ฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ
วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2554
แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) 1 - 1คริสตัล พาเลซ (แชมเปี้ยนชิพ)
(คริสตัล พาเลซชนะ 2-1 ในเวลา 120 นาที)
วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2554
แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) 1 - 1คริสตัล พาเลซ (แชมเปี้ยนชิพ)
(คริสตัล พาเลซชนะ 2-1 ในเวลา 120 นาที)
"ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เกมนี้ส่งแข้งสำรองเปิดรังพ่าย คริสตัล พาเลซ ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ ยิงแซงในช่วงต่อเวลาพิเศษอย่างเจ็บปวด 1-2 ถีบผีร่วงคาร์ลิ่ง คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
คู่สุดท้ายของรอบ 8 ทีม ที่โรงละครแห่งความฝัน แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับโผสิบรายจากเกมเสมอกับนิวคาสเซิ่ลในลีก เหลือเพียง ฟาบิโอ ดา ซิลวา รายเดียวโดยใช้งาน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นหัวหอกร่วมกับ เฟเดริโก้ มาเคด้า
ด้านพาเลซซึ่งอยู่ในช่วงปืนฝืดไม่ชนะมานานห้า นัดซ้อน และคลำเป้าไม่ได้นานถึง 485 นาทีบุกมาเยือนแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นห้ารายจากเกมเจ๊ากับ มิลล์วอลล์ 0-0 ในบ้าน
ต้นแมตช์แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต่อเกมไม่ติดจึงเป็นพาเลซที่บุกเข้าหาได้ดีกว่า แต่นาทีที่ 19 เจ้าบ้านได้โต้ขึ้นมาแล้ว ดาร์รอน กิ๊บสัน ลองยิงไกลจาก 28 หลาตามถนัด แต่บอลกระทบผู้เล่นทีมเยือนหลุดกรอบไป
ผ่านมาถึงนาทีที่ 29 ฟาบิโอ ก็มีใบเหลืองติดตัวจนได้ในจังหวะเสียบใส่ วิลเฟร็ด ซาฮา แบบโฉ่งฉ่างแถวกลางสนาม
จาก นั้นอีกสี่นาที เกมก็ชะงักชั่วคราวเมื่อ ฌอน สแกนเนลล์ บาดเจ็บในจังหวะปะทะกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ทำให้แพทย์ต้องลงไปเยียวยาก่อนจะลุกขึ้นมาเล่นต่อได้
กระทั่งนาทีที่ 37 ฟาบิโอจอมเดี้ยงก็มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอีกตามเคย และเดินออกไปให้ เอเซเกล ฟรายเออร์ส ลงบู๊แทน
ท้าย ครึ่งแรก ผีแดง พยายามหาช่องเจาะเข้าทำประตู และในนาทีที่ 44 วาเลนเซียก็เลื้อยขึ้นทางขวาไปโยนบอลเข้าเขตโทษโดย มาเม่ บิราม ดิยุฟ ตีลังกายิงจาก 12 หลาข้ามคาน
ด้าน ดิ อีเกิลส์ ต้องเปลี่ยนผู้เล่นเช่นกันในนาทีต่อมาเมื่อสแกนเนลล์ที่เจ็บมาก่อนหน้านี้ กัดฟันเล่นต่อไม่ไหวต้องเดินออกไป โดยมี โจนาธาน พารร์ ได้ลงสนามแทน ครบ 45 นาทีแรกเกมจึงจบลงแบบสุดกร่อย 0-0
ครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ดส่งราเวล มอร์ริสันลงไปแทนเบอร์บาตอฟ ขณะที่พาเลซก็ต้องเปลี่ยนดีน ม็อกซี่ย์ที่เจ็บในช่วงทดเวลาของครึ่งแรกออกให้ดาร์เรน อัมโบรสลงบู๊
นาที ที่ 52 ผีแดงน่าจะออกนำอย่างยิ่งเมื่อแอนโธนี่ การ์ดเนอร์กองหลังทีมเยือนเล่นประมาทพยายามแทงบอลลอดขาวาเลนเซีย แต่ไม่สำเร็จโดนปีกผิวสีควบหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านขวาไปซัดจาก 15 หลา แต่บอลเฉี่ยวเสาไกลไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
เกมของเจ้าบ้าน เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้น และนาทีที่ 60 มอร์ริสันก็ได้ลูกผ่านเข้าตะบันในกรอบเขตโทษด้านขวาระยะ 15 หลา ทว่าลูอิส ไพรซ์ใช้ขาสกัดได้
ถัดมาอีกสี่นาที ปีศาจแดงก็ปล่อยปอล ป๊อกบาลงไปแทนราฟาเอล ดา ซิลวาเป็นตัวสำรองรายสุดท้ายโดยพาร์ค ชี ซองต้องถอยไปรับบทฟูลแบ็ค
แต่แล้วนาทีที่ 65 เรื่องช็อคก็บังเกิดเมื่ออัมโบรสกองกลางจอมเก๋าลองส่องไกลจาก 35 หลาส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมอย่างเหลือเชื่อสุดที่เบน เอมอสจะเซฟได้ ทำให้อินทรีผงาดฟ้านำหน้า 1-0
เจ้าบ้านเร่งเกมทันที และเกือบทวงคืนได้ในอีกสองนาทีต่อมาเมื่อป๊อกบาได้โอกาสเข่นจากหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งเฉี่ยวกรอบไปอย่างหวุดหวิด
และแล้วนาทีที่ 68 แมนฯ ยูไนเต็ดก็ได้ลูกโทษในจังหวะที่แพดดี้ แม็คคาร์ธีย์กัปตันทีมเยือนออกทะเลดึงชายเสื้อมาเคด้าล้มในเขตโทษ กองหน้ามะกะโรนีจึงสังหารเองไม่พลาดพาเร้ด เดวิลส์ตีเสมอเป็น 1-1
ล่วงมาถึงนาทีที่ 74 ทีมจากลอนดอนใช้งานเกล็น เมอร์เรย์แทนเจอร์เมน อีสเตอร์เป็นตัวสำรองรายสุดท้าย
อย่างไรก็ดี ช่วงที่เหลือทั้งสองฝ่ายกินกันไม่ลง จบเกมจึงเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งชั่วโมง
ต่อ เวลาพิเศษนาทีที่ 95 ปีศาจแดงได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่กิ๊บสันลากบอลจากกราบขวาตัดเข้ามาสับไกด้วย ซ้ายจากหน้าเขตโทษ แต่บอลแฉลบกองหลังพาเลซหลุดกรอบไป
อย่าง ไรก็ดี นาทีที่ 98 ทีมเยือนมาได้ลูกฟรีคิกด้านซ้ายจาการทำฟาวล์ของพาร์คที่มีต่อซาฮา และจากการวางบอลโด่งเข้าไปลุ้นหน้าปากประตู เมอร์เรย์ซึ่งถูกจอนนี่ อีแวนส์กัปตันผีคุมไม่ดีพอก็โขกจากสี่หลาตุงตาข่าย จึงเป็นอันว่าพาเลซนำอีกหน 2-1 ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะจบลง
ครึ่ง หลังในช่วง 15 นาทีที่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ดยังเดินหน้า แต่รูปแบบการเล่นยังสะเปะสะปะไม่เลิก ไม่อาจสอยตาข่ายคืนได้โดยนาทีที่ 110 กิ๊บสันทำฟาวล์จนได้ใบเหลืองอีกราย จบเกมจึงเป็นพาเลซบุกมากำชัย 2-1 ได้ผ่านเข้ารอบตัดเชือกเป็นทีมสุดท้าย
สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด
คู่สุดท้ายของรอบ 8 ทีม ที่โรงละครแห่งความฝัน แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับโผสิบรายจากเกมเสมอกับนิวคาสเซิ่ลในลีก เหลือเพียง ฟาบิโอ ดา ซิลวา รายเดียวโดยใช้งาน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เป็นหัวหอกร่วมกับ เฟเดริโก้ มาเคด้า
ด้านพาเลซซึ่งอยู่ในช่วงปืนฝืดไม่ชนะมานานห้า นัดซ้อน และคลำเป้าไม่ได้นานถึง 485 นาทีบุกมาเยือนแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยการเปลี่ยนผู้เล่นห้ารายจากเกมเจ๊ากับ มิลล์วอลล์ 0-0 ในบ้าน
ต้นแมตช์แมนฯ ยูไนเต็ด ยังต่อเกมไม่ติดจึงเป็นพาเลซที่บุกเข้าหาได้ดีกว่า แต่นาทีที่ 19 เจ้าบ้านได้โต้ขึ้นมาแล้ว ดาร์รอน กิ๊บสัน ลองยิงไกลจาก 28 หลาตามถนัด แต่บอลกระทบผู้เล่นทีมเยือนหลุดกรอบไป
ผ่านมาถึงนาทีที่ 29 ฟาบิโอ ก็มีใบเหลืองติดตัวจนได้ในจังหวะเสียบใส่ วิลเฟร็ด ซาฮา แบบโฉ่งฉ่างแถวกลางสนาม
จาก นั้นอีกสี่นาที เกมก็ชะงักชั่วคราวเมื่อ ฌอน สแกนเนลล์ บาดเจ็บในจังหวะปะทะกับ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ทำให้แพทย์ต้องลงไปเยียวยาก่อนจะลุกขึ้นมาเล่นต่อได้
กระทั่งนาทีที่ 37 ฟาบิโอจอมเดี้ยงก็มีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอีกตามเคย และเดินออกไปให้ เอเซเกล ฟรายเออร์ส ลงบู๊แทน
ท้าย ครึ่งแรก ผีแดง พยายามหาช่องเจาะเข้าทำประตู และในนาทีที่ 44 วาเลนเซียก็เลื้อยขึ้นทางขวาไปโยนบอลเข้าเขตโทษโดย มาเม่ บิราม ดิยุฟ ตีลังกายิงจาก 12 หลาข้ามคาน
ด้าน ดิ อีเกิลส์ ต้องเปลี่ยนผู้เล่นเช่นกันในนาทีต่อมาเมื่อสแกนเนลล์ที่เจ็บมาก่อนหน้านี้ กัดฟันเล่นต่อไม่ไหวต้องเดินออกไป โดยมี โจนาธาน พารร์ ได้ลงสนามแทน ครบ 45 นาทีแรกเกมจึงจบลงแบบสุดกร่อย 0-0
ครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ดส่งราเวล มอร์ริสันลงไปแทนเบอร์บาตอฟ ขณะที่พาเลซก็ต้องเปลี่ยนดีน ม็อกซี่ย์ที่เจ็บในช่วงทดเวลาของครึ่งแรกออกให้ดาร์เรน อัมโบรสลงบู๊
นาที ที่ 52 ผีแดงน่าจะออกนำอย่างยิ่งเมื่อแอนโธนี่ การ์ดเนอร์กองหลังทีมเยือนเล่นประมาทพยายามแทงบอลลอดขาวาเลนเซีย แต่ไม่สำเร็จโดนปีกผิวสีควบหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษด้านขวาไปซัดจาก 15 หลา แต่บอลเฉี่ยวเสาไกลไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
เกมของเจ้าบ้าน เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้น และนาทีที่ 60 มอร์ริสันก็ได้ลูกผ่านเข้าตะบันในกรอบเขตโทษด้านขวาระยะ 15 หลา ทว่าลูอิส ไพรซ์ใช้ขาสกัดได้
ถัดมาอีกสี่นาที ปีศาจแดงก็ปล่อยปอล ป๊อกบาลงไปแทนราฟาเอล ดา ซิลวาเป็นตัวสำรองรายสุดท้ายโดยพาร์ค ชี ซองต้องถอยไปรับบทฟูลแบ็ค
แต่แล้วนาทีที่ 65 เรื่องช็อคก็บังเกิดเมื่ออัมโบรสกองกลางจอมเก๋าลองส่องไกลจาก 35 หลาส่งบอลเสียบสามเหลี่ยมอย่างเหลือเชื่อสุดที่เบน เอมอสจะเซฟได้ ทำให้อินทรีผงาดฟ้านำหน้า 1-0
เจ้าบ้านเร่งเกมทันที และเกือบทวงคืนได้ในอีกสองนาทีต่อมาเมื่อป๊อกบาได้โอกาสเข่นจากหน้าเขตโทษ แต่บอลพุ่งเฉี่ยวกรอบไปอย่างหวุดหวิด
และแล้วนาทีที่ 68 แมนฯ ยูไนเต็ดก็ได้ลูกโทษในจังหวะที่แพดดี้ แม็คคาร์ธีย์กัปตันทีมเยือนออกทะเลดึงชายเสื้อมาเคด้าล้มในเขตโทษ กองหน้ามะกะโรนีจึงสังหารเองไม่พลาดพาเร้ด เดวิลส์ตีเสมอเป็น 1-1
ล่วงมาถึงนาทีที่ 74 ทีมจากลอนดอนใช้งานเกล็น เมอร์เรย์แทนเจอร์เมน อีสเตอร์เป็นตัวสำรองรายสุดท้าย
อย่างไรก็ดี ช่วงที่เหลือทั้งสองฝ่ายกินกันไม่ลง จบเกมจึงเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษอีกครึ่งชั่วโมง
ต่อ เวลาพิเศษนาทีที่ 95 ปีศาจแดงได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่กิ๊บสันลากบอลจากกราบขวาตัดเข้ามาสับไกด้วย ซ้ายจากหน้าเขตโทษ แต่บอลแฉลบกองหลังพาเลซหลุดกรอบไป
อย่าง ไรก็ดี นาทีที่ 98 ทีมเยือนมาได้ลูกฟรีคิกด้านซ้ายจาการทำฟาวล์ของพาร์คที่มีต่อซาฮา และจากการวางบอลโด่งเข้าไปลุ้นหน้าปากประตู เมอร์เรย์ซึ่งถูกจอนนี่ อีแวนส์กัปตันผีคุมไม่ดีพอก็โขกจากสี่หลาตุงตาข่าย จึงเป็นอันว่าพาเลซนำอีกหน 2-1 ก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะจบลง
ครึ่ง หลังในช่วง 15 นาทีที่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ดยังเดินหน้า แต่รูปแบบการเล่นยังสะเปะสะปะไม่เลิก ไม่อาจสอยตาข่ายคืนได้โดยนาทีที่ 110 กิ๊บสันทำฟาวล์จนได้ใบเหลืองอีกราย จบเกมจึงเป็นพาเลซบุกมากำชัย 2-1 ได้ผ่านเข้ารอบตัดเชือกเป็นทีมสุดท้าย
สมัครสมาชิก 12BET วันนี้รับโบนัสวันนี้สิคะ!!
รหัสรับโบนัส 12TH11100 ฟรีโบนัส 100% สูงสุดถึง 1,000 บาท
รหัสรับโบนัส 12B33 ฟรีโบนัส 33% จำนวนเงินสูงสุด คือ 10,050บาท
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น