'บังยี' จัดเต็ม แข้งไทยยิงอิเหนา ลูกละล้าน

ขุนพลนักเตะทีมชาติไทยคึก! หลัง “บังยี”  วรวีร์ มะกูดี ประกาศอัดฉีดเต็มเหนี่ยวประตูละ 1 ล้าน ในการลงสนามเตะชี้ชะตากับ “เจ้าภาพ” อินโดนีเซีย ในศึกลูกหนังซีเกมส์ ครั้งที่ 26 รอบแรก นัดที่ 3 วันนี้ (13 พ.ย.) เพื่อต่อชีวิตลุ้นเข้ารอบรองชนะเลิศ  “กาเซ็ม”  เกษม จริยวัฒน์วงษ์ ผู้จัดการทีมไทย ระบุ นักเตะรู้ดีว่าไม่มีทางเลือก ต้องคว้า 3 แต้มให้ได้เท่านั้น รับต้องเจอความกดดันแน่นอน เพราะเล่นท่ามกลางกองเชียร์อิเหนากว่า 5 หมื่นคน แต่เชื่อหากเล่นได้ตามแท็กติกจะชนะได้ ขณะที่ “น้าเหม่ง” ประพล พงษ์พานิช ปรับทัพอีก ใช้ระบบ 4-4-2 เข้าสู้ พร้อมวาง “เจ้าแซม” รณชัย รังสิโย กับ “เจ้ากร” ณธฤษณ์ ธรรมรสโสภณ ยืนเป็นคู่หัวหอกล่าตาข่าย เกมนี้ช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี ยิงสดให้ชม 19.00 น.



ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26 โดยพวกเขามีโปรแกรมลงสนามรอบแรกนัดที่ 3 พบกับ “เจ้าภาพ” อินโดนีเซีย ที่มี 6 คะแนนเต็ม จากการลงสนามมา 2 นัด ในช่วงหัวค่ำวันนี้ (13 พ.ย.) ที่สนามเกโลรา บัง การ์โน เวลา 19.00 น. โดยช่อง 9 โมเดิร์นไนน์ทีวี จะถ่ายทอดสดให้ชม ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา ในช่วงเช้าทั้งหมดได้ลงมายืดเส้นยืดสายภายในบริเวณ รร.สุลต่าน ซึ่งเป็นที่พัก ก่อนจะลง เล่นน้ำที่สระว่ายน้ำ เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ภายใต้การควบคุมของ รุด ไมเนอร์ นักกายภาพบำบัดชาวเยอรมัน จากนั้นในช่วงบ่ายไปฝึกซ้อมที่สนามซ้อมภายในเกโลรา บัง การ์โน เน้นไปที่การเซตตัวผู้เล่นและแท็กติกที่จะเล่นกับอินโดนีเซีย


หลัง การฝึกซ้อม “กาเซ็ม” เกษม จริยวัฒน์วงศ์ ผจก.ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ตนยังยืนยันเช่นเดิมว่าทีมของเราไม่มีทางเลือกนอกจากต้องเอาชนะเท่านั้นถึง จะยังมีลุ้นในการเข้ารอบรองชนะเลิศ แต่ก็ยอมรับว่าการเจอกับเจ้าภาพเป็นงานที่หนัก และตนก็รู้สึกกดดันเหมือนกัน เช่นเดียวกับนักเตะ เพราะเกมนี้เชื่อว่าจะต้องเล่นกันท่ามกลางแฟนบอลอิเหนากว่า 5 หมื่นคนแน่นอน อย่างไรก็ตาม ตนก็พยายามปลุกขวัญให้นักเตะสู้ ซึ่งหลังจากที่เอาชนะกัมพูชามาได้ 4-0 สภาพจิตใจของนักเตะดีขึ้นกว่านัดแรกที่แพ้มาเลเซีย 1-2 อย่างเห็นได้ชัด


เกม นี้ตนคิดว่าหากนักเตะไปเล่นตามเกมของอินโดนีเซียก็จะตกที่นั่งลำบากแน่นอน ดังนั้นนักเตะไทยต้องเล่นกันด้วยสติและปัญญาซึ่งถือว่ามีความสำคัญมากในสนาม แต่ก็ยอมรับว่าน่าเป็นห่วงหากอินโดนีเซียมาเล่นแบบเน้นเกมรับ จะทำให้เราเล่นกันลำบาก ทั้งนี้ เจ้าภาพสามารถเล่นแบบมีทางให้เลือก จะชนะหรือเสมอก็ได้เนื่องจากชนะมา 2 เกมแล้ว ส่วนเรื่องผู้ตัดสินคงไม่น่าห่วงเพราะนายกสมาคมฟุตบอลไทยเป็นประธานผู้ ตัดสินของเอเอฟซีอยู่นัดนี้หากทีมไทยเล่นได้ตามเกมของตัวเองก็จะเอาชนะได้


สำหรับ กรณีที่ “เจ้าอุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน โดนใบแดงในเกมฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับซาอุดีอาระเบีย นั้นได้รับการยืนยันจากนายกสมาคมฟุตบอลไทยแล้วว่าไม่ส่งผลถึงซีเกมส์ หากสภาพร่างกายพร้อมก็จะส่งเขาลงเล่นทันที โดยเจ้าตัวจะเดินทางมาสมทบกับทีมในช่วงเที่ยงของวันที่ 13 พ.ย. ซึ่งหากมองในแง่ดี การที่เราลงเตะในเวลา 19.00 น. จะทำให้เขามีเวลาพักพอสมควรหากต้องลงทำหน้าที่จริง


ด้าน “น้าเหม่ง” ประพล พงษ์พานิช กุนซือทีมชาติไทย กล่าวว่า ต้องมีการปรับแท็กติกแน่นอน นัดนี้ต้องระวังเป็นพิเศษในช่วง 10-15 นาทีแรก หากผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ก็ถือว่าเท่ากันหมด หลังจากนั้นทีมไทยจะเปิดเกมสู้กันเลย เชื่อว่าศักยภาพของนักเตะไทยน่าจะสู้ได้ โดยจะเล่นในระบบ 4-4-2 แต่ตัวผู้เล่นต้องขอเช็กให้ละเอียดก่อน รวมถึงต้องเช็กด้วยว่า ธีราทร บุญมาทัน เล่นไหวหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆจะมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการเล่นของตัวนักเตะหลายรายด้วย


โดย 11 ผู้เล่นคนแรก ของทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนาม ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู อุกฤษณ์ วงศ์มีมา คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ สุจริต จันทกล กับคมกริช คำโสกเชือก แบ็กขวา ซีเกต หมาดปูเต๊ะ แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน กองกลาง คู่มิดฟิลด์ สารัช อยู่เย็น และปกเกล้า อนันต์ ริมเส้นด้านซ้าย เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ริมเส้นฝั่งขวา อิสรพงษ์ ลิละคร คู่กองหน้า รณชัย รังสิโย (กัปตันทีม) ยืนคู่กับณธฤษภ์ ธรรมรสโสภณ


ขณะเดียวกันทางด้าน “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็ได้ประกาศอัดฉีดให้นักเตะไทยในเกมนี้ประตูละ 1 ล้านบาท โดยนายกยีเผยว่า ตนมั่นใจว่าเด็กทุกคนตั้งใจเต็มที่อยู่แล้วสำหรับเกมสำคัญกับเจ้าภาพนัดนี้ ที่ต้องชนะสถานเดียว แต่เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้ฮึกเหิมยิ่งขึ้นไปอีกตนจึงตัดสินใจที่จะ อัดฉีดก้อนใหญ่ดังกล่าว


อนึ่ง สถิติระหว่างไทยกับอินโดนีเซียที่เคยพบกันมาในซีเกมส์ ทั้งหมด 15 ครั้ง ทีมชาติไทยไม่เคยแพ้ “อิเหนา” ในเวลา 90 นาทีแม้แต่เกมเดียว โดยนักเตะ “ช้างศึก” เอาชนะได้ถึง 9 ครั้งเป็นการชนะในช่วงต่อเวลา 1 ครั้งและยิงจุดโทษ 1 ครั้ง เสมอกัน 6 ครั้ง แต่ทีมไทยแพ้ในการดวลจุดโทษ 2 ครั้ง