนซัดด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งส่ายเข้ากรอบแต่เป็น มาร์ค ชวาร์เซอร์ ที่ยังโชว์เซฟเอาไว้ได้
นาทีที่ 84 ฟูแล่มมาไปประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ แดนนี่ เมอร์ฟี่ ปั่นด้วยเท้าขวาตรงตัว เรน่าที่รบหลุดบอลกระดอนมาเข้าทาง เดมพ์ซี่ย์ ที่ตามเข้าซ้ำโล่งๆ ไม่เหลือซาก
นาทีที่ 88 หงส์มีโอกาสตามตีเสมออีกครั้งจากจังหวะซัดด้วยซ้ายของ ชาร์ลี อดัม แต่บอลพุ่งออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 92 หงส์แดงได้โอกาสลุ้นตีเสมอจากลูกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษอีกครั้งและเป็น ซัวเรส ที่รับหน้าที่ปั่นไปติดกำแพงและเจ้าสัวตัดบอลโต้กลับเร็วเป็น แอนดี้ จอห์นสัน ที่กระชากบอลไปซัดไม่ตรงกรอบจบเกม ลิเวอร์พูล บุกพ่าย ฟูแล่ม 0-1 ส่งผลให้ฟูแล่มอันดับพุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 13 ของตาราง ขณะที่ ลิเวอร์พูล รั้งที่ 7 เหมือนเดิม
สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!!
รหัสรับโบนัส 12TH11100 ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น